หน้า 1 จากทั้งหมด 1

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 29, 2004 6:22 pm
โดย Boring Stock lover
Ling เก่า

http://www.thaivalueinvestor.com/webboa ... php?t=3032

ข้อมูล 190 บริษัท

รวมสถาบันการเงิน
กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 70%

ไม่รวมสถาบันการเงิน
กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 45%

จำนวนบริษัทที่มีกำไรลดลง 50 บริษัท

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 07, 2004 11:13 pm
โดย Boring Stock lover
อัคราการเติบโตของกำไรโดยรวม อยู่ที่ 50%


หมายเหตุ เป็นข้อมูลทีคัดลอกจากผู้อื่น ไม่รวมตลาดใหม่

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 08, 2004 8:05 pm
โดย Boring Stock lover
ถูกหรือแพงอยู่ที่ใจ (Subjective...) ผมคงไม่สามารถบอกแทนคนอื่นได้ ในมุมของผม ผมก็ยังถือเต็มพอร์ต และก้ยังเติมเงินใหม่ลงไปตามงบประมาณที่ตั้งใจไว้ และมีการทำ short against portและวิธีอื่นๆบ้าง

เพื่อให้เข้าใจกัน ผมเป็นแค่คนเล่นหุ้นที่ชอบถือหุ้นนานๆ ผมคงไม่ใช่ VI แบบที่ดู PE PBต่ำมากๆ และผมก็ถือหุ้นที่ PE เกิน 15 มากกว่า 1 ตัว และไม่เคยให้ความสำคัญกัย PB อีกอย่างที่ผมเข้าใจแต่หาข้อมูลมาประกอบไม่ได้ ก็คิอ Beffet เองก็ไม่ดู PE PB วันที่เขาซื้อ coca-cola american express นั้น ราคาก็ไม่ต่ำในเชิง PE


คำถามที่คนซื้อและถือหุ้นน่าจะถามและตอบตนเอง....

ความเชื่อมั่นในเศษฐกิจรวม

ความเชื่อมั่นในเศษฐกิจของกิจการ

ความเชื่อมั่นในเศษฐกิจโลก

ความเชื่อมั่นในทางการเมืองโดยรวม

ความพอใจในผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ



ในอดีต...
หุ้น SCC Advance และอีกหลายตัว ก็ซื้อขายใน PE ที่สูงกว่าปัจจุบันมาก แต่ราคาหุ้นและกิจการก็เติบโตตามเวลาที่ผ่านไป ปัจจุบันราคาหุ้นเหล่านั้นก็อยู่สูงกว่า (หรือใกล้เคียงกับเดิมมาก)

ถ้าอนาคต...
ผลประกอบการของกิจการยังคงก้าวหน้าหรือเจริญเติบโต ต่อไป ราคาหุ้นวันนี้ก็คงจะกลายเป็นถูก หรือในทางตรงข้าม :?:


ตัวผมเองก็ยังไม่คิดว่าหุ้นไทยแพง แต่ก็ไม่คิดว่าหุ้นไทยถูก ผมคิดว่าการที่เราถือหุ้นเฉยๆ แล้วมีผู้บริหารชั้นนำในประเทศ (ที่ซื่อสัตย์พอและมีธรรม) มาบริหารกิจการให้เรา และทำให้กิจการเติบโต หรือมั่นคง โดยแบ่งส่วนกำไรให้เรานั้น โดยที่เราไม่ทำอะไรเลย ก็น่าจะเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดี

คนที่ทำธุรกิจมาพอสมควร น่าจะเข้าใจได้ดี

และโลกวันนี้ เงินเป็นทรัพยากรที่มีมากกว่าสมัยอดีตกาล เงินทุนนั้นแทบจะไม่ใช่อุปสรรคในการทำธุรกิจวันนี้ แต่ความสามารถ(competant) ขององค์กรและผู้บริหาร มีความสำคัญยิ่งกว่า

บริษัทที่ดีดีในตลาดนั้นในมุมมองผมก็คือ ขุมทอง เพระถ้าผมบริหารเองก็อาจไม่ดีไปกว่าเขา เปิดมาแข่ง ก็น่าจะต้องใช้เวลาและพลังงานจำนวนมาก ในการที่จะอยู่บนเวทีการแข่งขันกับเขา



ข้อน่ากังวลที่ผมมีมากกว่า ราคาหุ้นปัจจุบันก็มี ตัวผมเองยังคิดว่ามีข้อน่ากังวลเกี่ยวกับภาพรวมหลายเรื่อง พวกนี้ยังไม่เป็นปัญหาในวันนี้ แต่เป็นปัญหาที่รอเวลาที่จะเกิดขึ้น (หรืออาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้) และจากการติดตาม ผมก็ยังไม่เห็น แนวทางที่จะลด (softlanding แบบที่คุณปู่ Alan Greenspanใช้) หรือทางแก้ยามที่ปัญหามาเป็นปัญหาจริงๆ


ถือว่าแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนะครับ

อีกอย่างข้อมูลอ้างอิจจากตลาดในเรื่อง MarketCap นั้นรวมพวกวอร์หรือยัง ถ้ายัง Fully Dilute PE อาจสูงกว่านี้มาก

ถ้ารวมแล้ว PE ก็น่าจะต่ำกว่านี้ เพราะมี วอร์ที่ราคาสูงมากอยู่ที่แปลงสภาพก็ไม่คุ้ม

ใครทราบช่วยบอกด้วยนะครับ :)