KKC เป็นบริษัที่มี DCA รึเปล่าครับ?
KKC เป็นบริษัที่มี DCA รึเปล่าครับ?
สวัสดีครับ ผมได้ตามอ่านข้อมูลในบอร์ดนี้มานานซึ่งผมชอบมากเพราะมีสาระดี ได้อ่านถึงเรื่อง DCA ส่วนตัวผมคิดหุ้นของบริษัท บริษัทนึง ที่สินค้ามีDCA ก็คือ KKC นี่แหละครับ ขอเล่าความคิดของผมให้ฟังแล้วถูกผิดอย่างไรช่วย comment กันหน่อยนะครับ
KKC เป็นหุ้นของ บริษัทกุนธรเคอร์บี้ ซึ่งมีบริษัทย่อยอีกบริษัท คือ กุนธรเฟาว์ดรี่ ซึ่งเป็นบริษัททำตัวหล่อคุณภาพสูงครับ ซึ่งพูดถึงบริษัทย่อย ตัวเหล็กหล่อนี่ ก็จะทำส่งให้บริษัทแม่เพื่อนใช้ในการสร้าง compressor air และนอกจากนั้นก็ยังรับทำตัวหล่อ ตามorder ซึ่งเกี่ยวข้องกับธุรกิจรถยนต์อีกด้วย
กลับมาที่ตัว KKC อีกที เป็นบริษัทที่ทำ compressor air ซึ่งเป็นส่วนประกอบของ air conditioner , compressor air ปกติจะมี2แบบครับ คือ แบบ rotary และแบบลูกสูบ ที่ KKC ทำคือแบบลูกสูบ ซึ่งเป็นแบบที่เทคโนโลยีล้าหลังกว่า ควมคุมการผลิตยากกว่า โรงงานส่วนใหญ่จะไม่ค่อยทำกันเท่าไหร่ หันไปทำแบบ rotaryใน4-5ปีที่ผ่านมา ซึ่งจริงๆ KKC ก็ไปเปิดบริษัทย่อยคือ THAICOM ทำcompressor แบบrotary เหมือนกันกัน แต่ขายทิ้งไปแล้วเพราะขาดทุนมาก(ช่วงก่อนวิกฤตKKCมีบริษัทย่อยเยอะแต่ตอนหลังขายทิ้งหมดเหลือแค่ตัวทำเหล็กหล่อ) จากเหตุผลที่พูดมาจะเห็นว่าคู่แข่งของ KKC มีน้อย Compressor แบบลูกสูบจะมีข้อดีตรงที่ จะใช้ในอุปกรณ์ทำความเย็นที่ต้องทำงานหนักครับ คืออยู่ในที่ๆมีอากาศร้อนมากๆ ผมได้คุยกับวิศวกรที่ KKC เค้าบอกว่าตอนนี้ order จากตะวันออกกลางก็มีเข้ามาเยอะ เพราะว่าอย่างที่บอกไปโรงงานที่ทำอุปกรณ์ compressor ลูกสูบเหลือน้อย
ข้อดีของ KKC
- Compressor ลูกสูบมีคู่แข่งน้อย
-ส่วนแบ่งตลาดในเมืองไทยค่อนข้างสูง มาเป็นอันดับหนึ่งเลยคงจะเพราะคู่แข่งน้อยอีก
-โรงงานกำลังขยายโรงงานครับโอกาศที่กำไรจะเติบโตมากๆก็มีลุ้น
-รัฐบาลไทยพึ่งประกาศลดภาษี air contioner
-ไม่ได้ผลิตตัวเครื่องแอร์เอง แต่รับจ้างผลิตcompressor ขาย ทำให้ไม่ต้องไปแข่งขันทางการตลาดที่รุนแรงมาก
ข้อเสีย
-Book value ต่ำประมาณมาณ เกือบๆ30 บาท เพราะว่าหนี้เยอะ
-โรงงานกำลังขยายการผลิตยิ่งเพิ่มหนี้เข้าไปอีก
-ยังไม่น่าจะจ่ายปันผลได้ถึงแม้ว่าล้างขาดทุนสะสมแล้ว แต่มีหนี้เหลืออยู่ และกำลังขยายการผลิต
**ส่วนตัวผมคิดว่า KKC มีสินค้าที่เป็น DCA แต่ว่า งบการเงินยังไม่แข็งแรงมากนัก เพราะว่าหนี้เยอะ แต่คิดว่าในอนาคตน่าจะเคลียร์ได้เพราะทำกำไรได้ค่อยข้างดี สาเหตุที่หนี้เยอะเพราะไปเปิดบริษัทลูกเยอะแยะแล้วเจ๋ง แต่ปัจจุบันก็ได้ขายทิ้งไปหมดแล้ว(แต่เจ้าของยังถือเป็นชื่อตัวเองอยู่) ก็น่าจะทำให้ KKC ดีขึ้นไม่ซ้ำรอบเดิมครับ
KKC เป็นหุ้นของ บริษัทกุนธรเคอร์บี้ ซึ่งมีบริษัทย่อยอีกบริษัท คือ กุนธรเฟาว์ดรี่ ซึ่งเป็นบริษัททำตัวหล่อคุณภาพสูงครับ ซึ่งพูดถึงบริษัทย่อย ตัวเหล็กหล่อนี่ ก็จะทำส่งให้บริษัทแม่เพื่อนใช้ในการสร้าง compressor air และนอกจากนั้นก็ยังรับทำตัวหล่อ ตามorder ซึ่งเกี่ยวข้องกับธุรกิจรถยนต์อีกด้วย
กลับมาที่ตัว KKC อีกที เป็นบริษัทที่ทำ compressor air ซึ่งเป็นส่วนประกอบของ air conditioner , compressor air ปกติจะมี2แบบครับ คือ แบบ rotary และแบบลูกสูบ ที่ KKC ทำคือแบบลูกสูบ ซึ่งเป็นแบบที่เทคโนโลยีล้าหลังกว่า ควมคุมการผลิตยากกว่า โรงงานส่วนใหญ่จะไม่ค่อยทำกันเท่าไหร่ หันไปทำแบบ rotaryใน4-5ปีที่ผ่านมา ซึ่งจริงๆ KKC ก็ไปเปิดบริษัทย่อยคือ THAICOM ทำcompressor แบบrotary เหมือนกันกัน แต่ขายทิ้งไปแล้วเพราะขาดทุนมาก(ช่วงก่อนวิกฤตKKCมีบริษัทย่อยเยอะแต่ตอนหลังขายทิ้งหมดเหลือแค่ตัวทำเหล็กหล่อ) จากเหตุผลที่พูดมาจะเห็นว่าคู่แข่งของ KKC มีน้อย Compressor แบบลูกสูบจะมีข้อดีตรงที่ จะใช้ในอุปกรณ์ทำความเย็นที่ต้องทำงานหนักครับ คืออยู่ในที่ๆมีอากาศร้อนมากๆ ผมได้คุยกับวิศวกรที่ KKC เค้าบอกว่าตอนนี้ order จากตะวันออกกลางก็มีเข้ามาเยอะ เพราะว่าอย่างที่บอกไปโรงงานที่ทำอุปกรณ์ compressor ลูกสูบเหลือน้อย
ข้อดีของ KKC
- Compressor ลูกสูบมีคู่แข่งน้อย
-ส่วนแบ่งตลาดในเมืองไทยค่อนข้างสูง มาเป็นอันดับหนึ่งเลยคงจะเพราะคู่แข่งน้อยอีก
-โรงงานกำลังขยายโรงงานครับโอกาศที่กำไรจะเติบโตมากๆก็มีลุ้น
-รัฐบาลไทยพึ่งประกาศลดภาษี air contioner
-ไม่ได้ผลิตตัวเครื่องแอร์เอง แต่รับจ้างผลิตcompressor ขาย ทำให้ไม่ต้องไปแข่งขันทางการตลาดที่รุนแรงมาก
ข้อเสีย
-Book value ต่ำประมาณมาณ เกือบๆ30 บาท เพราะว่าหนี้เยอะ
-โรงงานกำลังขยายการผลิตยิ่งเพิ่มหนี้เข้าไปอีก
-ยังไม่น่าจะจ่ายปันผลได้ถึงแม้ว่าล้างขาดทุนสะสมแล้ว แต่มีหนี้เหลืออยู่ และกำลังขยายการผลิต
**ส่วนตัวผมคิดว่า KKC มีสินค้าที่เป็น DCA แต่ว่า งบการเงินยังไม่แข็งแรงมากนัก เพราะว่าหนี้เยอะ แต่คิดว่าในอนาคตน่าจะเคลียร์ได้เพราะทำกำไรได้ค่อยข้างดี สาเหตุที่หนี้เยอะเพราะไปเปิดบริษัทลูกเยอะแยะแล้วเจ๋ง แต่ปัจจุบันก็ได้ขายทิ้งไปหมดแล้ว(แต่เจ้าของยังถือเป็นชื่อตัวเองอยู่) ก็น่าจะทำให้ KKC ดีขึ้นไม่ซ้ำรอบเดิมครับ
ขอบคุณครับคุณ Mon Money และคุณลูกอีสาน
บริษัทไทยคอมเพรสเซอร์ ก็คือ บริษัท THAICOM ที่ผมพูดถึงไปครับว่า KKC ไม่ได้ถือหุ้นอยู่แล้ว แต่รู้สึกว่าทางเจ้าของจะถืออยู่โดยใช้ชื่อตัวเอง
เดี๋ยวคงจะต้องไปศึกษาเรื่อง Compressor ให้ลึกซึ้งอีกทีซะแล้ว ว่าญี่ปุ่นได้เปรียบเราแค่ไหน แต่เท่าที่ถามจากญาติสนิทของผมที่เป็นวิศวกรทำงานอยู่โรงงานผลิตCompressor ก็เหมือนที่ผมเล่าไปแหละครับ ว่าในไทยไม่ค่อยมีคนทำแบบลูกสูบแล้ว
บริษัทไทยคอมเพรสเซอร์ ก็คือ บริษัท THAICOM ที่ผมพูดถึงไปครับว่า KKC ไม่ได้ถือหุ้นอยู่แล้ว แต่รู้สึกว่าทางเจ้าของจะถืออยู่โดยใช้ชื่อตัวเอง
เดี๋ยวคงจะต้องไปศึกษาเรื่อง Compressor ให้ลึกซึ้งอีกทีซะแล้ว ว่าญี่ปุ่นได้เปรียบเราแค่ไหน แต่เท่าที่ถามจากญาติสนิทของผมที่เป็นวิศวกรทำงานอยู่โรงงานผลิตCompressor ก็เหมือนที่ผมเล่าไปแหละครับ ว่าในไทยไม่ค่อยมีคนทำแบบลูกสูบแล้ว
KKC สรุปผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน
บริษัท กุลธรเคอร์บี้ จำกัด (มหาชน)
สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน (หน่วย : พันบาท)
ไตรมาสที่ 3 งวด 9 เดือน
ปี 2546 2545 2546 2545
กำไร(ขาดทุน)สุทธิ 124,464 60,835 372,741 293,183
กำไร(ขาดทุน)สุทธิต่อหุ้น(บาท) 4.15 2.03 12.42 9.77
หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุประกอบงบการเงิน
จากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์
"ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบการเงินฉบับเต็ม
ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต้นฉบับให้กับสำนักงาน ก.ล.ต. เรียบร้อยแล้ว"
บริษัท กุลธรเคอร์บี้ จำกัด (มหาชน)
สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน (หน่วย : พันบาท)
ไตรมาสที่ 3 งวด 9 เดือน
ปี 2546 2545 2546 2545
กำไร(ขาดทุน)สุทธิ 124,464 60,835 372,741 293,183
กำไร(ขาดทุน)สุทธิต่อหุ้น(บาท) 4.15 2.03 12.42 9.77
หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุประกอบงบการเงิน
จากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์
"ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบการเงินฉบับเต็ม
ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต้นฉบับให้กับสำนักงาน ก.ล.ต. เรียบร้อยแล้ว"
