วิธีเลือกหุ้น (2)/วีระพงษ์ ธัม

บทความต่างๆที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
ตอบกลับโพส
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
กระทู้: 1243
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 11, 2012 10:42 pm

วิธีเลือกหุ้น (2)/วีระพงษ์ ธัม

โพสต์ โดย Thai VI Article » ศุกร์ ก.ค. 08, 2016 5:15 pm

โค้ด: เลือกทั้งหมด

    จากบทความที่แล้ว นอกจากวิธีเลือกหุ้นโดยใช้ตะแกรงร่อน หรือเลือกหุ้นจากกระแสอุตสาหกรรมที่โดดเด่นแล้ว วิธีเลือกหุ้นต่อมา คือ การเลือกจาก “ผู้บริหาร” ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำมาซึ่งความสำเร็จหรือล้มเหลวของบริษัท

    การเลือกหุ้นจากผู้บริหาร เราจำเป็นต้องเข้าใจลักษณะนิสัย วิธีคิด วิสัยทัศน์ของพวกเขาให้ลึกซึ้ง ซึ่งในโลกยุคนี้ข้อมูลค่อนข้างหาได้ง่าย จากการค้นคว้าบนอินเตอร์เน็ต เราสามารถหาอ่านบทสัมภาษณ์ หรือดูจากรายการทีวี ความโดดเด่นจะค่อย ๆ ฉายแววจาก “ร่องรอยแห่งความสำเร็จ” ที่มีให้เห็น ตั้งแต่ความสำเร็จเล็ก ๆ ขึ้นมาตามลำดับ และต้องไม่มีสิ่งที่เรียกว่า “ประวัติด่างพร้อย” เช่นการทุจริต ความไม่ตรงไปตรงมา หรือการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย ซึ่งนำปัญหาที่ใหญ่มากในภายหลังคือปัญหาธรรมาภิบาล

    นอกจากนั้น เราจำเป็นต้องเข้าใจแรงจูงใจของผู้บริหารด้วยว่า พวกเขามีความตั้งใจที่จะทำให้กิจการเติบโตหรือไม่ หรือผู้บริหารมีสิ่งอื่นที่เขาสนใจมากกว่า ผู้บริหารควรจะมีความคิดในลักษณะของ “ไดเมียว” ในหนังญี่ปุ่นโบราณ ที่ความพ่ายแพ้นำมาซึ่งชีวิต ความสำเร็จจะสูงขึ้นมากหาก ผู้บริหารทุ่มสุดตัว หรือ “All in” ในธุรกิจ ถ้าเขาไม่ใคร่สนใจในผลลัพท์ หรือล้มบนฟูกได้นี่อาจจะเป็นความเสี่ยงหนึ่ง ดังนั้นผลตอบแทนผู้บริหารควรจะ สัมพันธ์กับนักลงทุนในระยะยาว และถ้าดีกว่านั้น ทีมบริหารควรจะมีส่วนเกื้อหนุน ไม่ใช่การดำเนินธุรกิจแบบวันแมนโชว์

    วิธีนี้มีจุดอ่อนอยู่ตรงที่ว่า ผู้บริหารส่วนใหญ่มักมีทักษะการสื่อสารที่ยอดเยี่ยม การแยกแยะฝีมือบริหารกับฝีมือการพูดจึงเป็นสิ่งที่ท้าทาย และผู้บริหารอาจจะถูกซื้อตัว หรือเปลี่ยนได้ตลอดเวลา รวมไปถึงการ “เข้ากันได้” กับวัฒนธรรมองค์กร นอกจากนั้นพวกเขาควรจะมีทักษะและความรู้เฉพาะในอุตสาหกรรมนั้น ๆ เพราะนี่คือหัวใจของความสำเร็จ อันที่จริงผู้บริหารไม่ใช่ความสามารถในการแข่งขัน แต่ “การตัดสินใจ” ของผู้บริหารต่างหากที่ใช่ สุดท้าย ต้องระลึกเสมอว่าธุรกิจที่แย่ ผู้บริหารจะเก่งขนาดไหนก็ไปไม่รอด

    วิธีต่อมาคือ การเลือกหุ้นจาก Business Model เพราะกลยุทธ์ธุรกิจมักเปลี่ยนไปได้บ่อย ๆ แต่โมเดลธุรกิจมักจะคงทนกว่า รูปแบบธุรกิจที่ดีจะสามารถ “ขยายตัว” ได้ไม่จำกัดโดยที่สามารถจำกัดความเสี่ยงได้ ตัวอย่างเช่นธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ มีรูปแบบธุรกิจที่แข็งแรง มีการจัดวางร้าน มีระบบขนส่ง การควบคุมสินค้าที่ดี รูปแบบร้านที่คนในเมืองหนึ่งชอบ ย่อยทำให้คนอีกเมืองหนึ่งชอบ นี่คือความสำเร็จสามารถ “โคลนนิ่ง” ได้

    จุดสำคัญคือ Business Model ที่ดี ควรจะลอกเลียนแบบยาก ถ้าใคร ๆ ก็ทำได้ ในไม่ช้าก็จะมีคนแห่เข้ามาทำจนทำให้กำไรหายไปทั้งหมด และต้องสามารถ “ทำเงิน” ได้ เพราะหลายครั้งมันอาจจะทำเงินไม่ได้ เมื่อมีสภาพสังคม สิ่งแวดล้อมแตกต่างไป เพราะลูกค้าให้ “คุณค่า” สินค้าและบริการไม่เหมือนกัน สิ่งสุดท้ายคือ Business Model ควรจะได้รับการพิสูจน์ระดับหนึ่ง เพราะอะไรก็ตามที่เขียนอยู่บนกระดาษมักจะสวยงามกว่าโลกความเป็นจริงเสมอ

    วิธีการสุดท้ายคือเลือกหุ้นจาก “ความสามารถของนักลงทุน” วิธีนี้ผมคิดว่าดีที่สุดในทุกวิธี เพราะนี่คือการเลือกหุ้น จาก “ความได้เปรียบ” ของตัวเราเองคือความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในธุรกิจนั้น ๆ ปีเตอร์ ลินซ์ เลือกหุ้นจากสินค้าและบริการที่ภรรยาและลูก ๆ ของเขาชอบ ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่างหากที่ช่วยให้เรามองเห็นอะไรก่อนคนอื่น ไอเดียในการลงทุนดี ๆ มักจะไม่ได้มาจากนักลงทุน แต่มาจากผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจนั้น ๆ

    ตัวอย่างที่คล้ายคลึงกันกับชีวิตนักลงทุนคือ ชีวิตเกษตรกร สิ่งที่เกษตรกรควรจะทำคือ ความเข้าใจดินฟ้าอากาศของที่ดินนั้น ๆ และ ต้องเข้าใจว่าเรามีทักษะในการปลูกพืชอะไรมากที่สุด หากพวกเขาดูแต่ว่าช่วงนี้ราคามะพร้าวดี ราคาข้าวดี ราคายางดี ราคามันดี ก็จะมีแต่การ “ตามแห่” เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ และสุดท้ายผลลัพท์มักจะแย่ เกษตรกรที่เชี่ยวชาญในบางสิ่งบางอย่าง มักจะได้ผลดีกว่า

    เช่นเดียวกับนักลงทุน เราควรจะเข้าใจว่าเรามีทักษะเข้าใจกิจการอะไรมากที่สุด เงินทุนของเรา ความเสี่ยงของตัวเองที่รับได้ Lifestyle และเราก็ “เลือก” หุ้นที่เหมาะกับตัวเราที่สุด เพราะหุ้นที่เราเลือกถูกตัวนั้น อาจจะสำคัญแค่ระดับหนึ่ง สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ เราสามารถเข้าใจและรอให้หุ้นที่เราเลือก ออกดอกออกผลได้หรือไม่มากกว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง เราควรจะทำอย่างไร เลือกหุ้นถูกเรา “กำไร” ตั้งแต่วันที่ซื้อ แต่เราอาจจะ “ขาดทุน” ในวันที่ขาย ดังนั้นแน่นอนว่าหุ้นตัวหนึ่งไม่ได้เหมาะกับนักลงทุนทุก ๆ คน
[/size]



ตอบกลับโพส