โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 21, 2004 12:35 am
ข้อดีของแกรมมี่
1. มีศิลปินระดับแม่เหล็กอยู่หลายคน คงไม่ต้องบอกว่ามีใครบ้าง
2. มีเพลงเก่าๆที่ยังคงได้รับความนิยม ... นำมาหากินใหม่ได้
3. มี Resource ค่อนข้างเยอะเกี่ยวกับการแต่งเพลง
4. ความรู้สึกส่วนตัวนะครับ รู้สึกว่าเป็นมืออาชีพมากกว่า RS
ข้อเสีย
1. การละเมิดลิขสิทธิ์ เช่น MP3 ที่ทำอย่างไรก็ไม่ตาย อีกทั้งเพลงของแกรมมี่ส่วนใหญ่จะเพราะอยู่แค่เพลงเดียวในอัลบั้มซึ่งจะไม่ทำให้มีแรงจูงใจซื้อของลิขสิทธิ์เท่าไรนัก (ยืมความเห็นคุณ Invisible Hand มาครับ)
2. ธุรกิจบางอย่างลองผิดลองถูกนานไปหน่อย เช่น ภาพยนตร์ ซึ่งมีหนังคุณภาพแต่ไม่ได้กำไรออกมาเยอะมาก ยกเว้นช่วงหลังที่เหมือนจะรู้ตัว เลยเริ่มเอาใจตลาดมากขึ้น (ก็ความเห็นคุณ Invisible Hand อีกนั่นแหละ)
3. ผู้บริหาร (ความเห็นมั่วๆของผมเอง)
3.1 ผมไม่มั่นใจอากู๋เลย ชอบลองผิดลองถูกทำธุรกิจที่มีโอกาศเสี่ยงเยอะเช่น ทำบะหมี่ U-Me (ขออภัยหากเขียนผิดเนื่องจากไม่เคยกิน)
การลงทุนในไต้หวันซึ่งผมประหลาดใจมากว่าทำไมถึงกล้าลงทุน ขนาดเมืองไทยแท้ๆนักร้องมากกว่าครึ่งยังปั้นไม่ดังเลย ซึ่งทำให้เปลืองเวลา เปลืองเงิน เปลืองสมอง
3.2 แกรมมี่ยังคงใช้ลูกหม้อของตัวเองในการบริหารซะส่วนใหญ่ ซึ่งคนเหล่านี้อาจจะมีความเข้าใจในเรื่องเพลง แต่ผมไม่มั่นใจว่า จะเข้าใจธุรกิจแตกฉานเพียงใด
เอามาชั่งน้ำหนักดูครับ ว่าควรจะเป็นอย่างไร
1. มีศิลปินระดับแม่เหล็กอยู่หลายคน คงไม่ต้องบอกว่ามีใครบ้าง
2. มีเพลงเก่าๆที่ยังคงได้รับความนิยม ... นำมาหากินใหม่ได้
3. มี Resource ค่อนข้างเยอะเกี่ยวกับการแต่งเพลง
4. ความรู้สึกส่วนตัวนะครับ รู้สึกว่าเป็นมืออาชีพมากกว่า RS
ข้อเสีย
1. การละเมิดลิขสิทธิ์ เช่น MP3 ที่ทำอย่างไรก็ไม่ตาย อีกทั้งเพลงของแกรมมี่ส่วนใหญ่จะเพราะอยู่แค่เพลงเดียวในอัลบั้มซึ่งจะไม่ทำให้มีแรงจูงใจซื้อของลิขสิทธิ์เท่าไรนัก (ยืมความเห็นคุณ Invisible Hand มาครับ)
2. ธุรกิจบางอย่างลองผิดลองถูกนานไปหน่อย เช่น ภาพยนตร์ ซึ่งมีหนังคุณภาพแต่ไม่ได้กำไรออกมาเยอะมาก ยกเว้นช่วงหลังที่เหมือนจะรู้ตัว เลยเริ่มเอาใจตลาดมากขึ้น (ก็ความเห็นคุณ Invisible Hand อีกนั่นแหละ)
3. ผู้บริหาร (ความเห็นมั่วๆของผมเอง)
3.1 ผมไม่มั่นใจอากู๋เลย ชอบลองผิดลองถูกทำธุรกิจที่มีโอกาศเสี่ยงเยอะเช่น ทำบะหมี่ U-Me (ขออภัยหากเขียนผิดเนื่องจากไม่เคยกิน)
การลงทุนในไต้หวันซึ่งผมประหลาดใจมากว่าทำไมถึงกล้าลงทุน ขนาดเมืองไทยแท้ๆนักร้องมากกว่าครึ่งยังปั้นไม่ดังเลย ซึ่งทำให้เปลืองเวลา เปลืองเงิน เปลืองสมอง
3.2 แกรมมี่ยังคงใช้ลูกหม้อของตัวเองในการบริหารซะส่วนใหญ่ ซึ่งคนเหล่านี้อาจจะมีความเข้าใจในเรื่องเพลง แต่ผมไม่มั่นใจว่า จะเข้าใจธุรกิจแตกฉานเพียงใด
เอามาชั่งน้ำหนักดูครับ ว่าควรจะเป็นอย่างไร