เก็บตกจากงานtvi meeting#2
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 15, 2003 10:37 pm
ผมโชคดีที่ได้นั่งโต๊ะเดียวกับคุณลุงพงศ์พันธ์
ถ้าผมกะไม่ผิดคุณลุงน่าจะอายุ60-70ปี มากที่สุดในงาน
คุณลุงเป็นvi พันธ์แท้ ลงทุนในหุ้นมาตั้งแต่หนุ่มๆ (ผมว่าน่าจะตั้งแต่เปิดตลาด) และชวนลูกๆมาลงทุนด้วย ทุกคน
คุณลุงมางานนี้กับลูกชายซึ่งก็เป็นนักลงทุนเหมือนกัน บ้านคุณลุงอยู่ติดกับเจ้าของtuf
คนอายุขนาดคุณลุงถ้าลงทุนน่าจะลงทุนแบบ" เก็งกำไร "เพราะเป็นtrendของยุคนั้น
...................แต่ผมผิดคาดครับ
คุณลุงเป็นviตัวจริง พันธ์แท้ซะด้วย
คุณลุงได้แนะนำว่าการลงทุนเป็นการพัฒนาชาติ ไม่ใช่การพนัน
เวลาที่คุณลุงซื้อหุ้น จะถือยาวๆๆๆๆๆๆไปเรื่อยๆ ไม่เข้าๆออกๆ
เวลาซื้อหุ้น จะมีราคาอยู่ในใจว่าถูกหรือแพง โดยคำนวนจาก
book value/2 + 5เท่าของเงินปันผล +หรือ- อีก20%โดยดูจากgoodwillของบริษัท
ถ้าบริษัทดีก็บวกเพิ่มให้อีก20-30% โดยดูจากปันผลที่สม่ำเสมอและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
และจะขายต่อเมื่อ ผลประกอบการณ์ลดลง อย่างมีนัยสำคัญ กำไรน้อยหรือมาก แม้ขาดทุนก็ขาย
ผมขอบันทึกไว้เป็นเกียรติสำหรับชมรมtviของพวกเราครับ
ถ้าผมกะไม่ผิดคุณลุงน่าจะอายุ60-70ปี มากที่สุดในงาน
คุณลุงเป็นvi พันธ์แท้ ลงทุนในหุ้นมาตั้งแต่หนุ่มๆ (ผมว่าน่าจะตั้งแต่เปิดตลาด) และชวนลูกๆมาลงทุนด้วย ทุกคน
คุณลุงมางานนี้กับลูกชายซึ่งก็เป็นนักลงทุนเหมือนกัน บ้านคุณลุงอยู่ติดกับเจ้าของtuf
คนอายุขนาดคุณลุงถ้าลงทุนน่าจะลงทุนแบบ" เก็งกำไร "เพราะเป็นtrendของยุคนั้น
...................แต่ผมผิดคาดครับ
คุณลุงเป็นviตัวจริง พันธ์แท้ซะด้วย
คุณลุงได้แนะนำว่าการลงทุนเป็นการพัฒนาชาติ ไม่ใช่การพนัน
เวลาที่คุณลุงซื้อหุ้น จะถือยาวๆๆๆๆๆๆไปเรื่อยๆ ไม่เข้าๆออกๆ
เวลาซื้อหุ้น จะมีราคาอยู่ในใจว่าถูกหรือแพง โดยคำนวนจาก
book value/2 + 5เท่าของเงินปันผล +หรือ- อีก20%โดยดูจากgoodwillของบริษัท
ถ้าบริษัทดีก็บวกเพิ่มให้อีก20-30% โดยดูจากปันผลที่สม่ำเสมอและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
และจะขายต่อเมื่อ ผลประกอบการณ์ลดลง อย่างมีนัยสำคัญ กำไรน้อยหรือมาก แม้ขาดทุนก็ขาย
ผมขอบันทึกไว้เป็นเกียรติสำหรับชมรมtviของพวกเราครับ