เงินหยวนควรเป็นอย่างไร

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ล็อคหัวข้อ
ม้าเฉียว

โพสต์ โดย ม้าเฉียว » จันทร์ ต.ค. 11, 2004 8:49 am

หากจีนลอยตัวค่าเงินหยวน เงินหยวนน่าจะแข็งค่าขึ้น เพราะตอนนี้กระแสเงินทุนที่ไหลเข้าไปในจีนนี่เยอะเหลือเกิน แถมยังส่งออกได้มาก ดังนั้นเมื่อมีเงินไหลเข้าจำนวนมาก และมีเงินสำรองสูงขึ้น หากจีนปล่อยเสรีค่าเงิน ก็ค่าเงินหยวนก็จะแข็งค่าขึ้น เพื่อปรับสมดุลของเศรษฐกิจ แต่เมื่อจีนไม่ปล่อยลอยตัวค่าเงินหยวน จีนก็อาจจะต้องคงอัตราดอกเบี้ยต่ำไว้ เพื่อไม่ให้ทุนไหลเข้ามากเกินไป แต่ก็จะส่งผลทำให้การบริโภคและการลงทุนในประเทศสูงขึ้น จนหลายคนเป็นห่วงถึงความร้อนแรงทางเศรษฐกิจของจีน เนื่องจากกลไกปรับสมดุลต่างๆมันเป็นหมัน แต่หากปัจจัยการผลิตต่างๆมันยังไม่ถูกใช้อย่างเต็มที่ ความร้อนแรงดังกล่าวก็จะยังไม่น่าห่วง และเราจะเห็นว่าจีนก็ได้เข้าไปซื้อ Bond ของสหรัฐฯจำนวนมหาศาล จนกลายเป็นประเทศเจ้าหนี้รายใหญ่ของสหรัฐฯ เพราะมีทุนสำรองเหลือเฟือมาก

แต่จริงๆแล้วที่อเมริกาเดือดร้อนเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนผูกติดกับดอลลาร์ และไม่ 'ลอยตัว' ตามตลาดอย่างที่คนอื่นอยากให้เป็น เพราะอเมริกากล่าวหาว่านโยบายอัตราแลกเปลี่ยนอย่างนี้ของจีน ทำให้สินค้าจีนในตลาดโลกถูกกว่าของอเมริกาประมาณร้อยละ 40 และทำให้อเมริกาเสียดุลการค้ากับจีนมากขึ้นทุกที จนล่าสุด ตัวเลขที่สหรัฐขาดดุลการค้าจีนเมื่อปีที่แล้วกระโดดไปสูงถึง 124 พันล้านดอลลาร์ (ไม่น้อยกว่า 5 ล้านล้านบาท) ซึ่งต้องถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งอเมริกาถือว่า เป็นการเอาเปรียบเขา แต่จีนยืนยันว่าจะต้องพิจารณาด้วยว่าที่อเมริกาขายของแพ้จีนในตลาดโลกนั้นมีปัจจัยอื่นๆ ด้วย ไม่ใช่แต่เพียงเรื่องเงินหยวนกับดอลลาร์แต่เพียงอย่างเดียว

ซึ่งผมเห็นว่ารัฐมนตรีคลังจิน เหรินจิง กับประธานธนาคารกลางโจวเซียฉวน
ก็คงคิดที่จะลอยตัวค่าเงินเหมือนกัน แต่ยังไม่สามารถประกาศกรอบเวลาว่าจะทำเรื่องนี้เมื่อไหร่ เพราะเค้าจะต้องปรับกลไก และความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจในด้านอื่นๆก่อน เพื่อรองรับปัญหาของการปรับอัตราแลกเปลี่ยนของเงินหยวนได้

หากเงินหยวนแข็งค่าขึ้น ก็น่าจะส่งผลดีต่อเราไม่น้อย เพราะน่าจะทำให้เราส่งออกไปจีนได้มากขึ้น ซึ่งตอนนี้สินค้าหลักที่ไทยส่งไปขายจีนไม่ใช่ผัก-ผลไม้ แต่เป็นกลุ่มคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน ส่วนอันดับ 2 คือยางพารา ซึ่งไม่ได้อยู่ในรายการข้อตกลงการค้าปลอดภาษีกับจีน ไทยส่งยางพาราไปขายจีนเป็นจำนวนมาก เพราะเราเป็นผู้ผลิตยางพาราอันดับ 1 ของโลก และจีนเป็นผู้บริโภคยางพาราอันดับ 1 ของโลก อุตสาหกรรมรถยนต์ของจีนขยายตัวอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้ไทยเป็นแหล่งนำเข้าอันดับ 11 ของจีน แต่มีสัดส่วนน้อยมากเพียง 2% ของการนำเข้ารวมของจีน อีกทั้งรายการสินค้าที่จีนนำเข้าจากไทย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัตถุดิบ เป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำ เช่น ยางพารา เม็ดพลาสติก และไม้ยาง ซึ่งจีนนำไปผลิตต่อ เป็นมูลค่าเพิ่ม เป็นเฟอร์นิเจอร์ส่งออกขายทั่วโลก ทำให้ในขณะนี้ จีนเป็นผู้ส่งออกเฟอร์นิเจอร์ไม้อันดับหนึ่งของสหรัฐ

สะท้อนให้เห็นว่า ไทยเป็นเพียงลูกโซ่ตัวหนึ่งในห่วงโซ่อุปทานการผลิตของจีน (น่าสงสาร) จีน จึงเป็น "World Factory" ตัวจริง

เพราะฉะนั้นถ้าจีนลอยตัวค่าเงิน และเงินหยวนแข็งค่าขึ้น ก็ลองเดากันดูว่า หุ้นตัวไหนจะได้รับผลดี ผลเสีย



ล็อคหัวข้อ