maco สนใจไหม

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ล็อคหัวข้อ
ม้าเฉียว

maco สนใจไหม

โพสต์ โดย ม้าเฉียว » พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2004 8:25 am

บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งในปี 2531 และเริ่มดำเนินการในปี 2532 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการและรับจ้างผลิตป้ายสื่อโฆษณาและบันเทิง โดยเน้นสื่อป้ายโฆษณษภายนอกที่อยู่อาศัยภายใต้ผู้บริหารงานหลัก 3 ท่าน คือ นายนพดล ตัณศลารักษ์ นายพิเชษฐ มณีรัตนะพร และนายธวัช มีประเสริฐสกุล ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นรวมกันในสัดส่วนประมาณร้อยละ 50.96 ของทุนเรียกชำระแล้ว
ในปี 2546 บริษัทฯ ได้ร่วมกับ บริษัท ไรท์ ซายน์ โอเอ็น เอ็ม สวีเดน เอบี จัดตั้งบริษัทใหม่ ชื่อบริษัท มาโก้ ไรท์ ซายน์ จำกัด โดยบริษัทฯถือหุ้นในอัตราส่วน 80% ดำเนินธุรกิจผลิตอุปกรณ์ไตรวิชั่นเพื่อส่งให้ บริษัทฯ ใช้งานและจัดจำหน่ายในภูมิภาค เอเชีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งทำให้สามารถลดต้นทุนการนำเข้ากลไกระบบหมุนไตรวิชั่นจากต่างประเทศได้ถึง 50 % และยังสามารถทำกำไรเพิ่มขึ้นจากการส่งออกอุปกรณ์ไตรวิชั่นไปยังภูมิภาคเอเซีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ อีกด้วย และได้ร่วมลงทุน กับ บริษัท สามารถ อินโฟมีเดีย และ บริษัท แมชชิ่ง
สตูดิโอ จำกัด (มหาชน) จัดตั้ง บริษัท เทค อะ ลุค จำกัด โดยบริษัทถือหุ้นในอัตราส่วน 25 % ทำธุรกิจเกี่ยวกับสื่อป้ายโฆษณาอิเล็คทรอนิคส์ เรียกว่า LED Bill Board ขนาดใหญ่ที่สุดในเอเซียโดยติดตั้งที่บริเวณหน้า CENTRAL WORLD PLAZA และมีแผนจะขยายเป็น 3 จอ ในปี 2547 ซึ่งเป็นโอกาสดีที่บริษัทได้ร่วมลงทุนกับบริษัทที่อยู่ในธุรกิจใกล้เคียงกัน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มช่องทางโฆษณาให้กับบริษัทฯ อีกด้วย
ผลิตภัณฑ์ของบริษัทและบริษัทย่อย คือ สื่อป้ายโฆษณาประเภทต่างๆ โดยสื่อป้ายโฆษณาที่ทำรายได้หลัก ให้แก่กลุ่มบริษัท คือ สื่อป้ายโฆษณาประเภท Billboard : ป้ายโฆษณาภาพนิ่งบนถนนสายหลัก, Trivision : ป้ายโฆษณาที่สามารถเสนอป้ายสับเปลี่ยนกันได้ริมถนนสายหลัก และ BTS City vision : ป้ายโฆษณาบริเวณเสาตอม่อสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งรายได้ของสื่อป้ายโฆษณาทั้ง 3 ประเภทคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 80 ของรายได้รวมของกลุ่มบริษัท ลักษณะการประกอบธุรกิจของกลุ่มบริษัท คือ จัดหาพื้นที่ติดตั้งป้ายโฆษณาประเภทต่าง ๆ ติดตั้งสื่อป้ายโฆษณา รับจ้างผลิตและให้เช่าพื้นที่ติดตั้งงานโฆษณา ปัจจุบันลูกค้าของบริษัทสัดส่วนร้อยละ 60 ของรายได้มาจากลูกค้าที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์โดยตรง และร้อยละ 40 ของรายได้มาจากลูกค้าที่เป็นบริษัทตัวแทนโฆษณา



ม้าเฉียว

โพสต์ โดย ม้าเฉียว » พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2004 8:28 am

ความเสี่ยงจากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจ
การเติบโตของธุรกิจสื่อป้ายโฆษณา มีความสัมพันธ์โดยตรงกับอุตสาหกรรมโฆษณาและการขยายตัวของภาวะเศรษฐกิจ ในช่วงการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมโฆษณาจะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวดังกล่าว เนื่องจากธุรกิจหลายแห่งมีการปิดกิจการ ความต้องการใช้โฆษณามีน้อยลง ขณะที่ธุรกิจที่ยังดำเนินงานต่อมีการควบคุมต้นทุนเพื่อให้สามารถดำรงกิจการให้อยู่รอดได้ ส่งผลให้ยอดใช้จ่ายโฆษณาลดลง
อย่างไรก็ดี สื่อป้ายโฆษณามีต้นทุนในการใช้สื่อต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับสื่อโฆษณาประเภทอื่น ทำให้ไม่กระทบต่อต้นทุนในการดำเนินธุรกิจของลูกค้ามากนัก ดังนั้นแม้ในช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลูกค้ายังคงใช้สื่อป้ายโฆษณาในการประชาสัมพันธ์สินค้าอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถพิจารณาได้จากรายได้ของบริษัทที่เพิ่มขึ้นตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา
นอกจากนี้ในแง่การดำเนินธุรกิจ ธุรกิจสื่อป้ายโฆษณามีต้นทุนคงที่อยู่ในระดับต่ำ คือ มีเพียงค่าเช่าสถานที่ในการติดตั้งป้ายโฆษณาเท่านั้น ซึ่งโดยทั่วไปบริษัทที่มีต้นทุนคงที่ต่ำจะได้รับผลกระทบจากการผันผวนของรายได้น้อยกว่าบริษัทที่มีต้นทุนคงที่สูง จึงอาจกล่าวได้ว่าผลกระทบที่บริษัทได้รับจากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจอยู่ในระดับต่ำ

2. ความเสี่ยงจากการไม่สามารถต่อสัญญาสัมปทาน หรือสัญญาเช่าพื้นที่
ในการดำเนินธุรกิจ บริษัทไม่มีนโยบายลงทุนในที่ดินเพื่อใช้ในการติดตั้งสื่อป้ายโฆษณา พื้นที่ติดตั้งสื่อป้ายโฆษณาทั้งหมดเป็นการเช่าพื้นที่จากเอกชนและภาครัฐ โดยสัญญาเช่าพื้นที่ของบริษัทมีจะอายุที่แตกต่างกันตามแต่ละพื้นที่ ปัจจุบันร้อยละ 35 ของสัญญาเช่าพื้นที่ทั้งหมดมีอายุต่ำกว่า 3 ปี ซึ่งถือเป็นสัญญาระยะสั้น บริษัทจึงมีความเสี่ยงในการที่อาจไม่สามารถต่ออายุสัญญาเช่าพื้นที่ดังกล่าว และอาจจะส่งผลต่อความสามารถในการหารายได้ของบริษัทในอนาคตได้ อย่างไรก็ดีสัดส่วนรายได้ของบริษัทจากสัญญาเช่าพื้นที่ระยะสั้นคิดเป็นร้อยละ 12 ของรายได้รวม
อย่างไรก็ตาม ด้วยศักยภาพและความพร้อมของบริษัททางด้านเทคโนโลยีการผลิต เงินทุน และบุคคลากรประกอบกับผลงานที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับจากลูกค้าและผู้ให้เช่าสถานที่เป็นอย่างดี ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงน้อยมากที่จะไม่ได้รับการต่ออายุสัมปทานและสัญญาเช่า โดยที่ผ่านมาบริษัทยังมิเคยมีปัญหากับสัมปทานและสัญญาเช่าใดๆ

3. ความเสี่ยงจากการไม่สามารถต่อสัญญาเช่าโครง
ในการดำเนินธุรกิจสื่อป้ายโฆษณาประเภท Billboard และ Trivision นอกจากบริษัทจะมีโครงของตนเอง บริษัทยังมีการเช่าโครงจากบริษัทอื่น โดยโครงเช่าส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นการทำสัญญาเช่ากับบริษัท มาสเตอร์ คอนสตรัคชั่น จำกัด บริษัทจึงอาจมีความเสี่ยงหากถูกบอกเลิกสัญญาเช่า
อย่างไรก็ดีบริษัทได้มีการทำบันทึกข้อตกลงกับบริษัท มาสเตอร์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ให้มีการเช่าเป็นระยะเวลา 10 ปี จึงสามารถลดความเสี่ยงดังกล่าวได้ ในขณะเดียวกันหากเปรียบเทียบในแง่ของรายได้ จะพบว่ารายได้ที่เกิดจากการเช่าโครงของบริษัทอื่นๆ คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 10 ของรายได้รวมของบริษัท


4. ความเสี่ยงจากการพึ่งพิงผู้ผลิตระบบ Trivision
เนื่องจากสื่อป้ายโฆษณาทั้งหมดของบริษัทที่ใช้ระบบ Trivision ในการนำเสนอภาพนั้น บริษัทใช้ระบบเทคโนโลยี Trivision ของบริษัท Prisma Sign Technology จำกัด ผู้ผลิตสื่อป้ายโฆษณาในประเทศสวีเดน ดังนั้นบริษัทจึงอาจมีความเสี่ยงในกรณีที่บริษัท Prisma Sign Technology จำกัด ยกเลิกการจำหน่ายระบบ Trivision ให้แก่บริษัทสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ติดตั้งใหม่ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการดำเนินธุรกิจกับบริษัท Prisma Sign Technology จำกัด ตั้งแต่ปี พ.ศ.2537 และถูกจัดเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย จึงสามารถกล่าวได้ว่าบริษัทมีความเสี่ยงน้อยมากที่จะเกิดกรณีดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการรายอื่นอีกหลายรายในประเทศสวีเดนที่ทำการพัฒนาระบบ Trivision และบริษัทเหล่านั้นมีความสนใจที่จะมาลงทุนในภูมิภาคเอเชียเช่นกัน ดังนั้นหากบริษัทไม่สามารถใช้ระบบ Trivision ของบริษัท Prisma Sign Technology จำกัด บริษัทยังสามารถนำระบบ Trivision ของผู้ประกอบการรายอื่นมาติดตั้งกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้

5. ความเสี่ยงจากการพึ่งพิงบุคลากร
ในการดำเนินธุรกิจ บริษัทให้ความสำคัญกับรูปแบบและลักษณะการนำเสนอเป็นหลัก ซึ่งได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายด้วยดีมาตลอด ทั้งนี้บุคลากรในส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดหาสถานที่ติดตั้งป้ายโฆษณา ผู้ผลิต ผู้ออกแบบป้ายโฆษณา หรือทีมงานสนับสนุนต่างๆ นับว่าเป็นปัจจัยสำคัญอีกปัจจัยหนึ่งในการส่งเสริมความสำเร็จของกลุ่มบริษัท อย่างไรก็ตามหากบริษัทสูญเสียบุคลากรเหล่านี้ไปไม่ว่าเหตุผลใดก็ตาม กลุ่มบริษัทเชื่อมั่นว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้รวมมากนัก เนื่องจากความนิยมของกลุ่มเป้าหมายมาจากความโดดเด่นของจุดติดตั้งป้ายโฆษณา เทคโนโลยีการผลิต และการนำเสนอเป็นหลัก อีกทั้งบริษัทใช้วิธีการบริหารด้วยการให้ความสำคัญกับระบบการบริหารในระบบทีมเวิร์ค มากกว่าการให้ภาระหน้าที่อยู่ที่บุคคลเพียงคนเดียว
อย่างไรก็ดีกลุ่มบริษัทมีมาตรการในการลดความเสี่ยงจากการสูญเสียบุคลากรดังกล่าว โดยกลุ่มบริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาและสนับสนุนให้บุคลากรเติบโตไปพร้อมๆ กับความสำเร็จของกลุ่มบริษัท นอกจากนี้ผู้บริหารส่วนใหญ่ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง และเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ทำให้มีความผูกพันต่อองค์กรในการร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่องต่อไป

6. ความเสี่ยงกรณีบริษัทมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่มากกว่าร้อยละ 50
ในปัจจุบัน กลุ่มผู้บริหารทั้ง 3 ท่าน คือ นายนพดล ตัณศลารักษ์ นายพิเชษฐ มณีรัตนะพร และนายธวัช มีประเสริฐสกุล ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วนร้อยละ 63.70 ของทุนเรียกชำระแล้ว และภายหลังจากเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชน สัดส่วนกลุ่มผู้บริหารทั้ง 3 ท่านจะลดลงเหลือประมาณร้อยละ 50.96 ซึ่งจะทำให้กลุ่มผู้บริหารสามารถควบคุมมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้เกือบทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแต่งตั้งกรรมการ หรือการขอมติในเรื่องอื่นที่ต้องใช้เสียงส่วนใหญ่ขอที่ประชุมผู้ถือหุ้น ยกเว้นเรื่องที่กฎหมายหรือข้อบังคับบริษัทกำหนดให้ต้องได้รับเสียง 3 ใน 4 ของที่ประชุมผู้ถือหุ้น ดังนั้นผู้ถือหุ้นรายอื่นอาจไม่สามารถรวบรวมคะแนนเสียงเพื่อตรวจสอบ หรือถ่วงดุลเรื่องที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่เสนอได้
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้แต่งตั้งบุคคลภายนอก 4 ท่าน เข้าเป็นกรรมการอิสระของบริษัท และจัดให้มีคณะกรรมการตรวจสอบ ทำให้สามารถเข้ามาตรวจสอบการดำเนินงานของบริษัทได้ จึงเป็นการถ่วงดุลอำนาจของการบริหารจัดการได้ในระดับหนึ่ง



ม้าเฉียว

โพสต์ โดย ม้าเฉียว » พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2004 8:36 am

มูลค่าของอุตสาหกรรมโฆษณาและยอดขายของบริษัท
มูลค่า (ล้านบาท) ปี 2543------ปี 2544---- ปี 2545----- ปี 2546
GDP (Current Price)14,916,505-5,123,418-5,430,466--5,904,400
สื่อโฆษณารวม2 51,065---52,998----61,220-----71,466
% ของ GDP 1.04%--- 1.04%--- 1.13%--- 1.21%
สื่อป้ายโฆษณา2 1,255--- 1,445 --- 1,718 --- 3,169
% ของสื่อโฆษณารวม 2.46%--- 2.72%--- 2.81%--- 4.43%
มาสเตอร์ แอด3 150 --- 211 --- 289 --- 380
% ของส่วนแบ่งตลาด 11.95%---14.63%---16.82%---12.00%

Maco ครองส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุดในสื่อโฆษณากลางแจ้ง ซึ่งเป็นสื่อที่มีความผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจน้อย เนื่องจากเป็นสื่อที่มีต้นทุนต่ำ



ม้าเฉียว

โพสต์ โดย ม้าเฉียว » พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2004 8:38 am

ภาวะการแข่งขันในธุรกิจสื่อป้ายโฆษณาสามารถสรุปได้ดังนี้
มีผู้ประกอบการหลายราย ผู้ประกอบการรายใหญ่ เช่น บริษัท เจซี ดี เดอ โกลด์ จำกัด บริษัท บางกอกไตรวิชั่น จำกัด และ ผู้ประกอบการรายย่อย เช่น ผู้ที่ติดตั้งสื่อป้ายโฆษณาบนที่พักอาศัย โดยผู้ประกอบการรายใหญ่สามารถครองสัดส่วนประมาณร้อยละ 60 - 70 ของมูลค่าตลาดโดยรวม โดยบริษัทถือเป็นหนึ่งในผู้นำของตลาด ซึ่งเมื่อพิจารณายอดขายของบริษัทเปรียบเทียบกับมูลค่าธุรกิจสื่อป้ายโฆษณาจากการศึกษาของมูลของบริษัท เอซีนีลเสน (ประเทศไทย) จำกัด พบว่าบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดใน แนวโน้มที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผู้ประกอบการรายใหญ่แต่ละราย ส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจไปในแต่ละรูปแบบสื่อป้ายโฆษณา ซึ่งแตกต่างจากบริษัทที่มีนโยบายสร้างสรรค์สื่อให้มีความหลากหลายรูปแบบ และครอบคลุมในหลายพื้นที่ เช่น
บริษัท เจซี เดอ โกลด์ จำกัด มุ่งเน้นสื่อป้ายโฆษณาบริเวณที่พักผู้โดยสารรอรถประจำทาง และบริเวณทางเท้าในเขตกรุงเทพมหานคร
บริษัท บางกอกไตรวิชั่น จำกัด มุ่งเน้นสื่อป้ายโฆษณาประเภท Trivision ขนาดใหญ่
บริษัท ไทยประสิทธิ์นีออนไซน์ โฆษณา จำกัด มุ่งเน้นสื่อป้ายโฆษณาประเภท Billboard
ผู้ประกอบการรายใหญ่ในปัจจุบัน มีพื้นที่ซึ่งเป็นจุดแข็งแตกต่างกัน กล่าวคือบริษัทมุ่งเน้นพื้นที่ทางกรุงเทพฯ ตอนเหนือ และมีโครงการที่จะขยายไปด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ ในเฉพาะบริเวณพื้นที่โดยรอบของสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสำหรับสื่อป้ายโฆษณาในอนาคต
ในปี 2547 บริษัทฯ มีโครงการใหญ่คือโครงการ Railway Billboard โครงการป้ายโฆษณาขนาดใหญ่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต จำนวน 119 ป้าย ซึ่งเป็นจุดติดตั้งในทำเลที่เป้นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้า จึงถือได้ว่าโครงการนี้เป็นการเติบโตที่ชัดเจนขึ้นของบริษัทฯ
จากการที่ผู้ประกอบการแต่ละรายมีรูปแบบสื่อป้ายโฆษณาที่แตกต่างกัน และพื้นที่ที่เป็นจุดแข็งต่างกัน จึงอาจกล่าวได้ว่าสภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรมไม่รุนแรงมากนัก การแข่งขันในปัจจุบันจะเน้นในเรื่องทำเลที่ตั้ง ความหลากหลายของสื่อป้ายโฆษณา การให้บริการที่สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าแบบครบวงจรเป็นสำคัญ ดังเช่นที่บริษัทให้บริการแก่ลูกค้าแบบครบวงจร เป็นผู้จัดสถานที่จากเอกชนและประมูลสัมปทาน เพื่อสร้างโครงป้าย จัดสร้างเครือข่ายและผลิตงานป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ กลาง เล็ก สำหรับป้ายโฆษณาภายนอกและภายในอาคาร รวมถึงการให้คำปรึกษาในการติดตั้งสื่อป้ายโฆษณาในพื้นที่ต่างๆ และเป็นธุรกิจในการจัดแสดง จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการตลาด โดยใช้อุปกรณ์ทางสันทนาการต่างๆ เช่น บอลลูน เรือเหาะ ป้ายจอทีวีขนาดใหญ่ เป็นต้น
การเข้าสู่ธุรกิจของผู้ประกอบการรายใหม่มีข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่ที่มีศักยภาพในการติดตั้ง ซึ่งพื้นที่ ส่วนใหญ่ได้มีการถือครองโดยผู้ประกอบการปัจจุบันอยู่แล้ว ผู้ประกอบการรายใหม่ที่จะเข้ามาจำเป็นต้องหาพื้นที่อื่นๆ เพื่อติดตั้ง เช่น พื้นที่ที่เกิดจากการขยายตัวของชุมชน ซึ่งอาจมีศักยภาพไม่มากนักในการดำเนินงานช่วงแรก



บุคคลทั่วไป

โพสต์ โดย บุคคลทั่วไป » พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2004 8:53 am

---------2004*------2003
Assets 602.53----543.26
Liabilities 178.22----146.70
Equity 397.98----367.96
Paid-up Capital 125.00----125.00
Revenue 137.22----379.82
Net Profit 30.02----65.08
EPS(Baht) 0.24----0.61
ROA(%)* 23.65----23.63
ROE(%)* 31.36----17.69
Net Profit Margin(%) 21.88----17.14
P/E 22.66----31.24
P/BV 3.71----5.34
Book Value per share(Baht) 3.18----2.83
Dvd. Yield(%) N.A.----N.A.
Last Price(Baht) 11.80 15.10
Market Cap. 1,475.00 1,887.50

ตัวเลขทางการเงินปี 2004 เป็นของไตรมาส 1 ดังนั้นหากลองประมาณการกำไรต่อหุ้นของทั้งปี 2004 ก็จะประมาณ 0.24*4=0.96
ตอนนี้ราคาในตลาด 11.80 ก็จะได้ P/E ถ้าซื้อราคานี้ก็ประมาณ 11.80/0.96= 12.29 ซึ่งก็ไม่นับว่าสูงเกินไปเมื่อเทียบกับการเติบโตในอนาคต



ม้าเฉียว

โพสต์ โดย ม้าเฉียว » พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2004 8:57 am

ปัจจุบัน MACO ครองสวนแบงตลาดสื่อโฆษณาภายนอกที่อยูอาศัยถึง 18-20% โดยมีจํานวนปายโฆษณารวม 729
ปาย ประกอบดวย Billboard (ปายแบบธรรมดา) 90 ปาย Trivision 99 ปาย BTS City Vision (ปายบริเวณตอมอ
รถไฟฟา) 210 ปาย City Vision 50 ปาย และปายชนิดอื่น ๆ อีกรวม 280 ปาย โดยในไตรมาส 1/47 รายไดจากปาย
แบบ Trivision และการสงออก Trivision ทํารายไดเปนสัดสวนอยางละ 25% ของรายไดรวม จากการที่บริษัทเริ่ม
นํา Trivision มาประกอบและสงออกไปยังประเทศจีน ซึ่งทํารายได 34 ลานบาทในไตรมาส 1/47 จากเดิมที่ไมมีราย
ไดดังกลาวในปกอน



ม้าเฉียว

โพสต์ โดย ม้าเฉียว » พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2004 9:00 am

MACO จับมือ รวยชัย รุกตลาดจีน MACO ประกาศการร่วมลงทุนกับบริษัท รวยชัย อินเตอรเนชั่นแนล กรุ๊ป จํากัด จากประเทศจีน เพื่อจัดตั้งบริษัท ปักกิ่ง รวยชัย มาโกอินเตอรเนชั่นแนล จํากัด ประกอบธุรกิจใหบริการสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัย โดยการให้เช่าพื้นที่โฆษณา การผลิตชิ้นงานโฆษณา การผลิตสื่อโฆษณาและการขายอุปกรณสื่อโฆษณา
ต่างๆ บริษัท ปักกิ่ง รวยชัย มาโก มีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท โดยบริษัท รวยชัย อินเตอรเนชั่นแนล ถือหุ้น 55% หรือ 27.5 ล้านบาทและ MACO ถือหุ้น 45% หรือ 22.5 ล้านบาท ในระยะแรก แผนงานของบริษัทคือการเข้าไปติดตั้งป้ายโฆษณาในเมืองปักกิ่ง โดยเฉพาะในงานโอลิมปิกป 2551 และผูบริหารคาดว่าภายใน 3 ป จะสามารถติดตั้งป้ายโฆษณาได้ประมาณ 300 จุด



ล็อคหัวข้อ