หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ถามท่านผู้รู้ ทำไม TR

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 25, 2003 11:39 pm
โดย Nash
ทำไม TR จึงกำไรเพิ่มขึ้นจากผลประกอบการปี 45 อยากรู้ว่าTRมีการผลิตสินค้าอะไรใหม่ ๆ รึเปล่า จึงทำให้กำไรเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบผลประกอบการปี45กับ46

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 28, 2003 5:32 pm
โดย No Name
TR เริ่มผลิตเส้นใยวิสโคสคุณภาพสูง ซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมอื่นที่ไม่ใช่สิ่งทอ เนื่องจากเส้นใยเรยอนซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอมีการแข่งขันสูง บริษัทจึงเพิ่มการผลิตในเส้นใยวิสโคสคุณภาพสูง ซึ่งให้อัตรามาร์จินสูงกว่า แต่ปัจจุบันสัดส่วนการขายเส้นใยวิสโคสคุณภาพสูงยังมีไม่มาก ในอนาคตจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับ TR

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 28, 2003 9:33 pm
โดย No Name
ขอเพิ่มเติมข้อมูล TR

หากดูงบการเงินของ TR งวด 3 เดือนและ 9 เดือนปี 2546 สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2546 จะเห็นว่าอัตรา Gross profit margin เพิ่มขึ้นมากเป็น 25% ในQ1, 27% ใน Q2, และ 30%ใน Q3 เปรียบเทียบกับ 8%, 18%, 24.5% ใน Q1,Q2,Q3 ปี 2545 ส่วนหนึ่งมาจากต้นทุนลดลง และส่วนหนึ่งมาจากการขายเส้นใยวิสโคสคุณภาพสูงซึ่งให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าเส้นใยเรยอนที่ใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ

ส่วนได้เสียในบริษัทร่วมที่เพิ่มขึ้นจาก 247 ล้่านบาทในงวด 9 เดือนปี 2545 เป็น 282 ล้านบาทในปี 2546 เกิดจากกำไรของบริษัทร่วมอื่น 3 บริษัทเพิ่มขึ้น ส่วนกำไรใน TCB ลดลงครับ ( TR ถือ TCB ประมาณ 25%)

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 28, 2003 11:27 pm
โดย Nash
อยากรู้เพิ่มเติมนะครับ ว่าเส้นใยวิสโตสถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมใด และสินค้านี้มีคู่แข่งมากรึเปล่า ในความคิดเห็นของคุณNo Name แนวโน้มTRเป็นอย่างไร

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 29, 2003 12:41 am
โดย No Name
TR เป็นผู้ผลิตเส้นใยเรยอนซึ่งส่วนใหญ่ใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมสิ่งทอ ในช่วงที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันที่มีอยู่สูงจากเส้นใยฝ้ายและเส้นใยโพลิเอสเตอร์ ลูกค้าในอุตสาหกรรมสิ่งทอ เช่น TTTM ,TTL

จากเหตุที่ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันที่สูง TR จึงต้องปรับธุรกิจโดยเริ่มผลิตเส้นใยวิสโคสคุณภาพสูง ซึ่งใช้กับอุตสาหกรรมอื่นที่ไม่ใช่อุตสาหกรรมสิ่งทอ เช่น ของใช้ในอุตสาหกรรม แผ่นกรองอากาศ ไส้กรองน้ำมัน ฉนวนกันความร้อน เป็นต้น

การผลิตเส้นใยวิสโคสคุณภาพสูงเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่สิ่งทอ สามารถขายในราคาที่สูงขึ้นส่งผลให้ TR ได้รับอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น

ปัจจุบัน TR ยังมีสัดส่วนการขายเส้นใยวิสโคสคุณภาพสูงไม่มากนัก แต่การปรับตัวดังกล่าวจะทำให้สัดส่วนการขายเส้นใยที่ใช้กับอุตสาหกรรมอื่นที่ไม่ใช่สิ่งทอเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อ TR ในระยะยาว (เพราะแนวโน้มอุตสาหกรรมการผลิตเส้นใยเรยอนเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอไม่ค่อยสดใสนัก เนื่องจากมีการแข่งขันสูง)

สำหรับข้อมูลด้านการลงทุน สิ้นมิถุนายน 2546 BV 338 บาืท DE 0.04 เท่า Cash per share 71.50 บาท ราคาหุ้น 370 บาท จะมี PE 6.57 เท่า คิดจากกำไร 4 ไตรมาสสุดท้าย 56.33 บาทต่อหุ้น ปันผลปีที่แล้ว 8 บาทต่อหุ้น

หวังว่าข้อมูลดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อคุณ Nash และผุ้อื่นที่สนใจ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 29, 2003 12:48 am
โดย Nash
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ คุณ no name

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 29, 2003 10:58 am
โดย No Name
TR เป็นบริษัทในกลุ่มเบอร์ล่า ซึ่งเป็นผลิตเส้นใยเรยอนรายใหญ่ของโลก TCB ซึ่งผลิตผงคาร์บอนเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยางรถยนต์ก็อยู่ในกลุ่มเบอร์ล่าเช่นกัน

ผู้บริหารกลุ่มนี้มีความรู้ความสามารถ ผลิตภัณฑ์สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก การบริหารมีลักษณะอนุรักษ์นิยม สามารถไว้วางใจได้ครับ

สิ่งที่ผมติดตามและตั้งข้อสังเกตุคือ การลงทุนในบริษัทร่วมบางแห่ง ซึ่งแสดงผลงานตามวิธีส่วนได้เสีย โดยผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นแบบมีเงื่อนไขไว้ครับ

โดยรวมสามารถไว้วางใจได้ครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 29, 2003 1:47 pm
โดย No Name
เพิ่มเติมข้อมูล TR

ความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายบริหารและคนงานอยู่ในระดับดีมาก บริษัทมีบ้านพักสวัสดิการดีมาก มีสนามกีฬาให้พนักงาน โรงงานตั้งอยู่ที่ จ.อ่างทอง ใกล้กับ TCB

การพัฒนาอื่นๆ ของบริษัท เท่าที่ทราบก็เป็นการปรับตัวเพื่อผลิตเส้นใยวิสโคสคุณภาพสูงสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่สิ่งทอให้มากขึ้น เพราะการผลิตเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับสิ่งทอมีการแข่งขันสูงมากและอนาคตก็ไม่ค่อยสดใสครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 29, 2003 4:59 pm
โดย บุคคลทั่วไป
น่าสนใจมากครับ TR ไม่ทราบว่าจะสามารถลงทุนระยะยาวหวังกินดอกผลตอน 5-10 ปีข้างหน้าได้ไหมครับ แบบ VI นั่นนะครับ
PP

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 29, 2003 10:06 pm
โดย guest
คุณ No name พอทราบไหมครับว่า หุ้น TR เมื่อไรจะแตกพาร์ จะได้ซื้อได้มั่ง ราคาสูงมากเลย ซื้อตอนนี้ก็ไม่รู้จะคุ้มไหม เลยรี ๆ รอ ๆ อย่างนี้เรื่อยไป ไม่กล้าตัดสินใจนะครับ ช่วยแนะนำด้วยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 29, 2003 11:04 pm
โดย ปีเตอร์ ชาง
TR เป็นหุ้นเปื้อนน้ำลายครับ




เพราะคนซื้อเข้าไปแล้ว ต่างก็อมเอาไว้กันแทบทุกคน ไม่ค่อยมีคนขาย

ปกติหุ้นที่ขึ้นมาขนาดนี้ สภาพคล่องต้องมาแล้วนะครับ แต่ TR วิ่งจาก 19 บาทเมื่อหลายปีก่อน มา 380 วันนี้ สภาพคล่องก็ยังฝืดเหมือนเดิม แสดงสภาวะการอมหุ้นชัดเจนครับ

ผมว่าถ้าไม่แตกพาร์ ราคาหลัก 400 คงมีโอกาสได้เห็นกัน

เท่าที่ทราบ คนซื้อหุ้นตัวนี้ แทบไม่มีคนขาดทุนเลย เพราะราคาหุ้นปรับระดับขึ้นตลอด เวลาตลาดตกรุนแรง มันก็ไม่ค่อยลงด้วย เพราะคนมีหุ้นก็อมกันไว้ทุกคนครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 30, 2003 1:32 pm
โดย No Name
ในอนาคต TR น่าจะยังคงเผชิญกับการแข่งขันที่มีอยู่สูงทั้งจากสินค้าทดแทน เช่น เส้นใยฝ้ายและเส้นใยโพลิเอสเตอร์ รวมทั้งการแข่งขันจากต่างประเทศ เช่นจีน

การปรับธุรกิจเพื่อผลิตสินค้าที่ใช้ในอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่สิ่งทอ จะช่วยให้ TR ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงอุตสาหกรรมสิ่งทอในระยะยาว

จุดเด่นที่สำคัญของ TR คือ ยอดขาย 45% เป็นการขายให้บริษัทในเครือ ซึ่งไม่ไปซื้อจากคู่แข่งแน่นอน อีกทั้งมีลูกค้าเก่าที่ติดต่อมานานจำนวนหนึ่ง

สินค้าของTR มีลักษณะเป็น commodity ซึ่งผันผวนตามราคาตลาดโลก ผู้ผลิตที่มีต้นทุนต่ำจะได้เปรียบ การร่วมลงทุนของ TR กับบริษัทเยื่อกระดาษในแคนาดาจะช่วยให้สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จุดเด่นอื่น คือ เป้นผุ้ผลิตรายใหญ่ในตลาดโลก และมีฐานะการเงินมั่นคงดีมาก

จากเหตุข้างต้น ผมเชื่อว่า TR จะมีข้อได้เปรียบในการดำเนินธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง

สำหรับเรื่องแตกพาร์ ผมไม่ทราบ แต่ TCB มีการแตกพาร์ไปแล้ว

เรื่องการซื้อหุ้น อยากให้ดูข้อมุลการลงทุน รวมทั้งทำความเข้าใจธุรกิจ หากยังไม่เข้าใจ ก็ยังไม่มีความจำเป็นต้องซื้อ หากเสียดายอาจซื้อจำนวนน้อย เพื่อหาข้อมูล เมื่อเข้าใจธุรกิจและมีความมั่นใจ จึงค่อยลงทุนจำนวนมาก เรื่องการลงทุนไม่มีคำว่าสายครับ

ขอบคุณสำหรับคำชมเรื่องข้อมูล สำหรับข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ ต้องมีติดตามอย่างยาวนานและต่อเนื่องครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 30, 2003 1:37 pm
โดย No Name
เพิ่มเติม

แบบ 56-1 ของ TR ปี 2545 ต้องโทรไปแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์นำลงในเวปให้ครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 09, 2003 1:21 pm
โดย No Name
สิ่งที่คุณ Thanwa ถาม คือสิ่งที่ผมตั้งข้อสังเกตุไว้เกี่ยวกับบริษัทที่ TR นำเงินไปลงทุน

TR ถือหุ้น 16.67% บริษัทในแคนาดา คือบริษัท เอ วี เซลล์ อิงค์ เป็นผู้ผลิตเยื่อกระดาษซึ่งขายให็ TR โดยTR จะซื้อเยื่อกระดาษประมาณปีละ 700 ล้านบาท และมีเงินให้ยืม 130 ล้านบาท มีรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้กู้ยืมประมาณ 10 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยมีการปรับลดลงและมีการเลื่อนเวลาชำระหนี้ออกไป

TR เป็นบริษัทที่มีเงินสดจำนวนมากและยังไม่มีโครงการลงทุนที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก บริษัทเคยชี้แจงว่าการให้ยืมกับบริษัทที่ทำธุรกิจร่วมกัน โดยคิดอัตราดอกเบี้ยใกล้เคียงอัตราดอกเบี้ยในตลาด (ดอกเบี้ยเงินฝาก) จะดีกว่าการเก็บเงินไว้ในธนาคาร เพราะเป็นการช่วยเหลือธุรกิจที่ลงทุน ซึ่งเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเช่นกัน เพราะเป็นผู้ขายเยื่อกระดาษให้บริษัทโดยเป็นวัตถุดิบเกือบ 40% ของเยื่อกระดาษที่บริษัทใช้ทั้งหมด

โดยทั่วไปหลายบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ก็มีการทำเช่นนี้อยู่ ซึ่งในกรณีนี้ผู้ได้ประโยชน์ที่สุด คือ ผู้ถือหุ้นในเยื่อกระดาษอีก 83% เพราะได้เงินยืมดอกเบี้ยต่ำไปทำธุรกิจ

สิ่งที่ต้องติดตามไม่ใช่เพียงบริษัทดังกล่าว แต่เป็นเงินลงทุนอีกหลายบริษัทที่ TR ลงทุนครับ