occ ,spi ,tpcorp

[fatty]

ขอถามพี่ๆ vi ที่พอมีข้อมูลเชิงลึกด้วยครับ
รู้สึกว่าราคาไม่ขยับมานานมากแล้ว
ผมว่า E/P น่าสนใจมาก และ Roe ก็สูงดีนะครับ


ปล..ไม่ได้เชียร์หุ้นนะครับ//////ผมเองยังไม่มีสักหุ้น
โปรดใช้วิจารญาณในการอ่าน ด้วยครับ

[คลายเครียด]

ถ้าเป็น occ tpcorp
ผมขอยืนยันว่าไม่จริงแน่นอนครับ
เพราะผมเคยซื้อเฉลี่ยโอซีซีตอนห้าบาทที่พาร์สิบ
จนต้นทุนเฉลี่ยลงมาเหลือประมาณสามสิบกว่าบาท
ขณะนี้เหลือรอขายอย่างเดียว เจ็ดหมื่นห้าพันหุ้น
ตั้งออฟเฟอร์ที่แพงๆทีไร จะโดนลบด้านออฟเฟอร์ทุกครั้ง
แล้วอาจจะมีการเคาะซื้อบ้างในราคาถูก
ดังนั้นถ้าจะขายให้ได้ ต้องเคาะขายเท่านั้น
วันละพันหรือหมื่นหุ้นเต็มที่
ส่วนทีพีคอร์ปเคยซื้อที่ สิบแปดบาท ตอนพาร์สิบ

ผมขอลองตั้งการบ้านให้ท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ หาคำตอบจากเวปนี้ครับ

http://www5.settrade.com/sims_majorShar ... 08/04/2003

ลองทายดูซิว่า
หุ้นต่อไปนี้ ใครคือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่มีชื่อซ้ำกัน

ITV
PG
TNL
OCC
TPCORP

คนที่คุณเห็นมีชื่อซ้ำกันในหุ้นดังกล่าวทุกตัว(ถือโอซีซีเป็นอันดับหนึ่ง)
คือสุดยอดเซียนหุ้นตัวจริงเสียงจริง ที่เก็บตัวเงียบๆ
แค่ไอทีวีตัวเดียวผมว่าเขาฟันไปไม่ต่ำกว่าสามร้อยล้าน

[+++unlog]

ขอบคุณ ผู้อาวุโส ที่ชี้ทางสว่าง แก่ข้าน้อย

อิอิ....

ว่าแต่ คุณสำเริง นี่แกเป็น ใครง่ะ ...

[+++unlog]

"สำเริง มนูญผล"


เศรษฐีหุ้นรุ่น 'รวยกำลัง 2'


ผู้บริหารบริษัทใหญ่-นักวิชาการ-นักการเมือง และอดีตข้าราชการคนดังต่างหนีอัตราดอกเบี้ยต่ำหันซบ "ตลาดหุ้น" กันเป็นแถว ทำให้ในช่วงที่หุ้นฟู่ฟ่า หลายคนที่รวยอยู่แล้วได้รวยเพิ่มขึ้นกำลัง 2

มูลค่าพอร์ตโตขึ้นนับ 100%

โดยเฉพาะการหันมาสะสมหุ้น "นอกเครือข่าย" ของตัวเอง เพื่อเพิ่มความร่ำรวย

อย่างเช่นประธานเครือสหพัฒน์ "บุญยสิทธิ์ โชควัฒนา" บิ๊กซีพีเอฟ "อดิเรก ศรีประทักษ์" ที่ข้ามถิ่นมาเก็บหุ้น BLAND พร้อมด้วยนายตำรวจใหญ่อดีตมือปราบ"พล.ต.ท.โสภณ สะวิคามิน" และนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง"ดร.วีรพงษ์ รามางกูร" ซึ่งต่างร่วมกันมาถือหุ้นบริษัทของเสี่ย"อนันต์ กาญจนพาสน์"

คุณนายแดง "สุรางค์ เปรมปรีดิ์" เจ้าแม่ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ ถือหุ้น TPC กว่า 200 ล้านบาท นอกนั้นยังพบชื่อ "เฮียฮ้อ" บอสอาร์เอส "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" บอสใหญ่ตลาดหลักทรัพย์ และ 2 หม่อมราชวงศ์คนดัง "หม่อมอุ๋ย-หม่อมเต่า" ต่างก็มีหุ้นดังกล่าวอยู่ในพอร์ต จำนวนมาก

แม้กระทั่งอดีตนายกรัฐมนตรี "อานันท์ ปันยารชุน" ในวัย 71 ปีก็ใช้เวลายามว่างซื้อขายหุ้น ESTAR ที่นั่งเป็นประธานบอร์ด

แต่ที่ฮอตสุดๆ ตอนนี้ ต้องหลีกทางให้กับเจ้าพ่อ"เพนท์เฮ้าส์ "กมล เอี้ยวศิวิกูล แห่งไมด้า แอสเซ็ท และหลานชาย รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม "ทวีฉัตร จุฬางกูร" เพราะเขาคือ นักเลงหุ้นตัวจริงเสียงจริงของตลาดหุ้นขณะนี้

----------------------------------

เริ่มตั้งแต่อดีตนายกรัฐมนตรี "อานันท์ ปันยารชุน" ซึ่งนั่งเป็นประธานกรรมการบริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียลเอสเตท (ESTAR) อยู่ ก็ได้ใช้เวลายามว่างซื้อขายหุ้นอย่างต่อเนื่อง

ในช่วงที่ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น พบว่าอดีตนายกฯ อานันท์ขายหุ้น ESTAR ไปเกือบ 7 ล้านหุ้น เป็นเงินกว่า 51 ล้านบาท แล้วหันมาเก็บหุ้น ESTAR-W1 เข้าพอร์ตแทนจำนวน 6.3 ล้านหุ้น

ใช้เงินไปแล้วกว่า 30 ล้านบาท

นอกจากอดีตนายกฯ อานันท์แล้ว ยังมีอดีตข้าราชการอีกหลายคนที่ใช้ชีวิตยามว่างหลังเกษียณเป็นนักลงทุนในตลาดหุ้น โดยพบว่าอดีตข้าราชการที่บริษัทเอกชนเชื้อเชิญให้มานั่งเป็นกรรมการบริษัท ส่วนใหญ่มีพอร์ตลงทุนอย่างเป็นล่ำเป็นสัน

จนหลายคนร่ำรวยเป็นเงินหลายสิบล้านบาท

อย่างเช่น "พล.อ.เชิญชัย พินิจสุทธาโภชน์" ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการบริหารบริษัทในกลุ่มแพน "พล.ร.อ.อนุชิต เภกะนันทน์" ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการบริหาร บริษัท แพนเอเซีย ฟุตแวร์(PAF)

นายพลทั้ง 2 คนนี้ถือหุ้น PAF คนละกว่า 5.85 ล้านหุ้น หรือ 1.63% ในช่วงที่ราคาหุ้นแพนปรับตัวสูงขึ้น ทั้ง 2 ได้พร้อมใจกันขายหุ้นออกมาคนละ 3.36 ล้านหุ้น ที่ราคา 8.50 บาท รับเงินกันไปแล้วคนละประมาณ 28 ล้านบาท

อดีตข้าราชการตำรวจที่มีพอร์ตใหญ่ที่สุดตอนนี้ คือ "พล.ต.อ.ชวลิต ยอดมณี" ประธานกรรมการบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน(AMATA) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 2 ของบริษัทกว่า 81.50 ล้านหุ้น

จังหวะน้ำขึ้นรอบนี้ทำให้มูลค่าพอร์ตท่านนายพลทะยานขึ้นไปมากกว่าพันล้านบาทแล้ว

พล.ต.อ.ชวลิต ผู้นี้เป็นพี่ชายของ ดร.สุวิทย์ ยอดมณี อดีตโฆษกรัฐบาลที่เพิ่งเป็นข่าวไปหมาดๆ ว่ากำลังขึ้นโครงการบ้านหรูกลางเมืองในชื่อโครงการ "บ้านเรือนมณี" ราคาหลังละ 14-16 ล้านบาท

นายตำรวจใหญ่อีกคนที่ใช้เวลายามว่างหลังเกษียณมาลงทุนในตลาดหุ้น คือ "พล.ต.อ.เภา สารสิน" อดีตอธิบดีกรมตำรวจวัย 74 ปี ปัจจุบันเป็นประธานกิตติมศักดิ์บริษัท ซีพีเอฟ และรองประธานกรรมการธนาคารกสิกรไทย พล.ต.อ.เภาถือหุ้นอยู่หลายบริษัท รวมทั้งหุ้น SAMCO ที่มีพงส์ สารสิน พี่ชายเป็นกรรมการ

อีกคน คือ "พล.ต.ท.โสภณ สะวิคามิน" อดีตนายตำรวจคนดัง หลังจากวางปืนก็หันมาจับหุ้นแทน หุ้นที่นายตำรวจผู้นี้เลือกจับไม่ใช่อื่นไกล เป็นหุ้นบริษัท บางกอกแลนด์(BLAND) โดยถืออยู่ในพอร์ตจำนวน 70 ล้านหุ้น หรือ 1.17%

มูลค่าพอร์ตล่าสุดประมาณ 140 ล้านบาท นับเป็นนายตำรวจที่ปลดเกษียณแล้วขึ้นชื่อว่า "รวยหุ้น" อีกคนหนึ่ง

อดีตข้าราชการที่รวยหุ้นไล่กันมาติดๆ คือ "สนิท วรปัญญา" อดีตประธานรัฐสภา ที่ถือหุ้น BLAND จำนวน 34.45 ล้านหุ้น หรือ 0.57% มูลค่าพอร์ตล่าสุดเฉียด 70 ล้านบาทแล้ว

"ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล" อดีตผู้ว่าการแบงก์ชาติ ที่หายหน้าหายตาไปนาน โดยนอกจากจะเปิดบริษัทที่ปรึกษาส่วนตัว เป็นเจ้าของทีม "หม่อมเต่าเรสซิ่งคาร์" แล้วยังแบ่งเงินมาลงทุนในตลาดหุ้นอีกทางหนึ่งด้วย

หุ้นที่หม่อมเต่าถือลงทุน คือ หุ้น SVOA ถืออยู่จำนวน 297,100 หุ้น หรือ 0.59% มีมูลค่าประมาณ 17 ล้านบาท

ส่วนผู้ว่าแบงก์ชาติคนปัจจุบัน "ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล" มีพอร์ตเก่าเก็บหุ้น RHC จำนวน 333,800 หุ้น หรือ 0.74% แม้จะมาเป็นผู้ว่าการแบงก์ชาติห้ามเคลื่อนไหวพอร์ต แต่หม่อมอุ๋ยยังถือหุ้นทางอ้อม 8.34% ผ่านบริษัท คอม-ลิงค์ ที่ค้าหุ้นอย่างเป็นล่ำเป็นสัน

บริษัท คอม-ลิงค์ เข้าไปลงทุนหุ้นถึง 4 บริษัทในตลาดได้แก่หุ้น TNITY, RHC, BT และ NFS รวมมูลค่าพอร์ตล่าสุดกว่า 3.1 พันล้านบาท เพราะฉะนั้นส่วนแบ่งความร่ำรวย 8.34% ของหม่อมอุ๋ยในพอร์ตคอม-ลิงค์ จึงมีมูลค่าสูงถึง 258 ล้านบาท

แม้แต่กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์คนปัจจุบัน "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" ก็รวยจากหุ้นในพอร์ตไม่ใช่น้อย ผลพวงมาจากหุ้น UV ที่ตัวเองเป็นหุ้นส่วนอยู่ได้ปรับตัวสูงขึ้นมาตลอด ทำให้ยิ่งหุ้นขึ้น ผู้จัดการตลาดหุ้นก็ยิ่งรวย

ก่อนมาเป็นกรรมการและผู้จัดการตลาดหลัก "บิ๊กโต้ง" เก็บหุ้น UV ไว้ในพอร์ตจำนวนมากถึง 3.16 ล้านหุ้น หรือ 6.13% มีมูลค่ารวมขณะนี้ประมาณ 188 ล้านบาท ยังไม่นับรวมเงินเดือน+โบนัสในตำแหน่งผู้บริหารตลาดที่ว่ากันว่าได้รับสูงถึงปีละ 16 ล้านบาท

ไม่เพียงคนดังในแวดวงต่างๆ จะหลั่งไหลสู่ตลาดหุ้นแล้ว แม้แต่นักวิชาการ และอาจารย์มหาวิทยาลัยก็ไม่ปล่อยให้โอกาสทองหลุดมือ

คนแรก คือ โหรเศรษฐกิจแถวแนวหน้าของประเทศ "ดร.วีรพงษ์ รามางกูร" อดีต รมว.กระทรวงการคลัง พอร์ตของดอกเตอร์มีหุ้น BLAND จำนวนมากถึง 40 ล้านหุ้น หรือ 0.67%

อีกคน คือ "ดร.วรพล โสติยานุรักษ์" อาจารย์นิด้าคนดังที่รวยเงียบ ถือหุ้น BLAND จำนวน 40 ล้านหุ้น หรือ 0.67% เท่ากับ ดร.วีรพงษ์

บวกลบคูณหารปรากฏว่านักวิชาการ 2 คนนี้ ถือเฉพาะหุ้น BLAND เพียงตัวเดียวก็มีมูลค่าในพอร์ตคนละกว่า 80 ล้านบาทเข้าไปแล้ว

เสน่ห์ของหุ้นบางกอกแลนด์(BLAND)ยังดึงดูดคนดังในแวดวงธุรกิจหลายคนเข้ามาแบ่งกันรวย ราวกับ "รู้" ข่าวดีล่วงหน้า

เพราะปีหน้า "อนันต์ กาญจนพาสน์" เศรษฐีรีเทิร์นคนล่าสุด จะนำบริษัทในเครืออีกแห่ง ศูนย์แสดงสินค้า "อิมแพค" เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น และยังระดมข่าวดีมาแถลงอีกสารพัดตั้งแต่การแตกพาร์ และกำลังจะขึ้นโครงการใหม่ย่านพัฒนาการ

หลังจากหุ้นวิ่งมาไกลโขแล้ว ข่าวดีจึงเพิ่งถูกปล่อยออกมา

รายชื่อคนดังๆ ที่เข้ามาถือหุ้น BLAND ยังมีอีกหลายคน ล้วนแล้วแต่บิ๊กของวงการธุรกิจ อย่างเช่น ประธานเครือสหกรุ๊ป "บุญยสิทธิ์ โชควัฒนา" ถือหุ้น BLAND มากถึง 140 ล้านหุ้น หรือ 2.33% มีมูลค่าประมาณ 282 ล้านบาท

ไม่นับรวมหุ้นในเครือสหกรุ๊ป ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์อีกประมาณ 20 บริษัท ที่ท่านประธานบุญยสิทธิ์ถืออยู่

เมื่อพูดถึงเครือสหพัฒน์ ก็ต้องกล่าวถึงคนบริหารพอร์ตให้กับตระกูล "โชควัฒนา" ที่ชื่อ "สำเริง มนูญผล" รองประธานกรรมการบริษัท สหพัฒนา อินเตอร์โฮลดิ้ง และประธานกรรมการบริษัท ทรัพย์สินสหพัฒน์
นอกจากสำเริงจะบริหารพอร์ตหุ้นในเครือสห กรุ๊ป ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์มากกว่า 10 บริษัทแล้ว เขายังถือหุ้นนอกกลุ่มอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะหุ้น ITV ที่ตุนเข้าพอร์ตกว่า 20 ล้านหุ้น

หุ้น BLAND ยังคงหวานหอมสำหรับคนดังอีกหลายคนที่ "รวยเละ" กับหุ้นตัวนี้ ไล่มาตั้งแต่ บุรินทร์ วงศ์สงวน คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช พงษ์ วิเศษไพฑูรย์ กรรมการบริหารบริษัทซีพีเอฟ

"อดิเรก ศรีประทักษ์" ประธานกรรมการบริหารฝ่ายปฏิบัติการบริษัท ซีพีเอฟ มือขวาท่านประธานธนินท์ เจียรวนนท์ ก็ถือหุ้น BLAND ทั้งในนามส่วนตัว และเครือญาติอีก 2 คนรวมกว่า 228 ล้านหุ้น มีมูลค่ารวมกันประมาณ 460 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังพบชื่อของ "เพชร พะเนียงเวทย์" ทายาทผู้บริหารบริษัทมาม่า ถือหุ้นตัวนี้อีกว่า 400 ล้านบาท ในช่วง 3 เดือนเศษที่ผ่านมาราคาหุ้น BLAND ปรับตัวสูงขึ้น 330%

เป็นอันว่า หุ้น BLAND คือ "ขวัญใจ" ของเหล่าคนรวยยกกำลังสอง

ตลาดหุ้นที่วิ่งขึ้นร้อนแรงอย่างนี้ แม้แต่คนในแวดวงบันเทิงเองก็โดดลงมาเก็บหุ้นเพราะเห็นว่าดีกว่าเก็บเงินฝากแบงก์

เจ้าแม่ช่อง 7 สี "สุรางค์ เปรมปรีดิ์" มีรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้น TPC จำนวน 1.5 ล้านหุ้น หรือ 1.71% มูลค่าพอร์ตของคุณนายแดงล่าสุดประมาณ 228 ล้านบาท

ส่วนหนุ่ม"กึ้ง" "เฉลิมชัย มหากิจศิริ" ดาราน้องใหม่วัย 24 ปี สังกัดค่ายของ "บอย" ถกลเกียรติ วีรวรรณ และเป็นลูกชายสุดที่รักคนเดียวของเจ้าสัว ประยุทธ มหากิจศิริ คราวก่อนได้เก็บหุ้นบริษัท บัตรกรุงไทย (KTC) 2 ล้านหุ้น มูลค่ากว่า 70 ล้านบาทไป

หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ทิ้งหุ้น KTC ไป และหันมาเก็บหุ้น HEMRAJ จำนวนกว่า 106 ล้านหุ้น หรือ 2.05% คราวนี้มูลค่าพอร์ตปาเข้าไปกว่า 195 ล้านบาท กลายเป็นดาราวัยรุ่นที่ "รวยหุ้น" มากที่สุดในขณะนี้

คนในแวดวงบันเทิงอีกคนหนึ่งที่ชอบเล่นหุ้น คือ "เฮียฮ้อ" "สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์" ผู้บริหารค่าย อาร์เอส โปรโมชั่น ที่แบ่งเวลาดูแลนักร้อง มาดูแลหุ้น

นอกจากหุ้น RS ที่เฮียถือหุ้นใหญ่แล้ว ยังมีหุ้น ASSET และ DTM ที่เฮียเก็บไว้ในพอร์ตรอขายทำกำไร เล่นไม่มากเท่าไรแค่ตัวละ 20-30 ล้านบาทเท่านั้นเอง

ส่วนนายแบงก์ที่เล่นหุ้นอย่างเอาจริงเอาจังต้องยกนิ้วให้ท่านประธานกรรมการธนาคารกรุงเทพ "ชาตรี โสภณพนิช" ซึ่งว่ากันว่าตระกูลโสภณพนิช เล่นหุ้นเก่งกันหลายคน

ท่านเจ้าสัวชาตรีวันนี้มีวัย 70 ปี ปัจจุบันถือหุ้นมากกว่า 10 บริษัท หุ้นที่จับแล้วรวยกำลัง 2 คือ หุ้น ASSET ถือจำนวน 8.21% มีมูลค่าเกือบ 420 ล้านบาท ล่าสุดเพิ่งจับเอา ASSET มาผนวกกิจการกับ AST โบรกเกอร์ในเครือตัวเองเรียบร้อยแล้ว

หุ้นตัวล่าสุดที่ท่านเจ้าสัวเพิ่งตักเข้าพอร์ต คือ หุ้น DTC เหตุเพราะโกลด์แมน แซคส์ ขายหุ้นโรงแรมดุสิตธานี คืนให้ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย จำนวน 26.7 ล้านหุ้น ที่ราคา 38 บาท

ท่านเจ้าสัวชาตรีจึงขอแบ่งเอาไว้ 4.25 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 5% รวมกับของเดิมทำให้มีหุ้นรวม 4.32 ล้านหุ้น หรือ 5.09% มูลค่าปัจจุบันก็ประมาณ 180 ล้านบาท

เมื่อ 3-4 ปีที่แล้วท่านเจ้าสัวชาตรีบอกกับนักข่าวว่าตัวเองเป็นเจ้าสัว "เยสเธอร์เดย์" แต่วันนี้ต้องบอกว่าเป็นเจ้าสัว "รีเทิร์น" แล้ว หลายคนวิเคราะห์ว่าการตัดสินใจประกาศเพิ่มทุนธนาคารกรุงเทพล็อตใหญ่ปลายปีนี้ ก็เพราะตลาดหุ้นช่วยชีวิตกลุ่มโสภณพนิชเอาไว้

แบงก์เกอร์อีกคนที่มีพอร์ตลงทุนไม่ใหญ่แต่ไม่จิ๊บจ๊อย คือ "เสี่ยปั้น" "บัณฑูร ล่ำซำ" บอสใหญ่ธนาคารกสิกรไทย แม้ว่าการลงทุนส่วนใหญ่จะทำผ่านบริษัททรัพย์สินของตระกูล แต่พอร์ตส่วนตัวก็ไม่ใช่เล่น

พอร์ตคุณปั้นจะเน้นลงทุนหุ้นบริษัทในเครือเช่น PL และ PHA ตัวละประมาณ 17-18 ล้านบาท ไม่มากไม่น้อยสำหรับคนระดับนี้

แต่ถ้าพูดถึงนักเลงหุ้นตัวจริงเสียงจริงยุคนี้ต้องยกนิ้วให้กับ 2 เซียน "กมล เอี้ยวศิวิกูล" หรือ "เสี่ยโต้ง" เจ้าของไมด้า แอสเซ็ท กับ "ทวีฉัตร จุฬางกูร" หลานชายแท้ๆ ของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เจ้ากระทรวงคมนาคม

ประเมินจากหุ้นในพอร์ตขณะนี้ หุ้นของกมลมีไม่น้อยกว่า 20 บริษัท มีมูลค่ารวมกันระดับพันล้านบาท ไม่นับรวมหุ้น MIDA ในพอร์ตที่มีมูลค่าประมาณ 5.4 พันล้านบาท

หุ้นในพอร์ตกมล เช่น หุ้น VIBHA มูลค่าล่าสุดประมาณ 210 ล้านบาท ASSET ประมาณ 85 ล้านบาท DTM ประมาณ 80 ล้านบาท SVI ประมาณ 28 ล้านบาท PRANDA ประมาณ 25 ล้านบาท และ GENCO ประมาณ 13 ล้านบาท เป็นต้น

ส่วนพอร์ตของทวีฉัตร ก็ระดับพันล้านบาทเช่นเดียวกัน ผลงานชิ้นล่าสุดเข้าเก็บหุ้น NMG กว่า 5.51%

หุ้นในพอร์ตทวีฉัตร นอกจากหุ้น NMG แล้วยังมีหุ้น SICCO MATCH SAFARI SATTEL ITD และหุ้น ITV

นักลงทุนระดับบิ๊กในตลาดหุ้นที่เป็นที่รู้จักกันดีในวงการยังมีอีกหลายคน เช่น ชาญ บูลกุล เจษฎา เลิศนันทปัญญา ศิริศักดิ์ สนโสภณ ณัฐพงษ์ พันธ์รัตนมงคล ทันตแพทย์ยรรยง พันธุ์วงกล่อม และสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล

แม้แต่ "ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร" แวลูอินเวสเตอร์พันธุ์แท้ของเมืองไทย เป็นอีกคนหนึ่งที่ประกาศตัวมาตลอดว่าลงทุนในหุ้นทั้ง 100% ของเงินเก็บ ดร.นิเวศน์ไม่ได้ลงทุนเองแต่ลงทุนผ่าน "ภรรยา" เพาพิลาส เหมวชิรวรากร

หุ้นตัวหลักๆ ในพอร์ตของ ดร.นิเวศน์ เช่น หุ้น STANLY มีมูลค่าประมาณ 105 ล้านบาท หุ้น SSC มีมูลค่าประมาณ 65 ล้านบาท และหุ้น PR มีมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท

คนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีก็ล้วนมีบทบาทเบื้องหลังเป็นนักลงทุนในตลาดหุ้นเช่นเดียวกัน อย่างเช่น คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ถือหุ้น VIBHA พานทองแท้ ชินวัตร ถือหุ้น TMB และพายัพ ชินวัตร พี่ชายนายกฯ ก็เป็นนักลงทุนตัวยงคนหนึ่ง ล่าสุดพบว่าถือหุ้น MLINK กว่า 3 ล้านหุ้น

นักการเมืองหลายคนก็มีพอร์ตลงทุนขนาดใหญ่ อย่างเช่น โพธิพงษ์ ล่ำซำ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พนิดา เทพกาญจนา ภรรยา รมว.กระทรวงยุติธรรม

บริบทของรัฐบาลในการผลักดันตลาดหุ้นให้มีมาร์เก็ตแคปเท่ากับจีดีพีของประเทศ ก็คือ บริบทของการสร้างความร่ำรวยให้กับกลุ่มคนรวยที่มีอยู่เพียงหยิบมือ

ให้รวยขึ้นๆๆ แบบยกกำลัง 2