หน้า 1 จากทั้งหมด 1
โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 07, 2003 4:53 pm
โดย Nash
ผมขอออกความเห็นนะครับพี่ Jeng ผมว่า Metco น่าสนใจตามที่พี่ว่า แต่ผมว่าต้องระวังตรงที่ Metco ผลิตสินค้าที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีนะครับ นั่นคือ ต้องมีการคิดค้นพัฒนาสินค้าตลอดเวลา ปัญหาคือหาก คิดค้นได้ช้ากว่าคู่แข่งก็เสียเปรียบคู่แข่ง แต่หากสามารถคิดค้นได้ก่อนคู่แข่งก็จะสามารถกอบโกยกำไรได้มาก เช่น ไตรมาสที่1 ปีนี้ แต่หลังจากนั้นกำไรก็จะลดลง ตามแนวโน้มเกี่ยวกับราคาสินค้าที่เป็น เทคโนโลยี นะครับ
ผมว่าตรงนี้เป็นปัญหาสำคัญของกิจการที่ผลิตสินค้า เทคโนโลยี
โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 07, 2003 9:20 pm
โดย ประจวบ
metcoต้องก้าวล้ำหน้าจีนกับเกาหลี1ก้าวครับไม่งั้นจะแย่แน่ๆ
เป็นปัญหาของหุ้นเทคโน.ทั้งหลายที่สามารถตามกันทันในระยะเวลาไม่นาน
ทำให้สินค้ามีอายุในตลาดสั้น
และจีนกับเกาหลีมีต้นทุนแรงงานที่ถูกกว่าทำให้ได้เปรียบ
ดูได้จากประวัติของเค้าที่ใหม่ๆทำหัวอ่านวิดีโอ,หัวอ่านvcd
ซึ่งตอนนี้ตกรุ่นไปแล้ว สู้จีนเกาหลีไม่ได้
ตอนนี้ทำcd changer ขณะนี้ทำกล้องdigital
metcoยังทำได้ค่อนข้างดีในระยะนี้ครับเพราะญี่ปุ่นเค้าแพ็คกันดี
แต่ถ้ามองยาวๆๆๆแล้วนึกไม่ออกว่าเค้าจะทำอะไรต่อ
ที่จะนำหน้าจีนเกาหลี
ถ้าจะถือต้องตามผลงานเค้าตลอด
โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 07, 2003 9:26 pm
โดย x-men
ชิ้นส่วนอีเล็คทรอนิกส์สำหรับรถยนต์ คือ In Dashboard Compact Disc Changers : IDC ครับ
cd exchanger ที่เขียนกันน่าจะเป็น cd changers ที่เป็น
ตู้ใส่ cd หลายๆแผ่นมากกว่านะครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 07, 2003 9:31 pm
โดย x-men
ผมว่าดูลักษณะธุรกิจแล้ว ถือสบายใจสู้หุ้นโคมไฟ stanley ไม่ได้
แต่หุ้นโคมไฟผมก็ซื้อไม่ไหว จะซื้อตั้งแต่ร้อยกว่าบาทแล้ว
ไม่ได้ซื้อสักทีจนกลายเป็นของแพงเกินที่จะรอให้คุ้มที่ลงทุน
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 08, 2003 6:12 pm
โดย บุคคลทั่วไป
ดิฉันดีใจมากที่มี web ดีๆ แบบ TVI แต่ก็ต้องขอบคุณพี่ๆ ทางพันธ์ทิพย์ที่ได้แนะนำเวปนี้ ก็เลยตามมาอ่าน เมื่อสองเดือนก่อนดิฉันสนใจจะลงทุนในหุ้น ได้เริ่มอ่านหนังสือของ อ.นิเวศน์ก่อน อ่านกระทู้ในเวปหุ้นย้อนหลังสามเดือน และเก็บรวบรวมข้อมูลจากหลายๆ แหล่ง จดๆ ไว้ในสมุด พอดีเข้าไปดูในโครงการร้อยคนร้อยหุ้น ก็สนใจศึกษาหุ้นที่แนะนำให้ศึกษาหลายตัว ตอนแรกๆ ก็ไม่สนใจ METCO เลย ด้วย Concept ว่าเป็นหุ้นที่ต้องสำรองเงินทุนเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ลองพิมพ์งบการเงิน 30/6/2003 มาศึกษาดู เห็นว่ามีจุดน่าสนใจหลายๆ เรื่อง จึงได้ซื้่อไว้บ้าง ตอนนี้มีแค่ 400 หุ้น ราคาเฉลี่ยที่ 238 วันนี้ปิดที่ 224 port ดิฉันเป็นตัวแดงมาหลายวันแล้ว ตกใจเหมือนกันสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ เพราะเป็นหุ้นที่ติดลบสูงสุดใน port แต่ก็ไม่รู้สึกเดือดร้อนใจเลย เพราะเชื่อในพื้นฐานของหุ้น ก่อนซื้อดิฉันได้วิเคราะห์หุ้นไว้บ้าง แต่ก็มีข้อมูลจาก Thailand Company Handbook แค่ 5 ปี ย้อนหลัง ต้องขอบคุณคุณ Jeng ที่นำข้อมูลมาให้ดูเพิ่ม และวิเคราะห์ให้เสร็จเรียบร้อย ดิฉันขอ share idea เพิ่มเติมในส่วนที่ได้วิเคราห์ไว้เองด้วย ดังนี้ และรบกวนทุกท่านช่วยแนะนำด้วย หากดิฉัีนวิเคราะห์พลาดในบางเรื่อง เพราะเป็นมือใหม่จริงๆ และไม่มีความรู้พื้นฐานด้านบัญชีมาก่อน (ตัวเลขที่ใช้คำนวณเป็นตัวเลขของงบ 30/6/2003 หากใช้ประมาณการ Q4/2003 น่าจะได้ผลการคำนวณที่ดีกว่า) :
1.Revenue > Market Cap
2.กำไรสุทธิ ต่อราคา (13%) สูงกว่าผลตอบแทนพันธบัตร (6.5%)
3.Div Yield (4.20%) มีค่าประมาณ 2 ใน 3 ของพันธบัตร (6.5%)
4.หนี้สินทั้งหมดต่อหุ้น (134) ต่ำกว่า Book Value (161)
5.อัตราเงินทุนหมุนเวียน (ทรัพย์สินหมุนเวียน>หนี้สินหมุนเวียน) = 1.5 เท่า
6.หนี้สินหมุนเวียน ต่ำกว่า เงินสด+ลูกหนี้การค้า (ไม่รวม inventory)
7. ROA สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้
8. ROE มีอัตราสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
9. กำไรสะสมสูงถึง 50% ของ Market Cap.
ด้านการผลิตและการตลาด จากที่อ่านจาก 56-1 (จำได้คร่าวๆ ต้องกลับไปอ่านใหม่ค่ะ เพราะตอนนั้นไล่อ่านของหลายๆ บริษัท)
1.เป็น Market Leader ที่ผลิตชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในสายธุรกิจประเภทนี้มาถึง 50 ปี
2.มีฐานการตลาดที่แข็งแกร่งมาก โดยมี channal ผ่านบริษัทจัดจำหน่ายในญี่ปุ่น โดยปรกติญี่ปุ่นมักค้าขายผ่านบริษัทญี่ปุ่นด้วยกัน ส่วนตัวแทนในประเทศไทย ผ่าน Itochu เป็น Trading Company รายใหญ่
3.ลักษณะการถือหุ้น ไม่เป็นเบี้ยหัวแตก บริษัทแม่ถือหุ้นใหญ่ถึง 62%
4.ปันผล 30% ของกำไรสุทธิ เข้าใจว่าต้องจัดสรรกำไรสุทธิสำหรับการลงทุนในอนาคต แต่ถึงแม้ปันผลที่ 30% ํYield ก็ยังสูงเมื่อเทียบกับหุ้นบางตัว ณ ราคาปัจจุบัน
5. จำนวนหุ้นไม่มากเกินไป 22 ล้านหุ้น Par 10 บาท
6. ในส่วนค่าจ้างและรายจ่ายให้ผู้บริหาร ก็อยู่ในอัตราที่ยอมรับได้ (อันนี้ต้องขอกลับไปอ่าน 56-1 อีกครั้งค่ะ
แต่เนื่องจากหุ้่นชนิดนี้เป็นหุ้น Technology ซึ่งดิฉันไม่สามารถเข้าใจผลิตภัณฑ์ได้เต็ม 100% (อันนี้เป็นพื้่นฐานที่คุณวิบูลย์แนะนำ) จึงตั้งใจไว้ว่าจะลงทุนระยะกลาง - ยาว และต้องคอยติดตามผลประกอบการอย่างต่อเนื่องค่ะ ส่วนราคาแกว่งตัวแรงจัง เวลาหุ้นตก คนถือก็ตกใจเหมือนกัน แต่ต้องท่องไว้ ว่าวิเคราะห์มาดีแล้ว มั่นใจๆๆ
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 08, 2003 9:52 pm
โดย ภัค
เรียนคุณ Jeng
แปลกจังดิฉันคิดว่า login แล้ว แต่ทำไมยังเป็น Guest ไว้ค่อยลอง login ใหม่นะคะ คือว่าตอนซื้อก็ดูราคาเหมือนกันค่ะ โดยใช้หลักการดังนี้
1. ดู P/E และ P/BV ตอนซื้อครั้งแรกวันที่ 15/9/2003 ราคา 240 ถ้าจำไม่ผิด อยู่ที่ P/E=6.1ึ7 และ P/BV=1.54 ตามลำดับ ที่ยอมซื้อที่ P/BV แพงหน่อยก็มีเหตุผลเช่นกัน คือตอนที่ซื้อตลาดกำลังเป็นขาขึ้น เห็นราคาที่ 1.5 เท่าคิดว่ารับได้ เพราะว่าหุ้นตัวอื่นๆ เทียบพื้นฐานแล้วก็ไม่ได้ดีกว่า และยังมีราคาแพงกว่าด้วย ในขณะที่ตลาดเป็นขาขึ้นคิดว่าราคาคงไม่ตกไปกว่า B/V มากมายนัก อีกอย่างหนึ่งก็คิดว่า ยอมซื้อของดีแต่ราคาสูงนิดหน่อยดีกว่าซื้อก้นซิการ์มาสูบ (อันนี้ก็ลอกความเห็นคุณวิบูลย์ และอาจารย์ Buffet มา)
2. ขอขอบคุณคลายเคลียด หรือท่านที่ post ไว้ในพันธ์ทิพด้วยค่ะ ที่ช่วยคิด Ratio และเอามา สรุปให้มือใหม่ได้ศึกษา ดิฉันใช้ Ratio ต่อไปนี้ค่ะ
-แพะ Ratio โดยใช้ผลคูณของ (P/E * P/BV =9.5) อันนี้เป็นการดู short term และ long term ต่ำกว่า 10 ถือว่าดี แต่สำหรับหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ดิฉันรับได้ที 20 (อันนี้จำ อ.นิเวศน์ มาค่ะ)
- เฟยหง Ratio โดยเอา Ratain Earning/Market Cap ต้องเกิน 40%
3. หาอัตราเงินสดต่อหุ้น ได้ที่ 52 บาท ดังนั้นราคาที่ดิฉันซื้อจริงๆ ก็คือ 240-52=188 (สูตรนี้ไม่ค่อยแน่ใจค่ะ เพราะเราไม่ได้ถือหุ้นไปตลอด) แต่ก็คิดไว้ปลอบใจตัวเองว่าซื้อแพงกว่า B/V นิดเดียวเอง
4.ดิฉันดู movement ของราคาย้อนหลังใน history trading ของ Set เห็น ช่วงราคาที่หุ้นวิ่งขึ้นลง รู้สึกว่าแกว่งพอสมควร แต่รับได้ เพราะเป็นเงินเย็นถือรอให้หุ้นขึ้นค่อยขายก็ได้ค่ะ
5. ดิฉันดูกราฟหุ้นตัวนี้ใน Thailand Company Handbook (ต้องขอขอบคุณคุณอาจองที่ช่วยเป็นธุรจัดหาจัดส่งให้ค่ะ ตอนนั้นตื่นเต้นมาก อยากได้คู่มือเล่มนี้มากๆ โทรไปตามหนังสือเองเลยค่ะ) เห็นว่าหุ้นตัวนี้ราคาจะลงในช่วงเดือนกันยา-ตุลาคม เป็นอย่างนี้มาสามปีแล้ว อีกทั้งดูกราฟรวมไปเลย เป็นกราฟค่อยๆ ไต่สูงขึ้นทุกๆ ปี แต่ไม่หวือหวาขึ้นลงแบบหุ้น KK, เลยยิ่งมั่นใจว่าหุ้นน่าจะค่อยๆ ไต่ขึ้นไปอีกเพระดูผลประกอบการ Q3 แล้ว ก็พอจะ forecast ไตรมาศสุดท้ายได้
6. ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งที่ซื้อ ก็เพราะหุ้นตัวนี้ผลประกอบการสิ้นสุดเดือน Sep จะได้ปันผลเร็วกว่าตัวอื่นๆ ปีก่อนปันผล 10 บาท ปีนี้น่าจะเท่ากันหรือมากกว่านิดหน่อย คาดว่าถ้าประกาศผลประกอบการแล้ว ราคาหุ้นน่าจะขยับขึ้นไปอีก ถ้าไม่ได้ capital gain ก็ยังได้ปันผลมาให้ชื่นใจบ้างค่ะ
ดิฉันก็ทำการบ้านตามนี้ล่ะค่ะ ตอนนี้ยังไงก็จะกอดหุ้นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะรู้ปันผล อยากดูด้วยว่าวิเคราห์ขนาดนี้แล้ว ถ้าตกม้าตายก็ให้รู้ไปเลย ถือว่าเป็นบทเรียนค่ะ ตอนนี้ก็รอให้ราคาตกลงมาอีก มี target ค่อยๆ เก็บจนครบ 1000 หุ้นค่ะ
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 08, 2003 9:53 pm
โดย ภัค
เรียนคุณ Jeng
แปลกจังดิฉันคิดว่า login แล้ว แต่ทำไมยังเป็น Guest ไว้ค่อยลอง login ใหม่นะคะ คือว่าตอนซื้อก็ดูราคาเหมือนกันค่ะ โดยใช้หลักการดังนี้
1. ดู P/E และ P/BV ตอนซื้อครั้งแรกวันที่ 15/9/2003 ราคา 240 ถ้าจำไม่ผิด อยู่ที่ P/E=6.1ึ7 และ P/BV=1.54 ตามลำดับ ที่ยอมซื้อที่ P/BV แพงหน่อยก็มีเหตุผลเช่นกัน คือตอนที่ซื้อตลาดกำลังเป็นขาขึ้น เห็นราคาที่ 1.5 เท่าคิดว่ารับได้ เพราะว่าหุ้นตัวอื่นๆ เทียบพื้นฐานแล้วก็ไม่ได้ดีกว่า และยังมีราคาแพงกว่าด้วย ในขณะที่ตลาดเป็นขาขึ้นคิดว่าราคาคงไม่ตกไปกว่า B/V มากมายนัก อีกอย่างหนึ่งก็คิดว่า ยอมซื้อของดีแต่ราคาสูงนิดหน่อยดีกว่าซื้อก้นซิการ์มาสูบ (อันนี้ก็ลอกความเห็นคุณวิบูลย์ และอาจารย์ Buffet มา)
2. ขอขอบคุณคลายเคลียด หรือท่านที่ post ไว้ในพันธ์ทิพด้วยค่ะ ที่ช่วยคิด Ratio และเอามา สรุปให้มือใหม่ได้ศึกษา ดิฉันใช้ Ratio ต่อไปนี้ค่ะ
-แพะ Ratio โดยใช้ผลคูณของ (P/E * P/BV =9.5) อันนี้เป็นการดู short term และ long term ต่ำกว่า 10 ถือว่าดี แต่สำหรับหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ดิฉันรับได้ที 20 (อันนี้จำ อ.นิเวศน์ มาค่ะ)
- เฟยหง Ratio โดยเอา Ratain Earning/Market Cap ต้องเกิน 40%
3. หาอัตราเงินสดต่อหุ้น ได้ที่ 52 บาท ดังนั้นราคาที่ดิฉันซื้อจริงๆ ก็คือ 240-52=188 (สูตรนี้ไม่ค่อยแน่ใจค่ะ เพราะเราไม่ได้ถือหุ้นไปตลอด) แต่ก็คิดไว้ปลอบใจตัวเองว่าซื้อแพงกว่า B/V นิดเดียวเอง
4.ดิฉันดู movement ของราคาย้อนหลังใน history trading ของ Set เห็น ช่วงราคาที่หุ้นวิ่งขึ้นลง รู้สึกว่าแกว่งพอสมควร แต่รับได้ เพราะเป็นเงินเย็นถือรอให้หุ้นขึ้นค่อยขายก็ได้ค่ะ
5. ดิฉันดูกราฟหุ้นตัวนี้ใน Thailand Company Handbook (ต้องขอขอบคุณคุณอาจองที่ช่วยเป็นธุรจัดหาจัดส่งให้ค่ะ ตอนนั้นตื่นเต้นมาก อยากได้คู่มือเล่มนี้มากๆ โทรไปตามหนังสือเองเลยค่ะ) เห็นว่าหุ้นตัวนี้ราคาจะลงในช่วงเดือนกันยา-ตุลาคม เป็นอย่างนี้มาสามปีแล้ว อีกทั้งดูกราฟรวมไปเลย เป็นกราฟค่อยๆ ไต่สูงขึ้นทุกๆ ปี แต่ไม่หวือหวาขึ้นลงแบบหุ้น KK, เลยยิ่งมั่นใจว่าหุ้นน่าจะค่อยๆ ไต่ขึ้นไปอีกเพระดูผลประกอบการ Q3 แล้ว ก็พอจะ forecast ไตรมาศสุดท้ายได้
6. ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งที่ซื้อ ก็เพราะหุ้นตัวนี้ผลประกอบการสิ้นสุดเดือน Sep จะได้ปันผลเร็วกว่าตัวอื่นๆ ปีก่อนปันผล 10 บาท ปีนี้น่าจะเท่ากันหรือมากกว่านิดหน่อย คาดว่าถ้าประกาศผลประกอบการแล้ว ราคาหุ้นน่าจะขยับขึ้นไปอีก ถ้าไม่ได้ capital gain ก็ยังได้ปันผลมาให้ชื่นใจบ้างค่ะ
ดิฉันก็ทำการบ้านตามนี้ล่ะค่ะ ตอนนี้ยังไงก็จะกอดหุ้นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะรู้ปันผล อยากดูด้วยว่าวิเคราห์ขนาดนี้แล้ว ถ้าตกม้าตายก็ให้รู้ไปเลย ถือว่าเป็นบทเรียนค่ะ ตอนนี้ก็รอให้ราคาตกลงมาอีก มี target ค่อยๆ เก็บจนครบ 1000 หุ้นค่ะ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2003 11:50 am
โดย ภัค
เมื่อเช้ามี post ตอบไปแล้ว แต่ข้อความหายไป
ไปหา link เกี่ยวกับ Ratio มาให้ค่ะ
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 23323.html
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2003 3:38 pm
โดย purin
เคยได้ยินหรือเปล่าที่ชอบกินสุกี้ mk เลยซื้อหุ้น mk รวยแบบไม่รู้เรื่องเลย :lol:
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 09, 2003 11:08 pm
โดย ภัค
ขอบคุณคุณวิบูลย์ และขอบคุณคุณ Jeng ด้วยค่ะ ดิฉันเข้าใจความปรารถนาดีของคุณ Jeng ที่ต้องการให้คนที่ซื้อหุ้นรู้จักคิดรอบด้าน ทั้งในเรื่องตัวธุรกิจ และราคาที่เหมาะสม สามารถอธิบายเหตุผลของการเลือกหุ้นได้ ไม่ใช่เลือกเพราะรู้สึกชอบ หรือเลือกเพราะซื้อตามๆ กัน โดยไม่ต้องออกแรงคิดอะไร จริงๆ แล้วดิฉันเองก็คิดว่าตัวเองนี่วุ่นวายเกินไป เพราะเที่ยวหานั่นหานี่มาคำนวนแบบครอบจักรวาลไปหมด ทั้งๆ จริงๆ แล้วมีเคล็ดวิชาแค่นิดเดียว ซึ่งผู้ลงทุนแต่ละท่านโดยเฉพาะท่านที่มีประสพการณ์ลงทุนมานาน สามารถมองทะลุหุ้นได้ในแว็บเดียวว่าเหมาะสมที่จะลงทุนหรือไม่ ดิฉันก็หวังว่าสักวันก็คงทำได้แบบนั้นบ้าง แต่ตอนนี้เพิ่งเริ่มต้นค่ะ ก็เลยขอหว่านแหไปก่อน วิธิไหนที่เอามาวิเคราะห์ได้ ก็รวบรวมมาใช้ทั้งหมด คิดว่าพอเริ่มคุ้นก็คงตัดบางส่วนที่ซ้ำซ้อนออกไปได้บ้าง เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ได้กระชับและรวมเร็วขึ้น โดยทั่วไปแล้วดิฉันไม่ได้วิเคราะห์เจาะลึกแบบนี้ทุกตัวค่ะ แค่ดู company highlight ดูงบการเงินคร่าวๆ ดู history trading ก็พอจะรู้คร่าวๆ แล้วหุ้นตัวนั้นน่าสนใจหรือไม่ ส่วนการวิเคราะห์ที่เล่ามาข้างต้น เพื่อหาตัวเลขมา confirm เท่านั้นค่ะ ที่มา post ก็มาร่วมแชร์ idea ค่ะ และยินดีรับฟังคำแนะนำว่าดิฉันควรตัดทอนอะไรที่ไม่จำเป็นทิ้งไปบ้าง หรือควรดูอะไรเพิ่มเติมอีก
ส่วนวันนี้ METCO ตัวแดงกว่าเก่าอีกค่ะ ดิฉันกำลังหยุดดูว่าจะตกลงกว่านี้อีกไม๊ จะได้ซื้อเพิ่มสักที กลัวว่ายิ่งซื้อยิ่งตก ปันผลทีคาดว่าจะได้ คงต่ำกว่า capital loss ถึงยังไงก็ยังไม่คิดที่จะขาย อยากให้หุ้นตัวนี้พิสูจน์การเป็น VI ว่าจะไปรอดหรือไม่ ถ้าไปไม่รอดก็จะได้รู้ว่าเราพลาดตรงไหน ถือว่าเสียเงินซื้อบทเรียนค่ะ ขอขอบคุณทุกท่านด้วยความจริงใจ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 10, 2003 8:48 am
โดย ภัค
วันนี้มีคุณ champ มาร่วมสมาคมตัวแดงๆๆ ด้วยเหรอคะ ดีใจจัง ไม่เหงาแล้ว วันนี้ดิฉันขาดทุนเกือบหกพันบาทแล้วนะ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 10, 2003 5:06 pm
โดย Nash
ผมชักสนใจMetco ขึ้นมาเหมือนกัน เห็นราคาตกลงทุกวัน แต่อยากรุ้ว่าใครพอทราบ website ของmetco บ้าง เพราะเข้าไปใน
www.metco co.th ไม่ได้
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 10, 2003 5:10 pm
โดย ภัค
คุณ Jeng, คุณ Champ มาซื้อหุ้นตามๆ กัน เดี๋ยวคุณวิบูลย์จะหาว่าดิฉันมาใบ้หุ้นนะคะ (จุ๊...จุ๊...ปิดเป็นความลับนะคะ อย่าให้คุณวิบูลย์รู้เด็ดขาด) ข่าวดีค่ะ อันนี้คุณ Jeng ต้องชอบแน่ๆ เห็นบอกว่าซื้อหุ้นแล้วชอบเห็นตัวแดงๆ ปิดตลาดวันนี้ดิฉันขาดทุนเพิ่มอีกตามเคย ออกไปข้างนอกกลับมาเห็นมีซื้อกันที่ 220 โทรหา Seamico ว่าจะซื้อเพิ่มสัก 100 หุ้นเพราะตั้ง Target ไว้ว่าจะซื้อที่ราคานี้ น้องเค้าบอกว่าช่วงนี้ call market แล้วค่ะ อดเลย ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจนะคะ ตอนนี้ยังสบายใจค่ะ ไม่ได้หยิบอะไรมาก่ายหน้าผาก คิดว่าว่างๆ จะไปอ่าน 56-1 ซ้ำอีกครั้ง คราวก่อนรีบอ่านหลายตัว เลยจับประเด็นได้แค่คร่าวๆ
เรืืองการผลิตตาม order คุณ Jeng มีความเห็นว่าอาจคล้ายกรณี CEI ขอบคุณมากที่เตือนค่ะ ไม่อย่างนั้นดิฉันคงมองในแง่ดีซึ่งเป็นเหรียญคนละด้านกับคุณ Jeng เลย ดิฉันทำงานด้าน logistics จึงเห็นความสำคัญของการ keep low inventory โดยเฉพาะสินค้าประเภทเทคโนโลยี ไม่ควรมี Stock มากเกินไป เพราะเสี่ยงกับการที่สินค้าล้าสมัย พอดีไปอ่านเจอว่า METCO ผลิตสินค้าตาม order และเห็นว่ามี inventory ต่ำกว่า Account Receivable เสียอีก ก็เลยเห็นดีเห็นงามไปว่าความเสี่ยงด้าน dead stock คงมีน้อย และการตั้ง provision ก็ลดลงด้วยตามยอด inventory ลืมนึกถึงเรื่อง CEI ไปเลย ขอบคุณมากเลยค่ะทีีมองต่างมุมแล้วมา share กัน
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 11, 2003 9:55 am
โดย ภัค
รบกวนคุณฉัตรชัยช่วยส่งบทวิเคราะห์ให้ด้วย ยังไม่ได้อ่านเลย ขอบคุณค่ะ
[email protected]
เมื่อคืนดิฉััน load "One Up on The Wall Street" มาอ่าน เพิ่งอ่านได้ครึ่งเดียว คุณ Peter Lynch แกไม่คอยเชื่อนักวิเคราะห์สักเท่าไหร่ แต่ดิฉันขออ่านบทวิเคราะห์ก่อนค่ะ ยังไงก็ฟังหูไว้หู อย่าลืมว่าเราซื้อหุ้นเทคโนโลยี ส่วนราคาถ้่าตกลงมาที่ 180 ดิฉันคงต้องวิ่งหาสาเหตุแล้วว่าเพราะอะไร ถ้าเป็นเพราะผลประกอบการ หรือการบริหารงานแย่ลง ก็คงถอยออกมาตั้งหลักก่อนค่ะ ส่วนที่คุณลูกอิสานกล่าวถึงการปรับตัดสต็อคสินค้าล้าสมัยช่วงปลายปี ดิฉันเห็นว่าบริษัทโปร่งใสดีึค่ะ ที่กำจัดสินค้าเน่าๆ ออกจากสต็อค ไม่เอามาหมกเม็ดเป็นทรัพย์สิน ทำตัวเลขให้ดูดีทั้งๆที่เป็น dead stock หรือมีแนวโน้มว่าเป็น obsolete stock. ยอดปรับปรุงดิฉันคิดว่ามีสาเหตุมาจาก
- การ scrab สินค้าที่ obsolete อันนี้ต้องแจ้งสรรพากรเพราะมีข้อกฎหมายกำหนดวิธีปฏิบัติไว้
- การตั้ง provision สำหรับ stock
เมื่อวานนี้ดิฉันเห็นมียอดเสนอซื้อ METCO มากกว่าช่วงที่ผ่านมา แต่เสนอซื้อที่ราคา 118-224 และ Volume ที่ซื้อ--ขายจริงๆ ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาก็เพิ่มสูงขึ้นผิดตา เกรงว่าอาจมีคนที่ผ่านมาอ่านกระูทู้นี้มาซื้อหุ้น METCO กันโดยไม่ได้วิเคราะห์ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง ยังไงๆ เราเอาเงินมาเสี่ยงกับหุ้นเทคโนโลยี ควรต้องหาข้อมูลให้ละเอียดก่อนการลงทุน โดยเฉพาะในตัว product เองว่าเราเข้าใจมันแค่ไหน ดิฉันเองยังไม่เข้าใจตัว product เลย ไม่เคยเห็นว่าหน้าตาเป็นไงด้วยซ้ำไป แค่เห็นว่าองค์ประกอบอื่นน่าสนใจ ก็เลยลงทุนไว้ก่อนและจำกัดวงการลงทุนไว้เพียง 1000 หุ้นเท่านั้นค่ะ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 11, 2003 4:10 pm
โดย ภัค
คุณ Jeng ค่ะ ขยันจัง อุตสาห์ช่วยอ่านและ post ข้อมูลทีเป็นเนื้อหาสำคัญใน 56-1 ให้เพื่อนๆ ได้อ่าน ประหยัดเวลาได้เยอะเลยค่ะ
ตอนนี้ดิฉันอ่าน One up on the Wall Street มาถึงหน้า 138-139 แล้ว มีสาระอยากให้ช่วยคำนวณด้วยค่ะ
หน้า 138 บอกว่า
- ถ้าหาก P/E ratio เท่ากับ 15 ก็ตั้งความหวังไว้ง่ายๆ คือบริษัทนี้จะต้องมีการเจริญเติบโตปีละ 15%
- ถ้าอัตราการเจริญเติบโต 12% แต่ P/E Ratio ออกมาแค่ 6 ถือว่าบริษัทนั้นรุ่งโรจน์แน่
- ตรงกันข้ามคือ P/E Ratio 12 แต่อัตราเจริญเติบโต 6% แบบนี้ใครถือหุ้นบริษัทนี้ไว้ ไม่หมดก็เหลือน้อย
หน้า 139 บอกว่า
มีอีกสูตรหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการประเมินสถานะการณ์ของหุ้น คือเรารายได้และเิงินปันผลมาพิจารณา วิธีการก็คือพยายามดูว่าการเติบโตของบริษัทนั้นเป็นอย่างไร ด้วยการสมมุติเอาว่า บริษัทนั้นมีการเติบโตปีละ 12% บวกเข้ากับเปอร์เซ็นต์ของเงินปันผล สมมุติว่าจ่ายปันผล 3% ของรายได้ จากนั้นหารด้วยค่า P/E Ratio สมมุติว่าเป็น 10 จะได้เป็น (12+3)/10 = 1.5
- ถ้าผลออกมาต่ำกว่า 1 แสดงว่าแย่
- ถ้าเป็น 1.5 ถือว่าใช้ได้
- ถ้าเป็น 2 ขึ้นไปจะดูสวยเป็นพิเศษ
- ถ้าเป็นเลข 3 ถือว่าถูกหวย ไม่รางวัลทีี 1 ก็รางวัลที่ 2 อันนี้ขึนอยู่กับว่าคุณซื้อหุ้นตัวนี้มากน้อยแค่ไหน
-------------
ถ้าดิฉันใช้ตัวเลขมาคำนวณ ดังนี้ ถูกต้องหรือไม่คะ
- ์์Net Profit 2002 = 681
- Net Profit 2003 = 800 (Estimate)
- ดังนั้น Growth = 17%
- จ่ายปันผล 5% (Div Yield - ไม่ทราบว่าใช้ Div Yield ถูกต้องหรือไม่ ขอความเห็นด้วยค่ะ)
- P/E = 5.5
ดังนั้น สถานการณ์หุ้นของ METCO = (17+5)/5.5 = 4
แปลว่าอย่างนี้ถูกหวยหรือป่าวคะ
รบกวนคุณ ๋Jeng ช่วย Comment และลองทำตัวเลขย้อนหลังให้ดู 5 ปีได้ไม๊คะ คืออยากรู้ว่าคนที่ซื้อเมื่อ 5 ปีก่อน ถูกหวยจริงรึป่าว
เรียน คุณ chatchai, ิคิดว่าเมลล์ีที่ส่งให้คงกำลังเดินทางอยู่ค่ะ ถ้าเย็นนี้ยังไม่ได้ จะแจ้งอีกครั้งนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 11, 2003 7:47 pm
โดย ภัค
เรียนคุณ Jeng จริงๆ แล้วต้องบอกว่า "คุณภัคเชื่อผมดีกว่า" ที่เข้ามาอ่านเมลล์ METCO ที่คุณ Jeng ตั้งกระทู้ไว้แต่แรก ก็มาหาคนคอยให้กำลังใจค่ะ ส่วนที่ post ไปเมื่อตอนเย็นอยากรบกวนคุณ Jeng หรือผู้รู้ใดก็ได้ช่วยตรวจสอบด้วยตัวเลยที่ดิฉันลองเอามาคำนวณมันถูกตัวรึป่าว ถ้าท่านใดพอมีเวลาอยากขอดูว่าย้อนหลัง 5 ปีเป็นอย่างไรบ้าง พอดีดิฉันทิ้ง Thailand Company Handbook ไว้ที่ office ค่ะเลยไม่มีตัวเลขมาคำนวณย้อนหลัง ตอนนี้ METCO ถืออยู่แค่ 400 หุ้นค่ะ รอราคาลงอีกหน่อยค่อยซื้อเพิ่ม ตั้งใจจะทะยอยเก็บจนครบ 1000 ค่ะ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 11, 2003 7:57 pm
โดย ภัค
เรียนคุณ chatchai
บทวิเคราะห์ยังมาไม่ถึงเลยค่ะ รบกวนส่งอีกครั้งนะคะที่
[email protected] หรื
[email protected] ก็ได้ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 11, 2003 8:42 pm
โดย ภัค
ต้นทุนเฉลี่ยตอนนี้ 238 ค่ะ วันศุกร์ปิด 222 ขาดทุนอยู่ 6,452 ค่ะ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 11, 2003 9:26 pm
โดย wpk
อ่านแล้วได้ความรู้ดีมากเลยครับ
ผมก็ลงทุนในหุ้นตัวนี้นิดหน่อย ถือมา 6-7 เดือนแล้ว
ได้ศึกษาข้อมูลของตัวนี้ก่อนซื้อมาพอควร แต่ไม่ได้วิเคราะห์ละเอียดอย่างคุณ Jeng และคุณภัค ได้ข้อสรุปว่า ดีแน่ ได้ทั้งปันผล + cap. gain ก็ซื้อเลย
ตอนประกาศ q2 หุ้นเคยขึ้นไปถึง 260 บาท คิดว่าจะขายแล้วเหมือนกัน แต่ก็ไม่ขาย ถึง q3 กำไรต่อหุ้นลดลงไปหน่อย ก็อย่างที่เห็น ราคาก็ตกลงมา แต่จริงๆแล้ว กำไรก็ลดลงไปไม่มาก
q4 ไม่รู้จะเป็นยังไง แต่ผมคาดว่าไม่น่าจะแย่กว่า q3 และคาดว่าราคาน่าจะกลับไปถึงจุดสูงสุดเดิมได้
คุณ Jeng ครับ ผมเคยเป็น Resident ศัลย์จุฬา ปี 2530-33 อาจจะเคยเดินเฉียดกับคุณ หรือเคยเดินอยู่ในกลุ่มเดียวกันก็อาจเป็นได้
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 12, 2003 8:32 pm
โดย ภัค
เรียน คุณ chatchai
ได้รับ file แล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ แต่ยังอ่านไม่ได้เพราะเครื่องที่บ้านไม่มี program Alcobat ไว้พรุ่งนี้จะไปแอบอ่านที่ออฟฟิตค่ะ
คุณ champ ค่ะ
TF น่าสนใจจริงค่ะ เสียดายที่ดิฉันเห็นช้า ไปซื้อหมี่เส้นขาวแทน และก็หุ้นแพงไปหน่อย คือว่า "งก" ปันผลน่ะค่ะ ซื้อแพง yield น้อย ว่าจะรอให้ราคาลงเหมือนกันค่ะ แต่คิดว่ารอเก้อแน่นอนค่ะ จริงๆ มีหุ้นในหมวดอาหารหลายตัวผลประกอบการดีๆ แต่มีเงินนิดเดียวค่ะ ตอนนี้กำลังคิดว่าทำยังไงดีให้ port โตเร็วๆ อาจต้องแบ่งเงินบางส่วนมาเก็งกำไรดูสักหน่อย ต้องไปนอนคิดแผนดูก่อนค่ะว่าเก็งแบบไหนไม่เจ็บตัว
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 13, 2003 9:23 pm
โดย ภัค
วันนี้ดิฉันได้เพิ่ม 100 หุ้นที่ 214 พรุ่งนี้ว่าจะไปหาซื้อแว่นกันแดดมาดูเจ้าตัวนี้โดยเฉพาะ เล็งจนแสบตาไปหมดแล้ว เห็นแต่สีแดงๆ
คุณ chatchai ค่ะ บทวิเคราะห์ที่ส่งมา อ่านแล้วเฉยๆ ค่ะ ตัวเลขที่วิเคราะห์ก็เป็นประมาณการจากงบ Q3 มีที่น่าสนใจก็ตรงบริษัทลงทุนเพิ่มใน product ตัวใหม่ที่ยังไม่เปิดเผย อันนี้น่าสนใจตรงที่บริษัทฯ พยายามจะทำ product ใหม่ๆให้ทันตลาด และที่สำคัญใช้เงินที่มีอยู่ไปลงทุนเพิ่ม ไม่ได้ใช้วิธีกู้ยืมเงิน ดิฉันเห็นดีด้วยที่เค้าเอาเงินที่มีอยู่มาใช้ลงทุนในการผลิตสินค้าตัวใหม่ บริษัทยังมีสภาพคลองสูง นำมาลงทุนดีกว่าทิ้งเงินไว้เฉยๆ ให้เป็นกำไรสะสม ที่ผ่านมากำไรสะสมเพิ่มขึ้นทุกปี ว่าจะรอดูงบ Q4 เหมือนกันค่ะว่ายุบลงไปเยอะไม๊
โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 14, 2003 6:35 pm
โดย บุคคลทั่วไป
ผมทยอยรับครับ
ไม่ได้ไล่ราคา
วันนี้ 210 ยังไม่เอาเลยครับ
อยากได้ต่ำกว่านี้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 18, 2003 10:36 pm
โดย purin
ส่งออก อตร ครับช่วงนี้

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 28, 2003 1:49 pm
โดย +++unlog
เอ่อ ....
metco น่าซื้อจริงๆ ด้วยแฮะ
ด้วยเหตุผลที่กล่าวมา
และ Growth ที่มี ตอนนี้ PE = 5.5
ผมกะว่าจะไปขาย ซัก 400 อ่ะ อิอิ.... ( PE 10 )
ตอนนี้ PE ตลาด อยู่ที่ 11
บวกกับ ปันผลในปีนี้ ซึ่งถ้าเป็นไปตาม สถิติ
จะประกาศ ผลประกอบการ และ ปันผล ราวๆ 26 พย. 2546
อีกไม่ถึงเดือนนี่แหละครับ ราคานี้ ก็ 5% กว่าๆ
ดีกว่าฝาก Bank ครับ
ดังนั้น ขอร่วมขบวนด้วยคนนะครับ
อิอิ .... อิอิ

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 28, 2003 1:53 pm
โดย +++unlog
อีกเหตุผลนึง คือ
ช่วงนี้ Volume มากจริงๆ ผิดสังเกตมาก
และราคาทรงตัว คาดว่ากำลังมีการเก็บของ
และผมว่า ราคาคงจะลงไปที่ PE 4 ค่อนข้างยาก
เพราะหุ้นไม่ได้เป็นหุ้นเน่า และยังมีปันผลรองรับอีกด้วย
อิอิ....

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 28, 2003 2:06 pm
โดย +++unlog
ความจริงผมชื่อ +++ อ่านว่า 3plus อ่ะ อิอิ...
แต่เวลาเข้ามาแล้วขี้เกียจ log
จะใช้ชื่อเดิมก็ไม่ได้ เพราะเอาไป log ไว้แล้ว
จึงต้องใช้ +++unlog ครับผม
โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 28, 2003 10:02 pm
โดย +++unlog
วันนี้ โดนเขย่าอีกตามเคย อิอิ....
ผมรวบรวม บทวิเคราะห์ และ ราคาหุ้น รวมทั้ง Technical Analysis
ไว้ในกระทู้นี้เลยนะครับ เข้ามาดูจะได้ติดตามความคืบหน้าไปในตัว
อีกอย่าง กราฟนี่จะ Update โดยอัตโนมัต (เพราะเป็น link ไม่ใช่รูปธรรมดา)
มาที่เดียว ได้ทุกอย่าง อิอิ... ครบวงจร
21 Aug 2003 บทวิเคราะห์หุ้นรายตัว METCO โดย AYS
http://www.settrade.com/brokerpage/IPO/ ... 030820.pdf
20 Aug 2003 บทวิเคราะห์หุ้นรายตัว METCO โดย KIMENG
http://www.settrade.com/brokerpage/IPO/ ... 20q3_t.pdf
23 Jul 2003 บทวิเคราะห์หุ้นรายตัว METCO โดย KIMENG
http://www.settrade.com/brokerpage/IPO/ ... etco_t.pdf
14 May 2003 บทวิเคราะห์หุ้นรายตัว METCO โดย AYS
http://www.settrade.com/brokerpage/IPO/ ... 030514.pdf
14 May 2003 บทวิเคราะห์หุ้นรายตัว METCO โดย KIMENG
http://www.settrade.com/brokerpage/IPO/ ... 2Q03_t.pdf
28 Apr 2003 บทวิเคราะห์หุ้นรายตัว METCO โดย KIMENG
http://www.settrade.com/brokerpage/IPO/ ... etco_t.pdf

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 06, 2003 4:36 pm
โดย CK unlogged
ขอโทษทีครับที่หายไปนาน ขอแจมหน่อยนะครับ เรื่อง METCO เผอิญเป็นเจ้าของบ้านน่ะ
ตัวชี้ชะตา METCO คงเป็นผลการดำเนินงานของปีนี้ครับ ซึ่งจะประกาศในปลายเดือนนี้ (Fiscal Year ปิดเดือนกันยา) ถ้าผลประกอบการทั้งปีออกมาเกิน 37 บาท ก็คงได้เฮ ส่วนถ้าผลประกอบการออกมาน่าผิดหวัง ก็คงต้องลดพอร์ตลงบ้างครับ
เหตุผลที่ผมอยากลดพอร์ตเล็กน้อยเพราะยังไม่ได้ข่าวว่า METCO มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมาเลย ตัว CD Changer กับ Digital Video Camera แม้จะมีการเติบโตมาก แต่จีนก็มีการผลิตมากอยู่ จะทำให้มาร์จิ้นของ METCO ลดลงเรื่อยๆ
ผมคาดว่าราคา METCO ควรจะอยู่ในช่วง 202 ถึง 270 ในช่วง 3 - 6 เดือนข้างหน้าครับ ถ้ายืนได้ 270 น่าจะเป็นฐานของปีหน้า