โค้ด: เลือกทั้งหมด
ความผันผวนถือเป็นเรื่องปกติของตลาดหุ้น บางวันอาจผันผวนเล็กน้อยดัชนีตลาดหุ้นเหวี่ยงตัวขึ้นลงเพียงไม่กี่จุด บางวันหากผันผวนมากหน่อยก็อาจเหวี่ยงตัวขึ้นลงเป็นหลักสิบจุด แต่ถ้าผันผวนรุนแรงก็สามารถเหวี่ยงตัวขึ้นลงได้เป็นหลักร้อยจุดภายในวันเดียวเหมือนที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งระดับของความผันผวนดังกล่าวล้วนขึ้นอยู่กับระดับความโลภและความกลัวของผู้คนในตลาดหุ้นนั่นเอง
สำหรับนักลงทุนที่อยู่ในตลาดหุ้นมานานอาจจะปรับตัวและรับมือกับความผันผวนได้ดี แต่สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่เพิ่งเข้าตลาดหุ้นได้ไม่นานถ้าพบเจอกับความผันผวนที่รุนแรงมากๆ อาจตื่นตระหนกและนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดได้
ผมจึงอยากนำมุมมองของนักลงทุนระดับ “เซียนหุ้น” หลายๆ ท่านที่กล่าวถึง “ความผันผวนของตลาดหุ้น” มาให้อ่านเป็นข้อคิดสำหรับการลงทุนครับ
บิดาแห่งการลงทุนแบบเน้นคุณค่า “เบนจามิน เกรแฮม” ได้กล่าวไว้ว่า นักลงทุนควรตระหนักว่าราคาของหุ้นย่อมมีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา จึงไม่ควรกังวลต่อการลดลงแรงๆ ของราคาหุ้น และก็ไม่ควรตื่นเต้นไปกับการเพิ่มขึ้นอย่างมากของราคาหุ้น เขามองว่า “โดยพื้นฐานแล้ว ความผันผวนของราคามีความสำคัญต่อนักลงทุนพันธุ์แท้ในแง่มุมเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ มันจะให้โอกาสพวกเขาซื้อหุ้นในตอนที่ราคาหุ้นลดลงอย่างหนัก และให้โอกาสพวกเขาขายหุ้นออกไปเมื่อตลาดได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นไปมาก ในช่วงเวลาอื่นๆ การละเลยตลาดหุ้นและหันไปใส่ใจต่อเงินปันผลและผลการดำเนินงานของบริษัทจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าสำหรับพวกเขา”
“วอร์เรน บัฟเฟตต์” แนะนำให้นักลงทุนมองความผันผวนของตลาดหุ้นในฐานะที่เป็นเพื่อนไม่ใช่ศัตรู และทำกำไรจากความโง่เขลาของมันแทนที่จะไปเข้ามีส่วนร่วมกับมัน ในการตัดสินใจลงทุนแต่ละครั้งของเขานั้น เขาบอกว่า “หากเราพบกิจการที่เราพึงพอใจ สภาวะของตลาดจะไม่มีผลกระทบอะไรต่อการตัดสินใจของเรา เราจะตัดสินซื้อหุ้นเป็นกิจการๆ ไป”
ผู้จัดการกองทุนระดับตำนานอย่าง “ปีเตอร์ ลินซ์” ก็มีมุมมองเช่นเดียวกัน เขากล่าวไว้ว่า “นักลงทุนไม่ต้องไปสนใจการขึ้นลงของตลาด แต่ให้ใช้เหตุผลในการซื้อขายเท่านั้น จำไว้เสมอว่า กำไรหรือขาดทุนที่จะได้รับ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจโดยรวม แต่จะขึ้นอยู่กับปัจจัยเฉพาะของธุรกิจที่บริษัทดำเนินการอยู่ ดังนั้นไม่ต้องไปสนใจการขึ้นลงของตลาดหุ้น”
จะเห็นได้ว่า สำหรับสุดยอดนักลงทุนทั้งหลายนั้น สิ่งที่พวกเขาสนใจและให้ความสำคัญในการตัดสินใจลงทุนก็คือ “พื้นฐานของกิจการ” ที่จะเข้าไปลงทุน ส่วนสภาวะความผันผวนของตลาดหุ้นนั้นไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจลงทุนของพวกเขาแต่อย่างใด