สวัสดีปีใหม่ 2561/วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ

บทความต่างๆที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
ตอบกลับโพส
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
กระทู้: 1243
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 11, 2012 10:42 pm

สวัสดีปีใหม่ 2561/วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ

โพสต์ โดย Thai VI Article » พุธ ม.ค. 03, 2018 2:57 pm

โค้ด: เลือกทั้งหมด

    สวัสดีปีใหม่แด่ท่านผู้อ่านค่ะ

    ดิฉันจำได้ว่ายังไม่เคยสวัสดีปีใหม่กับท่านผู้อ่านในวันขึ้นปีใหม่จริงๆ วันนี้จึงรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย และตั้งใจจะมอบข้อคิดดีๆให้กับท่านเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ในปีนี้ 

    ในด้านภาพรวมของเศรษฐกิจโลก ท่านอาจจะได้รับฟังจากหลายสถาบันแล้วว่า ปี 2561 เป็นปีที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในโลกจะฟื้นตัวไปในทิศทางเดียวกัน ต่างกับช่วงสามสี่ปีที่ผ่านมา ที่การฟื้นตัวเป็นไปอย่างไม่ทั่วถึง คือในขณะที่หลายประเทศฟื้นตัว อีกหลายประเทศก็ดิ้นรนให้ไม่ตกอยู่ในสภาพถดถอย แต่ปี 2561 เกือบทุกประเทศในโลกจะมีเศรษฐกิจที่เติบโต แต่จะเติบโตมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยภายในของประเทศนั้นๆค่ะ

    สำหรับอัตราดอกเบี้ยของประเทศหลักๆในโลก ก็คงจะอยู่ในระดับต่ำต่อไป เพราะสภาพคล่องยังล้นหลามและอัตราเงินเฟ้อยังไม่ส่งผลคุกคามต่อเศรษฐกิจ แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีก 2-3 ครั้งในปีนี้  ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยนั้น มองว่าน่าจะคงอยู่ในระดับปัจจุบันที่ 1.5% ไปจนถึงปลายปี หรืออย่างน้อยถึงกลางปี 2561 และหากจะปรับตัวขึ้นก็คงขึ้นไม่เกิน 0.25%

    ในด้านการลงทุน ดิฉันขอให้ข้อสังเกตว่า ค่าความผันผวน หรือความเสี่ยงในการลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารต่างๆในโลก ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ผู้ลงทุน ลงทุนได้อย่างมีความสุข เรียกได้ว่า แทบจะไม่มีผู้ลงทุนคนไหนที่ไม่ได้กำไรในสองปีที่ผ่านมา หากมีการกระจายการลงทุนที่เหมาะสม

    ใน 11 เดือนแรกของปี 2560 ตลาดเกิดใหม่ในโลกให้ผลตอบแทน 29.98% ในขณะที่มีค่าความผันผวนเพียง 7.89% ดัชนีดาวโจนส์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 22.82% ในขณะที่มีค่าความผันผวนเพียง 5.67% หุ้นญี่ปุ่นวัดโดยดัชนีนิเคอิ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.89% มีค่าความผันผวน 9.82% ตลาดหุ้นโลกวัดโดยดัชนี MSCI World ปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.62% ในขณะที่มีค่าความผันผวน 4.95% ทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.11% มีค่าความผันผวน 8.58%  หุ้นไทย วัดโดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.01% โดยมีค่าความผันผวน 5.41% อสังหาริมทรัพย์โลก ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.35% มีค่าความผันผวน 11.89% พันธบัตรไทย ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.97% มีค่าความผันผวน 1.29% และสินทรัพย์กลุ่มหลักที่มีค่าความผันผวนเป็นเลขสองหลักคือ สินค้าโภคภัณฑ์ มีค่าความผันผวน 11.89% ในขณะที่ให้ผลตอบแทนเพียง 1.3% และน้ำมัน มีค่าความผันผวน สูงที่สุดในบรรดาทุกกลุ่มคือ 21.31% และราคาปรับขึ้น 6.85% ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2560

    สภาพคล่องที่ล้นหลาม และค่าความผันผวนที่ต่ำกว่าปกติติดต่อกันมาเป็นเวลาสองปี อาจทำให้ผู้ลงทุนรู้สึกสบายใจเกินกว่าที่ควร และเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เงินยังคงไหลเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น แม้ราคาจะปรับตัวขึ้นไปมากพอสมควรแล้ว  เมื่อศึกษาดูค่าความผันผวน ซึ่งเป็นค่าที่เราใช้วัดความเสี่ยงย้อนหลัง 10 ปีคือตั้งแต่ปี 2550-2559 จะพบว่า ค่าความผันผวนเฉลี่ยในอดีตสูงกว่าในสองปีที่ผ่านมาทั้งสิ้น

    ยกตัวอย่าง ค่าความผันผวนของพันธบัตรไทยเฉลี่ย 10 ปีอยู่ที่ 2.68% ต่อปี ตลาดหุ้นไทยมีค่าความผันผวนเฉลี่ย 16.75% หุ้นในตลาดเกิดใหม่มีค่าความผันผวนเฉลี่ย 18.15%  ดัชนีดาวโจนส์มีค่าความผันผวนเฉลี่ย 16.6% ดัชนีหุ้นโลกมีค่าความผันผวนเฉลี่ย 15.05% ทองคำมีค่าความผันผวนเฉลี่ย 16.14% อสังหาริมทรัพย์โลกมีค่าความผันผวนเฉลี่ย 19.94% สินค้าโภคภัณฑ์มีค่าความผันผวนเฉลี่ย 20.34% หุ้นญี่ปุ่นมีค่าความผันผวนเฉลี่ย 21.53% และน้ำมันมีค่าความผันผวนเฉลี่ย 33.3% เป็นต้น

    เมื่อมองยาวขึ้น ค่าความผันผวนที่ต่ำมากในช่วงสองปีที่ผ่านมา ทำให้อดกังวลไม่ได้ว่า ความผันผวนในอีก  2-3 ปีข้างหน้า น่าจะเพิ่มขึ้น แม้ค่าเฉลี่ยใหม่อาจจะไม่สูงเท่าค่าเฉลี่ยเดิม เพราะค่าเดิมรวมช่วงวิกฤติในซีกโลกตะวันตกเกิดขึ้นในปี 2551 จึงทำให้ค่าความผันผวนย้อนหลังสิบปีออกมาสูง แต่ใครจะรับประกันได้ว่าวิกฤติจะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต

    โดยรวม ในปี 2561 ยังเป็นปีที่การลงทุนโดยทั่วไปยังคงดีอยู่ อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นมักจะปรับตัวไปรอตัวเลขทางเศรษฐกิจและผลประกอบการล่วงหน้าประมาณ 6 เดือน ดังนั้น แม้จะมองตลาดหุ้นทั่วไปสดใส แต่ต้องระวังการปรับตัว และควรจะมองเพื่อลงทุนแบบล่างขึ้นบน หรือ bottom up คือเลือกลงทุนในหุ้นที่มีอนาคตดีและราคายังไม่เต็มมูลค่า

    ความเสี่ยงต่อการปรับตัวลงแรงๆของราคาสินทรัพย์ต่างๆในปีหน้าจะอยู่ที่ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเมือง รวมถึงความสามารถในการดูแลภาคการเงินของจีน  เนื่องจากราคาสินทรัพย์ต่างๆได้ขึ้นไปค่อนข้างมากในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา หากมีความตึงเครียดทางการเมืองเกิดขึ้นในภูมิภาค เช่น การคุกคามของเกาหลีเหนือ คาดว่าตลาดทุนต่างๆพร้อมที่จะถือเป็นสาเหตุของการปรับตัวลงค่ะ

    การลงทุนจึงควรทำแบบ cautiously optimistic คือ มองการลงทุนในทางที่ดี แต่ในขณะเดียวกันต้องระมัดระวังว่าราคาสินทรัพย์ต่างๆอาจเกิดการปรับตัวลงมาได้ค่ะ

    ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเคารพบูชา ดลบันดาลให้ท่านผู้อ่านทุกท่านและครอบครัว มีความสุขมากๆ มีสุขภาพแข็งแรง ประสบความสำเร็จยิ่งๆขึ้นในอาชีพการงาน และประสบความสำเร็จในการออมและการลงทุนตลอดปี 2561 และตลอดไป  สวัสดีปีใหม่ค่ะ
[/size]



ตอบกลับโพส