เรียนขอความเห็น ดร.นิเวศน์ ครับ ผมมีแนวคิดจะทำวิจัยเรื่อง...

[Jimmy, Ph.D. Finance]

เรียนขอความเห็น ดร.นิเวศน์ ครับ ผมมีแนวคิดจะทำวิจัยในหัวข้อเรื่อง
ทำนองว่า แนวการลงทุนตามทฤษฎี เบน เกรแฮม น่าจะได้ผลตอบแทน
ดีกว่าแนวบัฟเฟต ในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทย เพราะจากการ
ติดตามตลาดหุ้นมา 7 - 8 ปี ผมสังเกตุว่าการลงทุนในพวก "หุ้นเน่า"
โดยภาพรวมแล้วมักจะได้ผลตอบแทนระยะยาวสูงกว่าการลงทุนในหุ้น
กิจการดีแบบบัฟเฟต เช่นเมื่อ 4-5 ปีก่อน หุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้างเช่น
SCC SCCC TGCI DCC หุ้นรีแฮบโก้ TPI หรือหุ้นอสังหาฯจำนวนมาก ใครๆ
ก็มองเป็นหุ้นเน่า แต่หลังจากเศรษฐกิจพลิกฟื้น ราคาหุ้นเหล่านี้ก็
turnaround กลับขึ้นไป 10 -20 เท่ากันมากมายหลายตัว ในขณะที่เทียบกับ
การลงทุนแบบบัฟเฟตเช่น SSC TF WACOAL STANLEY กลับได้กำไร
เพียงแค่ประมาณ 3 - 5 เท่า เท่านั้นเอง (ยกเว้น stanley)
ผมมีแนวคิดว่า นิสัยการลงทุนของคนไทยนั้นมักจะมองหุ้นขาลงแย่กว่า
ความเป็นจริงมากๆ หุ้นบางตัวก็อย่างที่ดร.นิเวศน์สังเกตุเจอหลายครั้ง
ที่ขายทิ้งกันจนเฉพาะเงินสดต่อหุ้นก็เกือบจะเท่าราคาหุ้นอยู่แล้ว หลายต่อ
หลายเหตุการณ์นี้ทำให้ผมเชื่อว่าแนวการลงทุนแบบ เบน เกรแฮม น่าจะ
ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า บัฟเฟต สำหรับตลาดหลักทรัพย์ไทย อยากทราบ
ความเห็น ดร.นิเวศน์บ้างน่ะครับ

[Mo101 ไม่ได้ login]

บัฟเฟต ลงทุนแทบไม่เคยพลาด
ลงทุนมา 60 ปี ผมไม่เห็นว่าจะพลาดตรงไหนเลย
แต่เจ้าตัวกลับบอกว่าพลาด 20 กว่าหนได้

--------------------------------------
1. ห้ามขาดทุน 2. กลับไปดูข้อ 1 ใหม่
น่าจะเป็นเรื่องจริงครับ

[พี่ใหญ่]

หุหุ น้องมาถามผิดห้องแล้วมั๊ง ในนี้เขาสาวกกราบไหว้บัฟเฟตเป็นพระเจ้ากัน
ไม่รู้หรอกหรือ อิอิ แซวเล่นน่ะครับ เข้าเรื่องดีกว่า หัวข้อที่ตั้งมาน่าสนใจดีนะ
ครับ คนที่ตอบข้างบนๆมันก็ไม่มีใครรู้จริงหรอกเพราะมันไม่ได้มีใครไป run หา
ว่าลงทุนแบบบัฟเฟตหรือเกรแฮมในตลาดไทย แบบไหน avg return ได้
มากกว่ากัน แบบไหนเสี่ยงกว่ากัน ฯลฯ บางคนแค่พอเห็นตั้งหัวข้อจะมา
เปรียบเทียบกับพระเจ้าของเขา (บัฟเฟต) ก็รีบเถียงก่อนแล้ว ผมว่าคุณลอง
ไปเอาข้อมูลย้อนหลัง 10 - 20 ปีมารันผลดูดีกว่า อาจมีคนหน้าแตกเอาได้
ง่ายๆครับ