ต่างชาติน่ากลัวจริงหรือ
ขอออกความเห็นบ้างนะครับ คือผมเคยเขียนบทความนึงที่เวปบอร์ดแห่งหน่งไว้ดังนี้
"ทำไมต่างชาติชนะเสมอ" อันนี้ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่าต่างชาติหรือฝรั่งที่เราเรียกกันนั้น แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ ฝรั่งหัวแดง และ ฝรั่งหัวดำ หัวแดงนั้นมักจะเล่นเป็นระยะยาว ส่วนใหญ่ใช้ EMA 200 วันขึ้นไป แต่หัวดำนั้นพอๆกับพี่ไทยเราคือ เข้าเร็วออกเร็ว แต่ ทั้ง 2 นั้นถือว่า เหมือนกันตรงเก่งพอๆกันและเก่งกว่าเรา
บทความก่อนอ้างจาก นสพ.ธุรกิจฉบับหนึ่งที่อ้างว่าเอาข้อมูลมาจาก ตลท ว่า ในไทย แบ่งเป็นรายย่อย 70% ต่างชาติ 20% จะเห็นได้ว่า คน 70 คน ทำไมแพ้คน 20 คนทั้งๆที่เรียกได้ว่า 1 ต่อ 3 เลย สู้กันก็ 2 มือ ต่อ 6 เท้า ทำไมเรายังแพ้ เพราะตลาดหุ้นสู้ด้วยสมอง ไม่ได้สู้ด้วยกำลัง ผู้บริหาร1คน(CEO)ใช้สมองสร้างกลยุทธ พนักงาน100 คนใช้แรงกายสร้างแรงขับเคลื่อน มันเป็นกฏเกณฑ์ของเศรษฐศาสตร์และการบริหาร ดังนั้น มาดูกันลึกลงไปอีกว่า ทำไม ต่างชาติถึงเก่งกว่า
เอาหัวดำก่อนละกัน ถ้าท่านเคยไปฮ่องกง หรือไต้หวัน จะเห็นว่า ตอนเช้าตรู่ผู้คนรีบขวักไขว่ไปทำงาน มือข้างหนึ่งถือกระเษเอกสาร อีกข้างจะถือหนังสือพิมพ์ ย้อยมองไปที่ร้านกาแฟ จะเห็นคนวัยกลางคนถึงสูงอายุ ทุกคนล้วนมี นสพในมือ เค้าว่ากันว่า มีข่าว 2 ชนิดให้อ่าน คือ 1. เล่นม้า และ 2. เล่นหุ้น แค่นี้ก็พอมองออกแล้วครับว่า สังคมหุ้นเขาได้เปรียบเราขนาดไหน
พวกหัวแดงยิ่งไม่ต้องพูดถึง พวกนี้ไม่ใช่ประชาชนธรรมดาที่เล่นหุ้น ถามว่า หัวแดงไม่มีแมงเม่าหรือ ตอบว่ามี แต่พวกนั้นก็เล่นในประเทศตัวเอง มีเพียง พวกสุดยอดวิชาเท่านั้นที่ออกมาเล่นนอกบ้าน (ถ้าตอนนี้ให้ท่านไปเล่นที่ ฮั่งเส็งหรือ ดาวน์โจนส์ ท่านจะไปไหม) แสดงว่าพวกนี้ระดับสุดยอด
แล้วเราจะสู้ได้อย่างไร "รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง" กับ "แพ้ชนะ รู้ผลตั้งแต่อยู่ในกระโจม" 2 อันนี้ผมชอบมาก แสดงให้เห็นถึงว่า 1 เราต้องมีการวางแผนก่อนทำศึกเสมอ และ 2 เราต้องมีความรู้อย่างมากในการจะทำศึกกับคู่ต่อสู้ของเรา ทั้ง 2 ข้อนี้ฝรั่งมี แต่ เราไม่มี
เรื่องต่อมาก็คือ ทำไมฝรั่งรู้ไปหมด (ต่อไปนี้ความหมายของฝรั่งคือ ฝรั่งที่ระดับสุดยอดนะครับ ไม่ใช่ฝรั่งแมงเม่า) หุ้นไทยเกิดมาได้ไม่กี่สิบปี แต่ฝรั่งมีมานานแสนนาน ถ้าเปรียบการทำงาน เราก็เพิ่งเรียนจบแล้วมาทำงาน แต่เขาทำงานมานานเป็น 20-30 ปี ประสบการณ์เขาเยอะกว่าเรามาก ปัญหาต่างๆเขาเจอมาก่อนเราทั้งนั้น การแก้ปัญหาเขาทำมาแล้วทั้งนั้น และที่สำคัญที่สุด ตำราที่พวกเราเรียน พวกเขาล้วนเป็นผู้เขียน เขาเขียน เราใช้ ใครจะเก่งกว่าใคร ใครจะรู้กลยุทธมากกว่าใคร นี่เป็นตรรกะแบบง่ายๆ
อาจารย์สอนศิษย์ 100 คน มีเพียง 1 คน หรือไม่มีเลยที่จะเก่งกว่าอาจารย์ เพราะ
1.แม้อาจารย์จะสอนเท่าใดก็ไม่หมดกับความรู้ที่มีอยู่(สังเกตุง่ายๆ ท่านอ่านหนังสือ 1 เล่ม 100 หน้า จนจบแล้วเอาไปเล่าต่อ คนฟังเขียนใหม่จะได้ไม่ถึง 50 หน้า เกิดจากผู้เล่า เล่าขาดไปบ้าง ผู้ฟังก็จดไม่ครบบ้าง)
2.คนส่วนใหญ่ยอมรับที่จะเรียน แต่ไม่ยอมที่จะคิด
สมการ a2+2ab+b2 ที่พวกเราเรียนใครคิดค้น คิดค้นได้อย่างไร ทำไมถึงคิดออกมาได้ เราไม่เคยรู้ไม่เคยสนใจ เรารู้แต่จะเอาไปใช้เท่านั้น ใช้แล้วคำตอบถูกหรือผิดเท่านั้นที่เราสนใจ
ทั้ง 2 สิ่งที่กล่าวมาจึงทำให้เรา วนเวียนอยู่กับคำว่า ไม่หลุดพ้นจากเบี้ยล่างเสมอ หากใครหลุดจาก 2 ข้อนี้ได้สักวันก็มีโอกาสเป็น 1 ใน 100 ที่เก่งกว่าอาจารย์
เราก็คน ต่างชาติก็คน เรามีสมองอันเดียว ขา 2 แขน 2 ต่างชาติก็มีเหมือนเราทุกอย่าง ที่ท่านพูดถูกต้องแล้ว จริงๆแล้ว ต่างชาติก็ไม่ได้เก่งไปกว่าเรา แต่ เราในที่นี้มีอยู่กี่คนหละครับ และต่างชาติในที่นี้หมายถึง ต่างชาติชาวบ้านธรรมดา หรือผู้เจนสนามหละครับ ต่างชาติในที่นี้เอาแค่ระดับสมองน้องๆ จอสโซรอส ก็เล่นเราแย่แล้วครับ มันอาจจะทำอะไรท่านไม่ได้ หรือ นักเล่นหุ้นไทยอีกหลายคน แต่ รายย่อยไทยคือเป้าหมายของเขาที่จะมาเอากำไรกลับไป มันก็เปรียบเหมือนการรบชิงเมืองแหละครับ(ต่างชาติที่คิดมาเอากำไรจากบ้านเรา เราต้องยอมรับว่าไม่ธรรมดา)เขากล้าออกจากบ้านมาบุกเมืองเรา แสดงว่าเขาต้องพร้อม ในทางกลับกันท่านยังไม่ชนะตลาดในบ้านตัวเองท่านจะไปเล่นตลาดนอกไหมครับ
เราอย่ากลัวต่างชาตินั้นถูกต้องที่สุด แต่เราต้องไม่ประมาทคู่ต่อสู้และศึกษากลยุทธของเขา เราจึงจะชนะได้
ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ผิดถูกไม่ว่ากัน
"ทำไมต่างชาติชนะเสมอ" อันนี้ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่าต่างชาติหรือฝรั่งที่เราเรียกกันนั้น แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ ฝรั่งหัวแดง และ ฝรั่งหัวดำ หัวแดงนั้นมักจะเล่นเป็นระยะยาว ส่วนใหญ่ใช้ EMA 200 วันขึ้นไป แต่หัวดำนั้นพอๆกับพี่ไทยเราคือ เข้าเร็วออกเร็ว แต่ ทั้ง 2 นั้นถือว่า เหมือนกันตรงเก่งพอๆกันและเก่งกว่าเรา
บทความก่อนอ้างจาก นสพ.ธุรกิจฉบับหนึ่งที่อ้างว่าเอาข้อมูลมาจาก ตลท ว่า ในไทย แบ่งเป็นรายย่อย 70% ต่างชาติ 20% จะเห็นได้ว่า คน 70 คน ทำไมแพ้คน 20 คนทั้งๆที่เรียกได้ว่า 1 ต่อ 3 เลย สู้กันก็ 2 มือ ต่อ 6 เท้า ทำไมเรายังแพ้ เพราะตลาดหุ้นสู้ด้วยสมอง ไม่ได้สู้ด้วยกำลัง ผู้บริหาร1คน(CEO)ใช้สมองสร้างกลยุทธ พนักงาน100 คนใช้แรงกายสร้างแรงขับเคลื่อน มันเป็นกฏเกณฑ์ของเศรษฐศาสตร์และการบริหาร ดังนั้น มาดูกันลึกลงไปอีกว่า ทำไม ต่างชาติถึงเก่งกว่า
เอาหัวดำก่อนละกัน ถ้าท่านเคยไปฮ่องกง หรือไต้หวัน จะเห็นว่า ตอนเช้าตรู่ผู้คนรีบขวักไขว่ไปทำงาน มือข้างหนึ่งถือกระเษเอกสาร อีกข้างจะถือหนังสือพิมพ์ ย้อยมองไปที่ร้านกาแฟ จะเห็นคนวัยกลางคนถึงสูงอายุ ทุกคนล้วนมี นสพในมือ เค้าว่ากันว่า มีข่าว 2 ชนิดให้อ่าน คือ 1. เล่นม้า และ 2. เล่นหุ้น แค่นี้ก็พอมองออกแล้วครับว่า สังคมหุ้นเขาได้เปรียบเราขนาดไหน
พวกหัวแดงยิ่งไม่ต้องพูดถึง พวกนี้ไม่ใช่ประชาชนธรรมดาที่เล่นหุ้น ถามว่า หัวแดงไม่มีแมงเม่าหรือ ตอบว่ามี แต่พวกนั้นก็เล่นในประเทศตัวเอง มีเพียง พวกสุดยอดวิชาเท่านั้นที่ออกมาเล่นนอกบ้าน (ถ้าตอนนี้ให้ท่านไปเล่นที่ ฮั่งเส็งหรือ ดาวน์โจนส์ ท่านจะไปไหม) แสดงว่าพวกนี้ระดับสุดยอด
แล้วเราจะสู้ได้อย่างไร "รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง" กับ "แพ้ชนะ รู้ผลตั้งแต่อยู่ในกระโจม" 2 อันนี้ผมชอบมาก แสดงให้เห็นถึงว่า 1 เราต้องมีการวางแผนก่อนทำศึกเสมอ และ 2 เราต้องมีความรู้อย่างมากในการจะทำศึกกับคู่ต่อสู้ของเรา ทั้ง 2 ข้อนี้ฝรั่งมี แต่ เราไม่มี
เรื่องต่อมาก็คือ ทำไมฝรั่งรู้ไปหมด (ต่อไปนี้ความหมายของฝรั่งคือ ฝรั่งที่ระดับสุดยอดนะครับ ไม่ใช่ฝรั่งแมงเม่า) หุ้นไทยเกิดมาได้ไม่กี่สิบปี แต่ฝรั่งมีมานานแสนนาน ถ้าเปรียบการทำงาน เราก็เพิ่งเรียนจบแล้วมาทำงาน แต่เขาทำงานมานานเป็น 20-30 ปี ประสบการณ์เขาเยอะกว่าเรามาก ปัญหาต่างๆเขาเจอมาก่อนเราทั้งนั้น การแก้ปัญหาเขาทำมาแล้วทั้งนั้น และที่สำคัญที่สุด ตำราที่พวกเราเรียน พวกเขาล้วนเป็นผู้เขียน เขาเขียน เราใช้ ใครจะเก่งกว่าใคร ใครจะรู้กลยุทธมากกว่าใคร นี่เป็นตรรกะแบบง่ายๆ
อาจารย์สอนศิษย์ 100 คน มีเพียง 1 คน หรือไม่มีเลยที่จะเก่งกว่าอาจารย์ เพราะ
1.แม้อาจารย์จะสอนเท่าใดก็ไม่หมดกับความรู้ที่มีอยู่(สังเกตุง่ายๆ ท่านอ่านหนังสือ 1 เล่ม 100 หน้า จนจบแล้วเอาไปเล่าต่อ คนฟังเขียนใหม่จะได้ไม่ถึง 50 หน้า เกิดจากผู้เล่า เล่าขาดไปบ้าง ผู้ฟังก็จดไม่ครบบ้าง)
2.คนส่วนใหญ่ยอมรับที่จะเรียน แต่ไม่ยอมที่จะคิด
สมการ a2+2ab+b2 ที่พวกเราเรียนใครคิดค้น คิดค้นได้อย่างไร ทำไมถึงคิดออกมาได้ เราไม่เคยรู้ไม่เคยสนใจ เรารู้แต่จะเอาไปใช้เท่านั้น ใช้แล้วคำตอบถูกหรือผิดเท่านั้นที่เราสนใจ
ทั้ง 2 สิ่งที่กล่าวมาจึงทำให้เรา วนเวียนอยู่กับคำว่า ไม่หลุดพ้นจากเบี้ยล่างเสมอ หากใครหลุดจาก 2 ข้อนี้ได้สักวันก็มีโอกาสเป็น 1 ใน 100 ที่เก่งกว่าอาจารย์
เราก็คน ต่างชาติก็คน เรามีสมองอันเดียว ขา 2 แขน 2 ต่างชาติก็มีเหมือนเราทุกอย่าง ที่ท่านพูดถูกต้องแล้ว จริงๆแล้ว ต่างชาติก็ไม่ได้เก่งไปกว่าเรา แต่ เราในที่นี้มีอยู่กี่คนหละครับ และต่างชาติในที่นี้หมายถึง ต่างชาติชาวบ้านธรรมดา หรือผู้เจนสนามหละครับ ต่างชาติในที่นี้เอาแค่ระดับสมองน้องๆ จอสโซรอส ก็เล่นเราแย่แล้วครับ มันอาจจะทำอะไรท่านไม่ได้ หรือ นักเล่นหุ้นไทยอีกหลายคน แต่ รายย่อยไทยคือเป้าหมายของเขาที่จะมาเอากำไรกลับไป มันก็เปรียบเหมือนการรบชิงเมืองแหละครับ(ต่างชาติที่คิดมาเอากำไรจากบ้านเรา เราต้องยอมรับว่าไม่ธรรมดา)เขากล้าออกจากบ้านมาบุกเมืองเรา แสดงว่าเขาต้องพร้อม ในทางกลับกันท่านยังไม่ชนะตลาดในบ้านตัวเองท่านจะไปเล่นตลาดนอกไหมครับ
เราอย่ากลัวต่างชาตินั้นถูกต้องที่สุด แต่เราต้องไม่ประมาทคู่ต่อสู้และศึกษากลยุทธของเขา เราจึงจะชนะได้
ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ผิดถูกไม่ว่ากัน
วันนี้ วันที่ 10/06/2004
ต่างชาติขายอีกแล้ว
Type.............................. Buy .......................... Sell
RETAIL.......................... 9,308.70.................... 8,038.19
FOREIGN ......................3,131.29 ....................4,981.48
INST ..............................1,374.97.................... 795.31
ต่างชาติขายอีกแล้ว
Type.............................. Buy .......................... Sell
RETAIL.......................... 9,308.70.................... 8,038.19
FOREIGN ......................3,131.29 ....................4,981.48
INST ..............................1,374.97.................... 795.31
กระทู้นี้เปิดสมองดีครับ ขอปรบมือให้
ขอเสริมคุณฉัตรชัยต่ออีกนิดครับ ถ้านักลงทุนไทยเข้าใจในหลักการลงทุนมากขึ้น ไม่ได้เน้นการเก็งกำไร และกิจการในตลาดมีผลประกอบการค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ บรรดาต่างชาติที่เคยโกยเงินออกไปก็ต้องหอบเงินกลับเข้ามาลงทุนต่อในราคาที่แพงขึ้นเหมือนกัน ในที่สุดเงินก็ต้องกลับมา
แต่กว่าจะถึงวันนั้น เราคงเสียอะไรไปอีกมาก เพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่ได้คิดแบบคุณฉัตรชัย....น่าเสียดายจริงๆครับ
ขอเพียงให้มีคนคิดแบบนี้เพิ่มขึ้นปีละ10%จนเราได้นักลงทุนที่รู้จักคิดเป็นประมาณ50%ของตลาด เราคงได้มีโอกาสโกยเงินต่างชาติกลับเข้ามาได้บ้างครับ
ขอเสริมคุณฉัตรชัยต่ออีกนิดครับ ถ้านักลงทุนไทยเข้าใจในหลักการลงทุนมากขึ้น ไม่ได้เน้นการเก็งกำไร และกิจการในตลาดมีผลประกอบการค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ บรรดาต่างชาติที่เคยโกยเงินออกไปก็ต้องหอบเงินกลับเข้ามาลงทุนต่อในราคาที่แพงขึ้นเหมือนกัน ในที่สุดเงินก็ต้องกลับมา
แต่กว่าจะถึงวันนั้น เราคงเสียอะไรไปอีกมาก เพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่ได้คิดแบบคุณฉัตรชัย....น่าเสียดายจริงๆครับ
ขอเพียงให้มีคนคิดแบบนี้เพิ่มขึ้นปีละ10%จนเราได้นักลงทุนที่รู้จักคิดเป็นประมาณ50%ของตลาด เราคงได้มีโอกาสโกยเงินต่างชาติกลับเข้ามาได้บ้างครับ
ตอบคุณฉัตรชัย ลางเนื้อชอบลางยาครับ
ปู่เห็นด้วยกับคนที่ลงทุนแนวVI เพราะคนเหล่านี้จะไม่ตกอยู่ในกลเกมส์ต่างๆของพวกต่างชาติ
ปู่เคยเล่นทุกแนวและก็เลือกแนวที่ทำกำไรให้เราได้สูงสุดเท่านั้นเมื่อครบวัฐจักรขาขึ้นและลง
ปู่อยากถามท่านทั้งหลายในนี้สักหน่อย...
มีใครในนี้บ้างที่ไม่ขาดทุนจากหุ้นยุค1700 บ้าง ปู่อยากรู้จริงๆ(ปู่ยังขาดทุน)
และได้เตรียมรับมืออย่างไรบ้างกับวงจรขาลงในอนาคตซึ่งช้าเร็วก็จะต้องเกิด
กำไรที่ได้มาวันนี้จักต้องคืนกลับในวันข้างหน้าหรือไม่??
ปู่เห็นด้วยกับคนที่ลงทุนแนวVI เพราะคนเหล่านี้จะไม่ตกอยู่ในกลเกมส์ต่างๆของพวกต่างชาติ
ปู่เคยเล่นทุกแนวและก็เลือกแนวที่ทำกำไรให้เราได้สูงสุดเท่านั้นเมื่อครบวัฐจักรขาขึ้นและลง
ปู่อยากถามท่านทั้งหลายในนี้สักหน่อย...
มีใครในนี้บ้างที่ไม่ขาดทุนจากหุ้นยุค1700 บ้าง ปู่อยากรู้จริงๆ(ปู่ยังขาดทุน)
และได้เตรียมรับมืออย่างไรบ้างกับวงจรขาลงในอนาคตซึ่งช้าเร็วก็จะต้องเกิด
กำไรที่ได้มาวันนี้จักต้องคืนกลับในวันข้างหน้าหรือไม่??
ถูกต้องแล้วครับคุณฉัตรชัย ผมเป็นนักลงทุนระยะสั้นถึงกลาง (เคยถือสูงสุด 2 ปี ตอนติดหุ้นครับ ช่วงที่เล่นแรกๆ) แรกเริ่มเลยผมเล่นแบบเลือดูพื้นฐาน กำไร ประมาณ 20 % ต่อปี แต่ผมเป็นคนใจร้อน ไม่ชอบรออะไรนานๆ เลยโดดมาทำสงครามแบบเก็งกำไร
ถ้านักลงทุนทุกคนคิดแบบคุณ ตลาดจะไม่เป็นแบบนี้ ตลาดหุ้นไทยจะมีเสถียรภาพ แต่เพราะต่างจิตต่างใจ และคำว่า อยากรวยเร็วๆนี่แหละครับ ทำให้ รายย่อยแห่เข้าตลาดเมื่อเห็นว่าตลาดบูมและ ก็เสร็จรายใหญ่กับต่างชาติทุกที เพราะถ้าไม่เก็งกำไร ราคาซื้อขาย จะไม่ขยับตัวแรงๆแบบนี้
แต่ที่แน่ๆ วันนี้และวันหน้า วัฏจักรคงไม่เปลี่ยนแปลง (ถ้าเปลี่ยน ดาวโจนส์เปลี่ยนก่อนเราแล้ว) ยังมีคนพร้อมที่จะนำเงินมาละลายในตลาดหุ้นเสมอ
ปล.แต่ผมก็ยังคงยืนยันว่า การเล่นเก็งกำไร ก็สามารถชนะต่างชาติได้ถ้าเราแน่จริง
ถ้านักลงทุนทุกคนคิดแบบคุณ ตลาดจะไม่เป็นแบบนี้ ตลาดหุ้นไทยจะมีเสถียรภาพ แต่เพราะต่างจิตต่างใจ และคำว่า อยากรวยเร็วๆนี่แหละครับ ทำให้ รายย่อยแห่เข้าตลาดเมื่อเห็นว่าตลาดบูมและ ก็เสร็จรายใหญ่กับต่างชาติทุกที เพราะถ้าไม่เก็งกำไร ราคาซื้อขาย จะไม่ขยับตัวแรงๆแบบนี้
แต่ที่แน่ๆ วันนี้และวันหน้า วัฏจักรคงไม่เปลี่ยนแปลง (ถ้าเปลี่ยน ดาวโจนส์เปลี่ยนก่อนเราแล้ว) ยังมีคนพร้อมที่จะนำเงินมาละลายในตลาดหุ้นเสมอ
ปล.แต่ผมก็ยังคงยืนยันว่า การเล่นเก็งกำไร ก็สามารถชนะต่างชาติได้ถ้าเราแน่จริง