RCI

[WPONG not login]

ถ้าใช้หลักแห่งความระมัด ระวัง ไม่ถึงขั้นระแวง ผมก็ไม่คิดว่ามีอะไรน่าห่วงครับ

ผมให้เครดิตที่ผู้ถืหุ้นใหญ่ ยอมค้ำประกันหนี้สินทั้งหมด ซึ่งมากกว่ามูลค่าหุ้นของเขาหลายเท่า

คุณ STOCKMS ลองอ่าน 56-1 ดูสิครับ ในส่วนของการตรวจสอบ เขายินยอมให้มีการเปิดเผยความผิดพลาดเล็กๆน้อยขนาดนั้น ผมว่าตรงไปตรงมาดีครับ

รายการระหว่างกันมีกี่ % ของมูลค่าทรัพย์สินครับ

ปัจจุบันเจ้าหนี้คุมแจเลยครับ การที่จะปันผลได้ก็ต้องขออนุมัติเจ้าหนี้ก่อนครับ

ผมมีหุ้นนี้อยู่ 100 % อาจลำเอียงนะครับ

ความน่าสนใจของเขา ไม่ใช่ที่ PE เท่านั้นครับ หากมีโอกาสที่หุ้นราคาตก จะมาเปิดเผยครับ Highlight อยู่ที่
Q4
การเพิ่มพันธมิตรรายใหม่
การเพิ่มตัวแทนจำหน่าย
กำไรของรายอื่นๆ ลดลง แต่ของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
การเซ้นต์สัญญาเป็นผู้จำหน่ายรายเดียวของ ....
และ FTA ครับ

ตรวจสอบข้อมูลได้ ตามร้านขายวัสดุก่อสร้าง และ Hmpro ครับ

[WPONG not login]

เก่งหรือเฮง ซื่อสัตย์หรือคดโกง กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ อดีตบอกอนาคต
ซื่อสัตย์หรือคดโกง อาจดูได้จาก เงินเดือนพนักงานโดยเฉลี่ย
ก) พนักงานทั้งหมดจำนวน 702 คน แยกตามสายงานดังนี้
สำนักกรรมการผู้จัดการ, บุคคล และธุรการ 23 คน
บัญชีและจัดซื้อ 22 คน
บริหารเงิน 17 คน
การตลาด 51 คน
ต่างประเทศ 5 คน
โรงงาน หรือผลิต 584 คน
ข) ค่าตอบแทนทั้งปี เป็นจำนวน 115.10 ล้านบาท
ค) ประเภทค่าตอบแทน ได้แก่ เงินเดือน, เงินรางวัล, ค่ารับรอง, ค่าขาย, ค่าล่วงเวลา, ค่ากะ, ค่าเบี้ยเลี้ยง
ค่าเบี้ยขยัน และเงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
หรือดูได้จากช่วงวิกฤต ได้ทำอะไรกับพนักงานบ้าง Lay off หรือเปล่า ลดเงินเดือนหรือเปล่า
ใครรู้บ้างว่าตอนที่เขาหยุดการเดินเครื่องเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เขาทำอย่างไรกับพนักงาน

เก่งหรือเฮง
ใครๆก็ขยายกำลังการผลิต แต่เขาทำ Debottleneck เท่านั้น อีกทั้งเซ้นต์สัญญากับโรงงานผลิตที่จีน และอินโด เป็นผู้จำหน่ายเพียงเจ้าเดียว
ปัจจุบันนำเข้ากับกระเบื้องเลียนแบบหินธรรมชาติ ( Porcelain Tiles or Granito ) จากจีนมาจำหน่ายโดยเสียภาษีศุลกากร 30 % ผู้ผลิตในไทยโดนตีกระจุย หาก FTA กับจีนลดภาษี ใครได้ใครเสีย
ไม่เน้นเพิ่มกำลังการผลิต แต่หาพารท์เนอร์เพื่อเพิ่ม Value Added ให้สินค้า

เรื่อง Demamd Supply ถ้าไม่รู้จักแยกก็ไม่เข้าใจ
RCI และ Cotto แข่งกันในตลาดระดับบน โดยทั้งคู่มีแต่เพิ่ม ไม่ลดราคา
DCC UMI TGCI เล่นตลาดอีกระดับ
กระเบื้องเลียนแบบหินธรรมชาติ นำเข้าจากจีน ยังไม่เห็นคู่แข่งที่น่ากลัวเลย ยอดขายเติบโต 100 % ต่อปี



มูลค่าทางบัญชีของสินทรัพย์สูงเกินไปหรือไม่ คงต้องไปอ่านใน 56-1 ถ้าเปรียบเทียบก็ไม่ยาก ลองเปรียบเทียบราคาของเครื่องจักรที่ UMI ซื้อใหม่กับ
RCI ซึ่ง
เครื่องจักร ตั้งอยู่ที่เดียวกับที่ตั้งโรงงาน ประกอบด้วย
BALL MILL หม้อบดใช้สำหรับบดผสมวัตถุดิบ หิน,ดิน,ทราย โดยมีน้ำเป็นตัวกลางภายในหม้อบดจะถูกบรรจุไว้
ด้วยลูกบดซึ่งทำหน้าที่บดกระแทกให้วัตถุดิบแตกละเอียดเป็นน้ำดินที่จะใช้ผลิตเป็นผงดินในขั้นตอนต่อไป
SPRAY DRIER เครื่องทำอบและทำผงดิน สำหรับผลิตผงดินจากขั้นตอนทำน้ำดิน ผงดินที่ได้มีความชื้นประมาณ
5% ลักษณะการทำงานใช้ปั๊มเป็นตัวสูบฉีดพ่นน้ำดินขึ้นไปเป็นฝอย ในขณะเดียวกันก็ใช้ลมร้อนที่ได้จากการ
เผาไหม้ของก๊าซธรรมชาติพ่นสวนทางลงมา ซี่งจะทำให้น้ำระเหยออกไปเหลือเป็นเม็ดดินร่วงหล่นลงมาบน
สายพาน และลำเลียงนำผงดินที่ได้ไปเก็บไว้ในไซโล
PRESS เครื่องปั๊มกระเบื้องใช้ในการอัดขึ้นรูปผงดินที่มีความชื้นประมาณ 5% ให้เป็นแผ่นกระเบื้องด้วยระบบความ
ดันแบบไฮดรอลิกโดยใช้แม่พิมพ์ซี่งจะทำให้ได้กระเบื้องขนาดต่างๆ
GLAZING LINE ระบบสายพานลำเลียงที่มีอุปกรณ์ใช้ในการเคลือบสีและพิมพ์ลวดลายต่างๆ ลงบนผิวกระเบื้อง
ROLLER KILN เตาเผาระบบเผาเร็วโดยมี CERAMIC ROLLER เป็นอุปกรณ์ลำเลียงกระเบื้องให้วิ่งผ่านความ
ร้อนที่เกิดจาก BURNER (หัวเผา) ซึ่งใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงในการเผาไหม้โดยแบ่งการเผาได้เป็น 3 ช่วงคือ
ช่วงอุ่นไล่ความชื้น (PREHEATING ZONE) อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 100 ถึง 950 องศาเซลเซียส ต่อมาคือช่วงเผา
(FIRING ZONE) อุณหภูมิ 1,000 ถึง 1,200 องศาเซลเซียส สุดท้ายช่วงการเย็นตัว (COOLING ZONE) ใช้ลม
เย็นเป่าลงบนกระเบื้อง
POLISHING LINE เครื่องขัดเงาและแต่งขอบกระเบื้อง
SORTING LINE เครื่องคัดแยกเกรด,สีกระเบื้อง และบรรจุกล่อง
มูลค่า มูลค่าสุทธิ 342,073,381 .- บาท มูลค่าก่อนหลังหักค่าเสื่อม 1,370,719,737 ค่าเสื่อมราคา 1,028,646,356.- บาท
ภาระผูกพัน ติดภาระจำนำจำนองเต็มมูลค่า

[WPONG not login]

กระเบื้องปีหน้าทาง Cotto ประเมินความต้องการไว้ 120 ล้านตารางเมตร RCI มีกำลังการผลิต ประมาณ 5 ล้านตารางเมตร Cotto 42 ล้านตารางเมตร
ที่น่าสนใจคือ เวลาเราไปเดินชมกระเบื้องที่ร้านใหญ่ที่สุดในจังหวัดผม แล้วถามเขาว่ากระเบื้องอะไรขายดี เขาบอกว่าถ้าบุผนัง Cotto ที่ 1 RCI ที่ 2 ถ้าเป็นพวกเลียนแบบแกรนิต RCI ที่ 1
ตรวจสอบด้วยตัวเองตามร้านค้าดีกว่าครับ บ.เล็กๆอย่าง RCI แต่มีพื้นที่ Show ใน Hmpro และร้านๆใหญ่ ใกล้เคียงกับ Cotto

ยอดขายปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 1500 ล้านบาท โดย กทม. 60% ต่างจังหวัด 40%
ปีที่แล้ว กทม. 70 ต่างจังหวัด 30 ตัวแทนจำหน่ายเพิ่มจาก 200 เป็น 270 ราย

ผมเขียนจากความจำอาจผิดพลาดบ้าง
ผมเพียงแค่อยากให้เพื่อน ลองไปเดินถามร้านขายกระเบื้องดู
ถามอีกนิด ยอดขายต่างจังหวัด 600 ล้านบาท ต่อ ปี 50 ล้านบาทต่อเดือน จังหวัดละ ไม่ถึงล้านบาทต่อเดือน เนี่ยยังมีช่องว่างให้โตหรือเปล่า

เวลาเราเลือกกระเบื้องปูห้องน้ำในคอนโด เราใช้ราคา หรือความสวยงามเป็นหลักครับ

ขออภัยที่เชียร์มากเกินไป แต่ผมคิดว่าตัวนี้เหมาะกับคนที่ไม่ใช่เซียนหุ้นเพราะสามารถตรวจสอบยอดขายได้ง่าย เพียงแต่ถามร้านขายกระเบื้องดูว่า เดือนนี้กับเดือนที่แส้ว หรือ 3 เดือนที่แล้วต่างกันอย่างไร

เรื่องการโกงเนี่ย ผมอยากให้เพื่อนๆดูกระแสเงินสด โดยดูกระแสเงินสดในส่วนของการลงทุนย้อนหลังสัก 3 ปีว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า

แนะนำ Web site ดีๆทางด้านก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์ครับ

http://freesplans.com/FP_cons_news/cons ... sp?id=1083

เพื่อป้องกันความหวาดกลัว ในฟอร์ม 56-1 ของ DCC แจ้งว่ามีต้นทุนถูกกว่าจีน ปล. อย่าไปปนกันนะครับ ระหว่างกระเบื้อง RCI กับ DCC เวลาพูดถึงกระเบื้อง คงต้องดูเป็นกลุ่มๆไป
ส่วน UMI อย่างน้อยก็ได้งานในสุวรรณภูมิ ไปพอควร
สำหรับ RCI ให้ดู Web WWW.RCI.CO.TH

ถ้ามีข้อมูลใดผิดพลาดกรุณาชี้แนะครับ

[Boring Stock Lover]

คุณ CopyWriter ลองผสมดูซิครับ เลือกมุมที่ต้องการให้สวย แล้วตกแต่งให้สวยเฉพาะมุมนั้น เช่นพื้นใช้ของถูก แต่งขอบด้วยของแพง ผนังใช้ของแพง

จากมุมมองของสายตา ก็จะทำให้โดยรวมสวยขึ้น แต่ราคาลดลง


คุณ Chatchai ไม่ทราบว่าปกติเวลาเปิด L/C เพื่อชำระคู่ค้าต่างประเทศ จะเหมือนการชำระเงินสดหรือเปล่าครับ

[เพื่อน notloginจ้า]

คุณ CopyWriter ลองผสมดูซิครับ เลือกมุมที่ต้องการให้สวย แล้วตกแต่งให้สวยเฉพาะมุมนั้น เช่นพื้นใช้ของถูก แต่งขอบด้วยของแพง ผนังใช้ของแพง

ถ้าไม่แม่นเรื่องขนาด+รอยต่อ อย่าเสี่ยงทำนะครับ ...... ถ้าแยกส่วนพื้นกับผนังคนละส่วนไปเลยก็ยังพอได้ครับ แต่ถ้าพื้นด้วยกันควรใชชุดของมันเองครับ....ถึงจะเป็นยี่ห้อเดียวกันแต่คนละชุดก็ยังเสี่ยงเลยครับ(จากประสบการณ์ในการทำงานมา)

RCI เป็นผลิตภัณฑ์อยู่ในระดับเกรด เอ ครับ....คู่แข่งพอฟัดเหวี่ยงกันได้ก็มี Cotto(ของปูนใหญ่) และCampana(ของTGCI).....แต่ช่วงหลังคอตโต้จะมาแรงแซงโค้งด้วยผลิตภัณฑ์ที่ผลิดในประเทศเป็นหลักทำให้ขายได้ราคาถูกเป็นส่วนใหญ่....ส่วนRCIจะขายของนำเข้าด้วยครับ ตัวชูโรงก็กระเบื้องแผ่นใหญ๋ๆขอบตัด ขนาด50-60ซม.จากจีนที่มีราคาถูกหน่อย และตลาดมีความต้องการสูงทดแทนการใช้หินธรรมชาติในขณะที่มีสีอ่อนโทนขาว-ครีมถูกใจตลาดอย่างมาก....ส่วนที่นำเข้าอื่นๆจะขายได้น้อยลงเนื่องจากมีราคาสูง....แต่กระเบื้องที่ผลิตเองในประเทศก็มีเอกลักษณ์ของตัวเองและจัดว่าสวยงามถูกใจตลาดเช่นกัน

เรื่องที่น่าสนใจคือ ช่วงหลังนี้เริ่มมีบริษัทฯรายเล็กรายน้อยนำเข้ากระเบื้องจีนเช่นเดียวกันแล้วครับ เพราะทำได้ไม่ยาก....ผู้รับเหมาและสถาปนิกเริ่มมีการติดต่อกับบริษัทเหล่านี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

และอีกประเด็นก็เรื่องCicle ของงานก่อสร้างก็จะมีผลกับการขายด้วยครับ ช่วงนี้ถึงปีหน้ายังเป็นช่วงงานตกแต่งอยู่ ความต้องการยังสูง ของอาจจะขาดตลาดเป็นบางช่วง...พร้อมๆกับพวกสุขภัณฑ์......แต่หลังจากนี้ถ้าคอนโด-บ้านจัดสรรฯลฯ เริ่มลดความร้อนแรงลง.....บรรดากระเบื้องที่เร่งผลิตออกมาก็จะเริ่มเหลือ....คงหลีกเลี่ยงการแข่งขันทางราคาไม่ได้ แม้ว่าจะเป็นกระเบื้องคนละเกรดก็ตาม...ราคาของกระเบื้องเกรดต่ำกว่าแต่ราคายั่วยวนมากขึ้นในขณะที่ทุกคนเริ่มเจียมตัว ก็ทำให้กระเบื้องเกรดต่ำเข้ามาแย่งตลาดได้ไม่มากก็น้อย(คำว่าไม่มากก็น้อย นี่มันworkดีนะ ไม่รู้ใครเป็นคนคิด) อย่าว่าแต่เกรดต่ำเลยครับ Cotto & Campana รวมทั้งกระเบื้องนำเข้าต่างๆ ก็ต้องการระบายของก่อนคนอื่นด้วยครับ ดีกว่าแบกสต็อกไว้......เพราะฉนั้นอย่าลืมตามCicleให้ดีๆด้วยครับ

ผมว่าตัวที่น่าสนใจกว่าคือ Qcon นะครับ อิฐมวลเบาครับ......ปัจจุบันมีคู่แข่งปลอมๆคือ Supper Block เพียงรายเดียว คู่แข่งที่แท้จริงคืออิฐมอญและอิฐบล็อคครับ....แต่ที่สังเกตุมาหลายๆปีนี้อิฐมวลเบาเริ่มชนะใจสถาปนิก-วิศวะกร-ผู้รับเหมาในเมืองไทยแล้วนะครับ ความนิยมเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ความคุ้นเคยกับการทำงานได้รวดเร็วกว่าทำให้เป็นที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆพร้อมทั้งราคาขายที่เริ่มลดลง มีวัสดุปูนฉาบรายย่อยมาเสริมทำให้ราคาถูกลงและแพร่หลายขึ้นเรื่อยๆครับ.......ตัววัสดุน่าสนใจมากในด้านการเจริญเติบโต...แต่ราคาหุ้น ผมยังไม่ได้ศึกษาครับ และยังไม่ได้ซื้อไว้ด้วยครับ

[JUST FYI]

Just my opinion na kab.

From Khun WPong " จะเลือกไปแต่งบ้านห้องแถวเล็กๆสักหน่อย คิดหนักเลยครับ แพงจังเลย ปล่อยให้ลูกค้าระดับบนตามกลุ่มเป้าหมายซื้อไปก่อน"

I think it's not easy to increase RCI's sale or market share at rural country side na kab becuase of the price.

For Hi class customer, As we can see slowing down of property tend kab. I think it's might effect next year na kab due to this year the property developper still have to finished their pending job.


I am sorry to disagree na kab .It's just my little concern ,however, I also has RCI shares. =)

Thank you for your good comment and information for RCI kab. =)

[เพื่อน not login]

ขอบคุณครับ สำหรับข่าวตามลิงค์ของคุณwpong
แต่ผมอ่านแล้วไม่น่าจะเป็นข่าวดีสำหรับRCIนะครับ เป็นการเพิ่มคู่แข่งจากจีนมากกว่าครับ ผู้ผลิตกระเบื้องในไทยต้องเร่งปรับตัวกันยกใหญ่ละครับ

คุณck wrote

สนใจ Q-CON เหมือนกันครับ แต่ราคาหุ้นมังแพงเกินเอื้อมครับ

ถ้าหลุด 10 บาทลงมาได้ ก็น่าสนน่าตามไปลุ้น ฮ่าๆๆๆ

งั้นผมรอคุณCKซื้อก่อนละกันครับ ซื้อเมื่อไหร่อย่าลืมบอกกันมั่งนะครับจะซื้อด้วย(ถ้าตอนนั้นยังมีเงินเหลืออยู่)

[asdf]

แต่ทำไม tgci บริหารงานไง ขาดทุน 2 ไตรมาส ติด ผู้บริหาร ท่าทางจะมองตลาดผิด ไปขยายกำลังผลิตแล้ว ก้อต้องมาลดราคาขายระบาย สต๊อก รึเปล่า

[X]

ส่วนตัวผม ผมก็มองว่า RCI ยังไปได้อีกไกลครับ
ถึงแม้ว่าอสังหา จะลงแล้วหรือเปล่า ( หุ้นลง แต่อสังหาจริง ๆ ไม่ลง )
แต่คนแต่งบ้านจะเริ่มแต่งบ้านไปเรื่อย ๆ บางบ้านโอนปีที่แล้ว เพิ่งเริ่มแต่งกัน
ลองมอง ๆ กันไว้ก็ดีนะครับ


อย่างนี้ต้องเก็บเพิ่มแล้วหล่ะครับ

[Just FYI]

วันปิดสมุดทะเบียน 05/04/04 (Not up todate na kab) =)
จำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด 2,794 การถือหุ้นแบบไร้ใบหุ้น 65.89%
จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย 2,769 การถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย 45.42%

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จำนวนหุ้น ร้อยละ
นาง ฤดีรัตน์ สังขะทรัพย์ 8,087,345 25.73%
นาย สันติทวี สารสาส 1,497,700 4.77%
นาง ธาริณี กฤดากร 688,614 2.19%
นาย สมศักดิ์ กิติพราภรณ์ 525,920 1.67%
น.ส. บุญสม เวชกาญจนา 506,767 1.61%
นาง สมถวิล สังขะทรัพย์ 500,925 1.59%
นาย ผาสุก เทพมณี 438,240 1.39%
น.ส. จุฬารัตน์ ธรรมวัฒน์วิมล 432,100 1.37%
นาง จิตติมา สังขะทรัพย์ 418,763 1.33%
บริษัทเงินทุนหลักทรั วอลล์สตรีท จำกัด (มหาชน) 396,800 1.26%
นาย ชาญ วีระโอฬารกุล 355,400 1.13%
นาย สมศักดิ์ กิติพราภรณ์ 352,660 1.12%
กองทุนเปิด รวงข้าว 338,500 1.08%
ธนาคาร ไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) 290,997 0.93%
บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 273,360 0.87%
บริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) 270,700 0.86%
นาย ธานินทร์ อัตตาภิบาล 250,000 0.80%
กองทุนเปิด รวงข้าวหุ้นทุนบริพัตร 242,200 0.77%
นาง ลดาลักษณ์ สีทองดี 211,100 0.67%
บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด 210,451 0.67%
นาย สุขุม นวพันธ์ 178,100 0.57%
นาย พิทักษ์ รจิตบูรณะกุล 175,000 0.56%
ม.ร.ว. ดนุชโชติ เทวกุล 170,000 0.54%
นาย วีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ 170,000 0.54%
นาย ชัยสิทธิ์ วิริยะเมตตากุล 170,000 0.54%

[WPONG not login]

ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ คุณ STOCKMS ผมอาจเป็นคนมองโลกในแง่ดี และรู้ว่าควรทำอะไรเมื่อไร เลยไม่กังวลครับ
ผมเองไม่ได้มีความรู้เรื่อง RCI เท่าไหร่ ใจจริงอยากให้เพื่อนที่ทำเรื่องวัสดุก่อสร้างเช่น คุณกั้มพ์ มแลกเปลี่ยนความคิดเห็นบ้าง

ลองคุยเรื่อง 4 P หน่อยนะครับ
ผมคิดว่า Place หรือสถานที่จำหน่ายสินค้าเป็นจุดหลักที่จะทำให้ RCI มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง การที่มีตัวแทนจำหน่ายกว่า 200 ราย รวมทั้งการเกิดขึ้นของ HMPRO ช่วยทำให้บ.เล็กๆอย่าง RCI สามารถแข่งขันกับ COTTO และเจ้าอื่นๆได้สะดวกขึ้น ลองเดินเข้าไปในร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายของแต่ละเจ้า แล้วลองเปรียบเทียบดูว่า ของใครน่าซื้อกว่าใคร
Product
ลองดูความหลากหลายของสินค้า หรือดูสินค้าที่มีกำไรสูงดูสิครับ ลองดูกระเบื้องประดับชิ้นๆเล็กๆเสริมเป็นชุดๆ ราคา 30 -40 บาท มีกี่เจ้าทำบ้าง
บางครั้งบ.เล็กก็ได้เปรียบบ.ใหญ่นะครับ
Cotto จะออกแบบ Modern
RCI จะออกแบบ Classic
Price
เรื่องราคาของสินค้า
กระเบื้องนำเข้าจีน ปัจจุบัน ตารางเมตรละ 99 บาท ก็มี แต่ DCC 116 บาทก็ยังขายได้
กระเบื้องแกรนิโต ของ DCC ตารางเมตรละ 380 ขายได้ ของ RCI 425 ก็ขายได้
หากคิดว่าธุรกิจนี้เหมือนกันหมด ต้อง TOC / NPC เวลามีกำไรมากก็มากด้วยกัน น้อยก็น้อยด้วยกัน

เรื่อง Promotion เพื่อนๆว่า โฆษณาของ UMI เป็นอย่างไรบ้าง เวลาไปเลือกกระเบื้องถ้าเขามี Design โชว์สวยๆแล้วเรารูว่าเป็นยี่ห้ออะไรภายหลัง ดีกว่า หรือดูโฆษณาทาง TV ดีกว่า

ผมดูความสามารถของผู้บริหารเป็นสิ่งสำคัญครับ

หากมีสิ่งใดผิดพลาดบ้าง ขออภัยด้วยครับ ผมไม่ได้เจตนา หากมีความเสียหายใดๆ ไม่ขอรับผิดชอบครับ รายละเอียดเรื่องการหาตัวแทนจำหน่ายของ RCI หาอ่านได้จากหนังสือ Brand Image ปีที่ 4 ฉบับที่ 3
รายละเอียดเรื่องธุรกิจ Ceramic อ่านได้จากบทวิเคราะห์ ของ KGI ย้อนหลัง 1 ปี
เรื่องพันธมิตรรายใหม่หาอ่านได้จากผู้จัดการรายวัน 30 มิถุนายน 2547 09:58 น.

[เพื่อน Not login]

หวังว่าคุณ LOSO คงไม่ได้จะเหมารวมถึงผมด้วยนะครับ ที่ผมให้ข้อมูลในส่วนที่อาจจะทำลายความเชื่อมั่นได้
ผมเพียงแต่เสนอความเห็นที่ประสบอยู่กับอาชีพในปัจจุบัน เป็นเพียงข้อคิดในด้านตรงข้ามบ้าง และผมเห็นคุณWpongเป็น VI ตัวจริง นิยมที่จะถือหุ้นในระยะยาว
ข้อความที่ผมโพสไว้ก็เห็นด้วยกับราคาหุ้นที่มีแนวโน้มจะวิ่งขึ้น เพราะยังอยู่ในช่วงขายดี แต่สำหรับผู้ตั้งใจจะถือยาว คงต้องคอยระวังด้วยครับกับcicleของงานก่อสร้าง
หมายเหตุ ผมไม่มีหุ้นRCI และไม่ได้คิดจะซื้อRCI ด้วยเหตุผลดังกล่าวครับ เพียงเสนอข้อมูลที่ต่างมุมออกมาให้ลองไว้พิจารณาดูบ้างครับ

คุณ forrestgum โพส

ขอโทษครับ เข้าใจผิดเรื่องยี่ห้อครับ สลับกัน DCC~ กับ RCI อิอิ

หมายความว่าที่คุณ forestgum ให้ความเห็นมาทั้งหมด สลับยี่ห้อกันทั้งหมดใช่มั้ยครับ เพราะเท่าที่ผมทราบก็คือ คุณภาพของRCI เหนือชั้นกว่าDCCมากนะครับ และราคาก็น่าจะสูงกว่า การขายในต่างจังหวัด DCC น่าจะขายได้ดีกว่าเนื่องจากราคาถูกกว่า
ส่วนRCI น่าจะมีรายได้หลักโดยไม่ได้ผ่านร้านค้ารายย่อยนะครับ น่าจะได้จากงานโปรเจคขนาดใหญ่ๆที่ไม่จำเป็นต้องมาซื้อตามร้านค้าย่อยครับ

คุณwpong เขียน

ผมคิดว่า Place หรือสถานที่จำหน่ายสินค้าเป็นจุดหลักที่จะทำให้ RCI มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง การที่มีตัวแทนจำหน่ายกว่า 200 ราย รวมทั้งการเกิดขึ้นของ HMPRO ช่วยทำให้บ.เล็กๆอย่าง RCI สามารถแข่งขันกับ COTTO และเจ้าอื่นๆได้สะดวกขึ้น ลองเดินเข้าไปในร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายของแต่ละเจ้า แล้วลองเปรียบเทียบดูว่า ของใครน่าซื้อกว่าใคร

ผมว่าการเพิ่มขึ้นของHomeproคงไม่ได้ช่วยRCIนะครับ เพราะเค้าก็ขายทุกยี่ห้อด้วยกันนิครับ เวลาผมไปเลือกซื้อผมมักจะสนใจที่เค้าทำdisplayเป็นห้องๆให้ดูก่อนครับ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้โชว์ของRCIครับ

เรื่องราคาของสินค้า
กระเบื้องนำเข้าจีน ปัจจุบัน ตารางเมตรละ 99 บาท ก็มี แต่ DCC 116 บาทก็ยังขายได้
กระเบื้องแกรนิโต ของ DCC ตารางเมตรละ 380 ขายได้ ของ RCI 425 ก็ขายได้

ราคา99บาทและ116บาท จะเป็นราคาต่อแผ่นกระเบื้องครับ ส่วน 380และ 425 เป็นราคาต่อตารางเมตรถูกต้องแล้วครับ

เรื่อง Promotion เพื่อนๆว่า โฆษณาของ UMI เป็นอย่างไรบ้าง เวลาไปเลือกกระเบื้องถ้าเขามี Design โชว์สวยๆแล้วเรารูว่าเป็นยี่ห้ออะไรภายหลัง ดีกว่า หรือดูโฆษณาทาง TV ดีกว่า

เวลาผมไปดูกระเบื้องจะดูยี่ห้อทีหลังครับ ที่สวยๆมักเป็นของนอกแต่แพง รองลงมาเป็นของ RCI กับ COTTO ซึ่งของRCIจะแพงกว่ามีลักษณะสวยแบบเรียบๆดูได้นานๆวัสดุค่อนข้างดี ของคอตโต้จะมีแบบใหม่ๆดูหวือหวามาเรื่อยๆราคาถูกกว่า
รองลงมาอีกจะเป็นพวกโสสุโก้,ไดนาสตี้(DCC) ..... ส่วนของUMIจะเน้นไปที่โมเสคเป็นหลัก และต้องแย่งตลาดกับคอตโต้ซึ่งขายโมเสคเหมือนกัน
แต่ถ้ามองหากระเบื้องสีขาวๆแผ่นใหญ่ๆที่กำลังนิยม(จริงๆเริ่มนิยมมาได้2-3ปีแล้ว)ก็จะมีให้เลือกหลักๆของRCIตามมาด้วยDCCในราคาที่ย่อมลงมา
RCI จะมีตัวทำตลาดอีกตัวหนึ่งคือ ตระกูลแกรนิตโต้ ซึ่งแพงแต่ผิวงานคงทนมาก นิยมใช้กับงานโปรเจคใหญ่ๆครับ

เป็นข้อมูลที่เอามาช่วยเสริมครับสำหรับคนที่สนใจ ให้พิจารณาทั้งแง่บวกและลบครับ ไม่ได้มาทุบเพื่อกวาดนะครับ... :lol: :lol: :lol:

[X]

tomorrow never die....

[X]

ไม่ top แต่มีขาใหญ่มาเก็บรอบนึงแล้วหล่ะครับ

[X]

ผมก็ขอร่วมวงไพบูลย์ด้วยนะครับ
ยิ่ง technical กำลังสวยเลย
tomorrow never die again....

[เพื่อน น็อตล๊อกอิน]

เท่าที่อ่านมาตลอดคาดว่าคุณเพื่อนคงเป็นคนในวงการที่รู้เรื่องราวดี หากคุณเพื่อนเจออะไรที่เป็นประโยชน์ไม่ว่าดีหรือร้าย ช่วย Post ต่อด้วยครับ

ยินดีครับ....ได้แลกเปลี่ยนกับคุณWpong ถือเป็นเกียรติครับ
ทางข้อมูลลึกๆ เกี่ยวกับตัวเลข ผมแค่งูๆปลาๆครับ
ได้อาศัยคนเก่งๆในเวปนี้ช่วยเปิดสมองขึ้นเยอะครับ

ว่างๆอยากคุยกับพี่ปรัชญาเรื่อง ไม้MDF บ้างนะครับ ถ้าไม่รังเกียจ ขอเป็นความรู้เรื่องวัสดุครับ

คุณLOSO wrote

ผมไม่ได้ต่อว่าใครหรือคิดอะไรอย่างนั้นหรอกครับ .........

ผมไม่คิดหรอกครับ ว่าการถกของพวกเราจะทําให้ราคาหุ้นลง(จริงๆมันลงมาก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้วที่ผมเห็น) ..............

ผมไม่คิดหรอกครับว่าพวกเราในนี้จะมีหุ้นตัวนี้หลายๆแสนหรืออาจถึงล้านหุ้น .....

ถึุง " สั่งลง " ได้ ................

เพียงแต่สิ่งที่ผมเห็นในกระดาน ...........

มันลงแบบ " ผิดปกติ " ...........

ก้อแค่นั้นเอง ..................

จริงอย่างที่คุณ LOSO ว่าแฮะ ... :lol: :lol: :lol:

[X]

แอบมาเก็บท้ายตลาดก่อนเที่ยงอีกแล้วครับ

[บุคคลทั่วไป]

ทำไมมันขึ้นเอา ๆ อย่างนี้ล่ะครับ ตอนนี้ 33.5 แหล่ว

[X]

คุณ loso ครับ
อย่างนี้ต้อง let profit run ไปเรื่อย หรือเปล่าครับ....
แต่คุณ loso มาบอกอย่างนี้ เดี๋ยวตกใจแย่งกันซื้อ จะเป็นยังไงครับเนี่ย
ยิ่งเห็นช่วงนี้แอบมาเก็บกันเป็นเวลาอยู่ด้วย

[X]

กลัว ปันผลฟรี จังเลย
แรงอย่างนี้

[=)]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

hot Posted: Sat Nov 20, 2004 4:20 am    Post subject: อืม 

--------------------------------------------------------------------------------
 
ระวังเรื่องเงินบาทด้วยคับ 
เพราะถ้าเงินบาทแข็งเร็ว 
คู่แข่งด้านกระเบื้องจะนำเข้ามามากเพราะถูกกว่าตอนเงินบาทอ่อน 
 

Good point karb K. Hot..
Or perhap
RCI import margin might also increase ler pow khab??? because of decreasing in cost of import good.[/code]