โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 29, 2004 6:37 pm
พอดีทำงานกับตลาดทางนี้พอดี แต่มีรายละเอียดส่วนย่อยที่ไม่สามารถบอกได้ แต่เอาคร่าวๆนะครับว่า BIGC ผมถือว่าเป็นสุดยอด defensive stock ในดวงใจผม เนื่องจากตอนนี้หากใครคิดจะเปิด superstore คงต้องใช้เงินมากกว่า พวกที่มีอยู่หลายเท่า กิจการพวกนี้จะมาดูแต่ profit margin อย่างเดียวไม่ได้ คงต้องดู Inventory turn และ cashflow statement ประกอบการพิจารณา Walmart มี Revenue มากที่สุดใน US แต่มีกำไรน้อย จาก Revenue 260,000 millions USD มีกำไรแค่ 9000 millions. หรือประมาณ 3% เอง แต่ลองไปดู cash ของเขาก่อนซิครับ พวกนี้ซื้อของเครดิต 60 วัน แต่ขายได้เงินสดๆ
BIGC นั้นถึงยอดขายสู้ LOTUS ไม่ได้ สาขาน้อยกว่า แต่ BIGC ก็มี Operating Expense ในการ run store ที่น้อยกว่า LOTUS สาเหตุคงไม่สามารถอธิบายได้มากในที่สาธารณะ BIGC มีพันธมิตรอย่าง CPN ทำให้มีการขยายควบคู่ไปกับ Central ซึ่งเมื่อเปิดใกล้กันก็จะเป็น แม่เหล็กดึงคนได้อย่างดี เช่น ที่ พระราม 2, บางนา, ราชดำริ
ทาง CASINO major shareholderที่ทำธุรกิจคล้าย TESCO ที่อังกฤษ แต่ CASINO อยู่ฝรั่งเศส เห็นว่าจะใช้ Brand BIGC ในการลุยตลาดย่านนี้เช่นกัน
ผมเชื่อว่า หลังจาก BIGC เริ่มชะลอการขยายสาขา (ซึ่งก็เป็นเช่นเดียวกับ TESCO LOTUS ซึ่งจะขยายสาขาลดลงเมื่อครบ 50 สาขา) ก็จะเริ่มหันมาเพิ่มประสิทธิภาพกับสาขาที่มีอยู่ ทำให้หนี้ใหม่ไม่เพิ่มขึ้นมาก และอาจนำเงินสด ส่วนที่เหลือมาชำระหนี้ และเมื่อหนี้ลดลง เข้าข่าย D/E ratio ที่ปลอดภัย ผมว่า BIGC คงจะกลายเป็นหุ้นไข่ทองคำในไม่ช้า
ผมไม่มี BIGC เลยแม้แต่น้อย แต่ก็เล็งอยู่เมื่อราคามี margin of safety พอสมควรครับแต่วันนี้เล่นลบกันขนาดนี้อาจจะเหลียวไปดู Growth Stock ที่ราคา Super Under Value ก่อนครับ
BIGC นั้นถึงยอดขายสู้ LOTUS ไม่ได้ สาขาน้อยกว่า แต่ BIGC ก็มี Operating Expense ในการ run store ที่น้อยกว่า LOTUS สาเหตุคงไม่สามารถอธิบายได้มากในที่สาธารณะ BIGC มีพันธมิตรอย่าง CPN ทำให้มีการขยายควบคู่ไปกับ Central ซึ่งเมื่อเปิดใกล้กันก็จะเป็น แม่เหล็กดึงคนได้อย่างดี เช่น ที่ พระราม 2, บางนา, ราชดำริ
ทาง CASINO major shareholderที่ทำธุรกิจคล้าย TESCO ที่อังกฤษ แต่ CASINO อยู่ฝรั่งเศส เห็นว่าจะใช้ Brand BIGC ในการลุยตลาดย่านนี้เช่นกัน
ผมเชื่อว่า หลังจาก BIGC เริ่มชะลอการขยายสาขา (ซึ่งก็เป็นเช่นเดียวกับ TESCO LOTUS ซึ่งจะขยายสาขาลดลงเมื่อครบ 50 สาขา) ก็จะเริ่มหันมาเพิ่มประสิทธิภาพกับสาขาที่มีอยู่ ทำให้หนี้ใหม่ไม่เพิ่มขึ้นมาก และอาจนำเงินสด ส่วนที่เหลือมาชำระหนี้ และเมื่อหนี้ลดลง เข้าข่าย D/E ratio ที่ปลอดภัย ผมว่า BIGC คงจะกลายเป็นหุ้นไข่ทองคำในไม่ช้า
ผมไม่มี BIGC เลยแม้แต่น้อย แต่ก็เล็งอยู่เมื่อราคามี margin of safety พอสมควรครับแต่วันนี้เล่นลบกันขนาดนี้อาจจะเหลียวไปดู Growth Stock ที่ราคา Super Under Value ก่อนครับ