หน้า 1 จากทั้งหมด 1

Don't "PANIC"

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 20, 2003 4:48 am
โดย หนึ่ง(taladhoon)
อย่าให้เรื่องร้ายในอดีตทำให้เราลังเลที่จะก้าวต่อไปครับ


1. ดูจากโมเมนตั้ม แล้วควรจะขึ้นไปอีกนะครับ เพียงแต่ slope มันชันน้อยลง
2. โบนัสงามๆของโบรกเกอร์ อาจทำให้มีการซื้อ-ขายสูงต่อไปอีก ได้ข่าวว่า บางคนมีรายได้ต่อเดือนมากกว่า MD บ.หลักทรัพย์เองเสียอีก 800,000 - 1,000,000 บ. ต่อเดือน
3. ผมไม่ได้ตามข่าวว่าใกล้เลือกตั้งแล้วหรือยัง แต่"ถ้า"ผมเป็นนักการเมือง ผมจะต้องหาทุนไว้ก่อนนะครับ ถ้าหุ้นขึ้น เค้าได้ทั้งผลงานและทุนรอน(ไม่ใช่ enron)
4. ดอกเบี้ยต่ำ ฝากแบงค์ ไปใย?
5. ปฏิกิริยาลูกโซ่ พูดกันปากต่อปาก เดี๋ยวนี้ใครๆก็อยากเล่นหุ้น ไม่ว่าจะเป็น คนขายไอติม เด็กนักเรียน คนตกงาน นาย ก. นาง ข.

สมัยนายก ชาติชาย ทุกอย่างเป็นฟองสบู่หมด ดอกเบี้ยสูง แต่ตลาดหุ้นก็ยังขึ้นเอาขึ้นเอา เชื่อว่าเป็นความเก็บกดทางเศรษฐกิจของประชาชนที่ได้มาจากสมัย นายกคนก่อน พล.อ. ชาติชาย

สมัยนี้ ดอกเบี้ยถูก แล้วตลาดหุ้นก็ขึ้นเอาขึ้นเอา มัน make sense ครับ แต่สมัยนี้ ความเก็บกดทางเศรษฐกิจของประชาชนก็ได้มาจากยุค IMF เหมือนกัน คงจำกันได้นะครับ ว่า IMF เริ่มที่ยุค นายก ชวลิต

สมัยนายก ชาติชาย มันแตกที่ประมาณ 1700 จุดใช่มั้ยครับ
ตอนนี้ยังเพิ่ง 500 กว่าจุด

อีกอย่างนึง ประวัติศาสตร์ไม่มีวันที่จะซ้ำรอยเป๊ะๆ ครับ ขนาดเรื่องสถิติยังต้องมี varience เลย

ต้นเหตุของ ความทุกข์ในวงการหุ้น คือ
"ขาดสติ" / "ไม่ใช้ปัญญา" / "โลภ"

ครับผม

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 22, 2003 3:58 am
โดย หนึ่ง
นายสต็อก เขียน:การจะมองแค่ เลข 1700 กว่าๆ กับเลข 500 กว่าๆ แล้วมาสรุป
ผมว่าไม่ใคร่เหมาะสมสักเท่าใดครับ เพราะ

ปัจจัยหลายๆอย่างไม่เหมือนกันครับ เช่น จำนวนบริษัทที่อยู่ในตลาด
ก็ไม่เท่ากัน สภาพเศรษฐกิจและมูลค่าเงินบาทในกระเป๋าเราก็ต่าง
กันมาก นโยบายการบริหารบ้านเมือง และ เศรษฐกิจก็ไม่ได้แบบเดียวกัน

คล้ายการเปรียบเทียบ "ผลแอปเปิ้ล" กับ "ผลส้ม" ครับ :idea:
ครับก็อย่างที่ผมบอกแหละครับ ประวัติศาสตร์ไม่มีวันซ้ำรอยเป๊ะๆ ซึ่งก็มีเหตุผลมาจาเรื่องปัจจัยต่างๆที่มากระทบแหละครับ

ผมเคยฟังเพื่อนคนนึงพูดเรื่องนิยายของ(ไม่แน่ใจว่าใช่รึเปล่านะครับ) ไอแซค อาซิมอฟ เรื่อง "สถาบันสถาปนา"
เป็นเรื่องเกี่ยวกับความสำเร็จของการค้นพบฟังก์ชันที่สามารถใช้ทำนายชะตาและจุดจบของมันโลกได้รวมทั้งเหตุการณ์ที่ตามมาเมื่อมีคนสองฝ่ายที่รู้ฟังก์ชั่นนี้พอๆกัน

ซึ่งความปรารถนาแบบนี้ก็ได้ถูกกล่าวถึงใน "ประวัติย่อของกาลเวลา" ที่เขียนโดย สตีเฟน ฮอว์กิ้ง เหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงยังไม่มีใครค้น อาจเป็นเพราะไอ้เจ้าปัจจัยที่มากมายที่เพิ่มเข้ามาในฟังก์ชั่นนี่แหละครับ

เอ...ว่าแต่แอปเปิ้ลกับส้มนี่ก็มีหลายพันธุ์อยู่นะครับ :P