ท่านใดถือ GYT..หุ้นที่ราคาสูงที่สุด บ้างไหมครับ?
GYT มีกำลังการผลิตที่จำกัด จึงจำเป็นต้องเก็บเิงินจำนวนมากเพื่อรองรับโครงการขยายกำลังการผลิต
ยอดขายที่ไม่เติบโตเนื่องจากใช้กำลังการผลิตเต็มที่แล้ว
ปัจจุบันบริษัท มีส่วนแบ่งตลาดในตลาดยางทดแ์์ทนเป็นอันดับ 3 รองจาก Bridgestone และ Michilin ส่วนตลาดยางรถยนต์ใหม่ ยังมีส่วนแบ่งไม่มากแต่สามารถเข้าไปแชร์ส่วนแบ่งมาได้บ้าง
ปัญหาปัจจุบันของอุตสาหกรรม คือ มีการแข่งขันสูง รวมทั้งราคาต้นทุนวัตถุดิบโดยเฉพาะยางพาราที่เพิ่มสูงมาก
ส่วนดี คือ อุตสาหกรรมมีการเติบโตตามอุตสาหกรรมรถยนต์
จุดเด่นอีกอย่างของบริษัท คือ มีฐานะการเงินมั่นคงมาก
ยอดขายที่ไม่เติบโตเนื่องจากใช้กำลังการผลิตเต็มที่แล้ว
ปัจจุบันบริษัท มีส่วนแบ่งตลาดในตลาดยางทดแ์์ทนเป็นอันดับ 3 รองจาก Bridgestone และ Michilin ส่วนตลาดยางรถยนต์ใหม่ ยังมีส่วนแบ่งไม่มากแต่สามารถเข้าไปแชร์ส่วนแบ่งมาได้บ้าง
ปัญหาปัจจุบันของอุตสาหกรรม คือ มีการแข่งขันสูง รวมทั้งราคาต้นทุนวัตถุดิบโดยเฉพาะยางพาราที่เพิ่มสูงมาก
ส่วนดี คือ อุตสาหกรรมมีการเติบโตตามอุตสาหกรรมรถยนต์
จุดเด่นอีกอย่างของบริษัท คือ มีฐานะการเงินมั่นคงมาก
คุณลูกอีสาน จำได้ดีมากครับ
ผมยังคงถือหุ้น GYT เท่าเดิม ไม่ได้ซื้อเพิ่มและไม่ได้ขายออกเลย
หลายปีก่อน GYT มีโครงการขยายกำลังการผลิต แต่ได้ยกเลิกไป เนื่องจากกำลังการผลิตรวมของอุตสาหกรรมยางรถยนต์ในภูมิภาคมีมากกว่าความต้องการมาก เนื่องจากบริษัทมีข้อจำกัดเรื่องกำลังการผลิต จึงแก้ปัญหาโดยใช้การนำเข้าจากบริษัทกลุ่ม GYT ในอาเซียน
ในช่วงดังกล่าวที่มีโครงการขยายกำลังการผลิต บริษัทจึงจ่ายเงินปันผลเพียง 2-3 บาทต่อหุ้น เมื่อยกเลิกการขยายกำลังการผลิต จึงมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 20 บาท และ 30 บาท ตามลำดับ
คุณไพศาลลาออกจากบริษัทไปแล้ว เนื่องจากปัญหาสุขภาพและแนวทางการทำงาน ปัจจุบัน กรรมการผุ้จัดการเป้นชาวเกาหลี
ปีที่แล้ว GYT เอเชียได้ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ โดย GYT ประเทศไทยมีโครงการขยายกำลังการผลิต (ข่าวดังกล่าวอยู่ในนสพ.กรุงเทพธุรกิจ) เท่าที่ติดตามมายังไม่เห็นความคืบหน้าในการขยายกำลังการผลิต
ในตลาดยางทดแทน มีการเติบโตไม่มากนักประมาณ 6% GYT มีส่วนแบ่ง 17-18 % ส่วนตลาดยาง OEM มีการเติบโตสูงมาก GYT มีส่วนแบ่งไม่มากนัก
แต่ปัจจุบันบริษัทสามารถเข้าไปแย่งส่วนแบ่งตลาดมาได้บางส่วน ดูได้จากรถยนต์ HONDA TOYOTA
แค่นี้ก่อนนะครับ เพราะผมพิมพ์ไม่เก่ง หวังว่าข้อมูลข้า่งต้นจะเป้นประโยชน์ต่อผู้สนใจ
ผมยังคงถือหุ้น GYT เท่าเดิม ไม่ได้ซื้อเพิ่มและไม่ได้ขายออกเลย
หลายปีก่อน GYT มีโครงการขยายกำลังการผลิต แต่ได้ยกเลิกไป เนื่องจากกำลังการผลิตรวมของอุตสาหกรรมยางรถยนต์ในภูมิภาคมีมากกว่าความต้องการมาก เนื่องจากบริษัทมีข้อจำกัดเรื่องกำลังการผลิต จึงแก้ปัญหาโดยใช้การนำเข้าจากบริษัทกลุ่ม GYT ในอาเซียน
ในช่วงดังกล่าวที่มีโครงการขยายกำลังการผลิต บริษัทจึงจ่ายเงินปันผลเพียง 2-3 บาทต่อหุ้น เมื่อยกเลิกการขยายกำลังการผลิต จึงมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 20 บาท และ 30 บาท ตามลำดับ
คุณไพศาลลาออกจากบริษัทไปแล้ว เนื่องจากปัญหาสุขภาพและแนวทางการทำงาน ปัจจุบัน กรรมการผุ้จัดการเป้นชาวเกาหลี
ปีที่แล้ว GYT เอเชียได้ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ โดย GYT ประเทศไทยมีโครงการขยายกำลังการผลิต (ข่าวดังกล่าวอยู่ในนสพ.กรุงเทพธุรกิจ) เท่าที่ติดตามมายังไม่เห็นความคืบหน้าในการขยายกำลังการผลิต
ในตลาดยางทดแทน มีการเติบโตไม่มากนักประมาณ 6% GYT มีส่วนแบ่ง 17-18 % ส่วนตลาดยาง OEM มีการเติบโตสูงมาก GYT มีส่วนแบ่งไม่มากนัก
แต่ปัจจุบันบริษัทสามารถเข้าไปแย่งส่วนแบ่งตลาดมาได้บางส่วน ดูได้จากรถยนต์ HONDA TOYOTA
แค่นี้ก่อนนะครับ เพราะผมพิมพ์ไม่เก่ง หวังว่าข้อมูลข้า่งต้นจะเป้นประโยชน์ต่อผู้สนใจ