sta รือจะเปี๊ยนไป๋?

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
pk8

sta รือจะเปี๊ยนไป๋?

โพสต์ โดย pk8 » จันทร์ พ.ค. 24, 2004 5:30 pm

ยอดขายปี 46 มากถึง 22000 ล้านบาทไตรมาสแรกปีนี้ยอดขายรวมกว่า 6000 ล้านบาทปีนี้น่าจะทำยอดขายได้ไม่น้อยกว่าปีที่แล้วและในไตรมาส3เป็นต้นไปก็จะมียอดขายยางแท่งstr-20เข้ามาเสริมยอดขายอีกกำลังผลิต6000 ตันต่อเดือนราคายางแท่งstr-20ตอนนี้เฉลี่ยก็ 51 บาทได้น่าจะมียอดขายจากส่วนนี้เพิ่มขึ้นมาอีก 1000 กว่าล้านบาทต่อปี ล่าสุดเข้าซื้อหุ้นบริษัทพัฒนาการเกษตรล่วงหน้าซึ่งเป็นบริษัทbrokerตลาดเกษตรล่วงหน้าจากบริษัทลีพัฒนาผลิตภัณฑ์จำนวน 40%ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ก่อนหน้านี้ปีที่แล้วเปิดบริษัทลูกที่สิงคโปร์และอเมริกาเมื่อต้นปีน่าจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งในการแข็งขันในตลาดโลกของstaได้มากเห้นการมีพัฒนาการแบบเชิงรุกแบบนี้ผมว่าน่าสนใจมากเลยทีเดียวครับแล้วเพื่อนๆล่ะครับมีความเห็นว่าอย่างไรกันบ้าง



pk8

โพสต์ โดย pk8 » อังคาร พ.ค. 25, 2004 12:50 am

ปี47ความต้องการยางพาราโลกเพิ่ม4%แต่ผลผลิตเพิ่มขึ้นเพียง2%เท่านั้นปีที่ผ่านมาเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนมีความต้องการใช้ยางทั้งหมด1.4ล้านตันและในปี47คาดว่าความต้องการอยู่ที่1.6-1.7ล้านตัน ไตรมาส1ปี47ยอดจำหน่ายรถยนต์ของจีนอยู่ที่ 1.275 ล้านคันเพิ่มขึ้น 3 แสนคันyoyปี47คาดว่าจะอยู่ที่ 5.5 ล้านคัน[ปี46อยู่ที่ 4.44 ล้านคัน] ปี48คาดว่าจะมียอดจำหน่ายเป็นอันดับ2ของโลกซึ่งจะเท่ากับ 10 ล้านคัน ผมคิดว่าความต้องการใช้ยางพาราของโลกในระยะ2-3ปีข้างหน้าน่าจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะครับอีกทั้งเศรษฐกิจญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัวได้ดียิ่งน่าจะทำให้ความต้องการเพิ่มขณะที่พื้นที่การปลูกยางโตตามไม่ทันความต้องการ sta คงมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นจึงได้มีการปรับตัวเองเพื่อให้ได้รับประโยชน์ในสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมากที่สุดถ้าstaทำยอดขายได้แค่เท่าปี46น่าจะมีกำไรกว่า 10 บาทต่อหุ้นในปี47ถ้าปันผลได้ซัก4-5บาทก็คงจะดีกำไรสะสมตั้ง 23 บาทต่อหุ้นแน่ะ ตั้งแต่ต้นปีผู้บริหารเก็บจังดอดเก็บทีละ 4-5 หมื่นหุ้นมันน่าจะมีอะไรดีจริงมั้ยครับ



น่าเก็บ

โพสต์ โดย น่าเก็บ » เสาร์ พ.ค. 29, 2004 3:35 pm

ความต้องการยางพาราสูงขึ้น
บ.ขยายตลาดในเชิงรุก ผมสังเกตุเห็นตอนเขาเพิ่มทุนก็สงสัยเหมือนกันเห็นบริษัทเงียบๆมาตลอด เห็นเขาไปตั้ง บ.เทรดเดอร์ที่สิงคโปร์ เเล้วขยายไปอเมริกา ยอดขายเพิ่มก็หายสงสัย
การร่วมมือกันระหว่าง 3 ผู้ส่งออกยางรายใหญ่ของโลกทำให้ราคายางมีเสถียรภาพในระดับสูงไม่ถูกกดราคาโดยผู้ซื้อ
ต้นยางมีจำนวนลดลง ในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีชาวสวนยางจะตัดขายต้นยางค่อนข้างมาก ในช่วงนั้นรัฐเองก็มีการส่งเสริมการทำเฟอร์นิเจอร์จากไม้ยางพารา ช่วงนี้ราคายางดีชาวสวนบางส่วนเริ่มกลับมาปลูกยางเพิ่มขึ้นเเต่การที่จะกรีดยางได้ต้นยางจะต้องมีอายุ 7 ปีขึ้นไป ราคายางจึงน่าจะดีไปอีกหลายปี
q2 ตรวจดูราคายางที่กรมการค้ากระทรวงพาณิชย์เเล้วราคายางยังคงตัวในระดับสูงตลอด ที่จริงเเล้ว q2 จะเป็นช่วงความต้องการยางน้อยสุดของปี ถ้ากำไรไตรมาสนี้มากกว่า 3 บาทต่อหุ้น ราคา sta ต้นปีคงได้เห็นสามหลัก



pk8

โพสต์ โดย pk8 » เสาร์ พ.ค. 29, 2004 8:21 pm

ที่จริงอย่างที่คุณckว่าไว้ก็มีส่วนถูกและเป็นข้อที่ต้องพึ่งระมัดระวังเช่นกันถ้าดูจากอดีตstaก็มีผลประกอบการที่เดายากพอสมควรแต่ถ้าดูจากสภาวะแวดล้อมในธุรกิจยางในปัจจุบันต้องยอมรับกันอย่างหนึ่งว่าในระยะ2-3ปีข้างหน้าความต้องการยางยังคงอยู่ในระดับสูง ในขณะที่ยางธรรมชาติไม่สามารถที่จะปลูกขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วได้อย่างน้อยการปลูกยางต้องใช้เวลาถึง 7 ปีกว่าจะเริ่มกรีดได้ ราคายางที่ดีดตัวอย่างต่อเนื่องขึ้นมาตลอดจากปีที่แล้วมาวันนี้ก็ 54-55 บาทต่อกิโลเข้าไปแล้วปัจจัยนอกจากความร่วมมือกันที่ว่าแล้วที่สำคัญผมว่าก็คือความต้องการใช้ในโลกมันเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดนั่นเองครับถ้าในปีนี้ไม่มีอะไรที่ผิดพลาดผมว่ายอดขายของstaน่าจะอยู่ในราวๆ20000-25000ล้านซึ่งก็มีราคายางเข้ามาเกี่ยวของด้วยเช่นกันในq1/47ราคาขายยางเฉลี่ยอยูที่1250 เหรียญ/ตันซึ่งเท่ากับ 50 บาทต่อกิโลถ้ายอดขายยางมีปริมาณเท่าๆเดิมหรือน้อยกว่าปี46ไม่มากนักทุกๆ 10 บาทที่ราคายางขึ้นไปstaจะมีกำไรเพิ่มขึ้น3-4 บาทต่อหุ้นเลยทีเดียวและจากยอดขายราวๆสองหมื่นล้านน่าจะทำให้staมีกำไรได้ราวๆ800-900ล้านบาท



pk8

โพสต์ โดย pk8 » เสาร์ พ.ค. 29, 2004 8:33 pm

ที่ผมประเมินกำไรไว้เป็นแบบหยาบๆเท่านั้นนะครับ ข้อน่าสังเกตุคือบ.ลูกของstaนั้นทำกำไรได้ดูแล้วอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากครับ



XXyyZZ (no login)

โพสต์ โดย XXyyZZ (no login) » อาทิตย์ พ.ค. 30, 2004 11:12 am

...ก่อนอื่นต้องบอกก่อนผมถือตัวนี้อยู่ครับ...
แต่อยากถามเป็นความรู้ถึงความเสี่ยงในการที่ผู้บริโภคทั้งหลายจะเปลี่ยนไปใช้ยางสังเคราะห์ทดแทนยางธรรมชาติหน่ะครับ ผมไม่แน่ใจข้อได้เปรียบเสียเปรียบในยางทั้งสองประเภทเท่าไหร่นัก ราคายางธรรมชาติที่สูงขึ้นเรื่อยๆจะมีผลต่อความคุ้มทุนทางเศรษฐกิจในการใช้ยางสังเคราะห์ทดแทนหรือไม่ครับ



pk8

โพสต์ โดย pk8 » อาทิตย์ พ.ค. 30, 2004 3:49 pm

อยากรู้เรื่องยางสังเคราะห์เหมือนกันครับแต่ในระยะเวลา2-3ปีข้างหน้าน่าจะยังไม่มีอะไรที่ใช้เป็นวัตถุดิบเพื่อไปแปรรูปแทนยางธรมชาติในสินค้าที่มีความต้องการใช้สูงอย่างยางรถยนต์ ถุงมือยาง คงต้องรอให้ผู้ที่มีความรู้ด้านนี้มาตอบเช่นกันครับ สำหรับธุรกิจยางนี่ปัญหาด้านการจัดการบริหารต้นทุนถือว่าเป็นสิ่งสำคัญซึ่งstaก็ประสบมาเมื่อปีที่แล้วแต่ในปัจจุบันตั้งแต่ q4/46เป็นต้นมา เข้าใจว่าปัจจัยเสี่ยงที่เคยมีนั้นลดลงมากครับ อีกทั้งการมีตลาดเกษตรล่วงหน้าของเราเองน่าจะช่วยลดความผันผวนด้านการประเมินสถานการณ์ราคายางลงได้อีกแรงหนึ่งซึ่งจะทำให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นครับนั่นก็หมายความว่าน่าจะทำให้ลดความผันผวนของผลประกอบการลงอย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีตได้อีกด้วย (การลงทุนมีความเสี่ยง นี่เป็นเพียงความคิดเห็นเท่านั้นครับ)



pk8

โพสต์ โดย pk8 » จันทร์ พ.ค. 31, 2004 9:25 pm

ขอบคุณคุณbluebloodมากครับแต่ผมไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ครับเพียงแต่ให้ข้อมูลเสริมให้กันก็พอได้นิดหน่อย อย่างไตรมาสสองนี่ใครก็คิดว่าผลการดำเนินงานน่าจะลดลงมากสำหรับsta แต่ดูจากการสต็อกยางแล้วstaมีการเตรียมตัวไว้แล้วครับq4/46แค่2000กว่าล้านแต่สิ้นq1/47มากกว่า 3500 ล้านทีเดียวและในq3/47ราคายางพาราน่าจับตาครับ ค่าเงินบาทอยู่ระดับ40บาท+/-นี่เป็นผลดีต่อกำไรของstaครับ q1/47ยอดขายยางของstaอยู่ที่130,634ตันราคาขายยางเฉลี่ยของsta q4/46 1150 เหรียญต่อตัน q1/47 1250 เหรียญต่อตัน ปัจจุบันน่าจะอยู่ที่ 1350 เหรียญต่อตันตามราคายางที่เพิ่มขึ้น แต่คุณbluebloodว่ามั้ยstaนี่ทำนักวิเคราะห์หน้าแตกมาหลายหนแล้วครับตอนนี้ถึงไม่มีโบรกไหนออกบทวิเคราะห์ให้เห็นกันเลย และตั้งแต่ตั้งกระทู้มาราคาลงมาเรื่อยๆเลยสงสัยต้องหยุดชั่วคราวครับ55555



ปรับเป้ายางโต 30%

โพสต์ โดย ปรับเป้ายางโต 30% » อังคาร มิ.ย. 01, 2004 10:48 am

หวัดนกฉุดส่งออก"กุ้ง-ไก่"วูบ40% พาณิชย์ดัน4สินค้าเกษตรชดเชย

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังร่วมประชุมประเมินสถานการณ์ส่งออกกับกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร ว่า แม้ว่าการส่งออกไก่และกุ้งจะประสบปัญหา แต่ไม่น่าจะกระทบต่อการส่งออกโดยรวมที่ตั้งเป้าปีนี้จะเติบโต 15% หรือ 92,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพราะสินค้ากุ้งและไก่ทำรายได้เข้าประเทศเพียง 0.2-0.3% ของมูลค่าการส่งออก ขณะที่ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง และสินค้าอีกหลายกุล่มมีอัตราการขยายตัวที่สูงขึ้นมาก ซึ่งจะชดเชยส่วนที่ลดลง

นางจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ผู้ส่งออกส่วนใหญ่วิตกเรื่องราคาน้ำมันในตลาดโลกที่สูงขึ้นทำให้กระทบต่อค่าระวางเรือ แต่เนื่องจากทุกประเทศได้รับผลกระทบเหมือนกันจึงไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ

นางจันทรากล่าวว่า ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะปรับเป้าส่งออกเท่าไหร่ แต่ผู้ส่งออกประเมินว่าสินค้าเกษตรของไทย 4 รายการ คือ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา และน้ำตาล มีแนวโน้มที่จะส่งออกได้สูงขึ้น จึงเสนอให้กรมปรับเป้าหมายใหม่ คือ ข้าว จากเดิมจะขยายตัว 1.6% เพิ่มเป็น 24% เพราะผลผลิตข้าวในจีนมีปริมาณน้อย ขณะเดียวกันมีความต้องการสั่งซื้อเข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะตลาดตะวันออกกลาง ต้องการนำเข้าข้าวไทย สูงถึง 43% โดยเชื่อว่าปีนี้จะสามารถส่งออกข้าวได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 8.5-9 ล้านตัน ส่วนสินค้ามันสำปะหลัง ควรปรับเป้าจากเดิม 11.5% เป็น 13% ยางพาราจาก 20% เป็น 30% ส่วนน้ำตาลยังคงเป้าหมายเดิม 4.5%



pk8

โพสต์ โดย pk8 » พุธ มิ.ย. 02, 2004 6:06 pm

การบริโภคยางธรรมชาติ
การคาดการณ์การบริโภคยางในปี 2578 มีถึง 36 ล้านตันปี45เท่ากับ18.1 ล้านตัน พื้นที่ปลูกยางปัจจุบัน 18.75 ล้านไร่ ต้องเพิ่มพื้นที่ปลูกใหม่อีก 25 ล้านไร่ เท่ากับ 2.375 ล้านไร่ต่อปี การขาดแคลนยางธรรมชาติคาดว่าจะเกิดขึ้นระหว่างปี 2548-2558 ในปัจจุบันมีการผลิตยางสังเคราะห์ครับในอัตราส่วน60%ยางธรรมชาติ40% แต่ยางรถยนต์ยังคงต้องใช้ยางธรรมชาติในการผลิตอยู่โดยเฉพาะยางเรเดียล การผลิตยางสังเคราะห์มีต้นทุนสูงครับ ในระยะยาวราคายางธรรมชาติควรมีราคาต่ำกว่ายางสังเคราะห์อยู่เล็กน้อย
ขณะนี้ศูนย์กลางของอุตสาหกรรมอิลาสโตเมอร์ ได้เปลี่ยนจากซีกโลกตะวันตกเป็นซีกโลกตะวันออก เอเชียได้เป้นภูมิภาคที่มีการผลิตและการใช้ยางมากที่สุดและเป็นกุญแจพลิกผันอุตสาหกรรมยางในระดับโลก
ประเทศจีนมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมยางธรรมชาติในระดับโลกโดยมีการผลิตและใช้ยางธรรมชาติเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ปี46 มีปริมาณการใช้ยางธรรมชาติถึง 1.44 ล้านตันและคาดว่าจะเพิ่มถึง 2 ล้านตันในปี 2553 เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็วและคงตัว ในญี่ปุ่นเองก็มีสัญญานซึ่งแสดงให้เห็นถึงปริมาณการใช้ยางธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
ในปี2563 น่าจะมีความต้องใช้ยางเท่ากับ 27.7 ล้านตัน เฉพาะที่จีนจะเพิ่มขึ้นเป็น 30%ของปริมาณการใช้ยางในตลาดโลกและจะคงที่หลังจากนั้นโดยมีการคาดการณ์กันว่าราคายางธรรมชาติน่าจะมีค่าประมาณ 2 เหรียญดอลล่าร์ก่อนปี 2553
พื้นที่ปลูกยางพาราแน่นอนว่าประเทศไทยเรามากที่สุดผลิตยางมากที่สุดในขณะนี้ ใน 10 ปีที่ผ่านมากำลังการผลิตของมาเลเซียลดลง ลาตินอเมริกาผลิตได้น้อยมาก ในอินโดนีเชียอัตราการปลูกทดแทนในช่วง 15 ปีที่ผ่านมาอาจไม่เพียงพอหากมีการเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ในแอฟริกาก็เผชิญปัญหาเช่นเดียวกัน เวียดนามอาจจะผลิตได้ถึง 1 ล้านตันแต่หลังจากนั้นจะถูกจำกัดด้วยพื้นที่ไม่เพียงพอ สรุปคืออัตราการปลูกทดแทนโดยรวมของโลกยังไม่เพียงพอในช่วง 8-10 ปีที่ผ่านมาซึ่งจะรู้สึกถึงผลที่จะตามมาจนถึงปี2558



pk8

โพสต์ โดย pk8 » พุธ มิ.ย. 02, 2004 6:57 pm

โดยส่วนตัวผมคิดว่าราคายางยังจะน่ามีระดับราคาสูงขึ้นไปอย่างต่อเนื่องเท่าที่ดูแล้วคงไม่ใช่ 2-3 ปีอย่างที่เคยคิดๆไว้แล้วครับ สำหรับผมเองมันเริ่มมีนัยยะแล้วที่จะมองผู้ที่จะได้รับประโยชน์จากมูลค่าเพิ่มของมันอย่างจริงจังครับคุณ blueblood เริ่มมองๆหน่อยนาครับประเมินแล้วนี่เพิ่งโหมโรงเท่านั้นราคาที่ประเมินไว้มันค่อนข้างมากครับ (เป็นความคิดเห็นส่วนตัวผู้ลงทุนโปรดใช้ความพิจารณานะครับ)ผลประกอบการไตรมาสสองออกเมื่อไหร่คงจะประเมินกันได้ดีกว่านี้ครับ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น.....



pk8

โพสต์ โดย pk8 » พฤหัสฯ. มิ.ย. 03, 2004 12:52 am

ผมไม่ได้อยู่ในวงการยางครับ ข้อมูลข้างต้นส่วนหนึ่งมาจากการประชุมยางนานาชาติซึ่งจัดที่เชียงใหม่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา กับบางส่วนของบทความที่เขียนโดย Mr.patrick hays managing director,SMPT singapore chairman,singapore commodity exchange เกี่ยวกับโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมยางธรรมชาติเชิงนิเวศน์ครับ ที่โพสท์มาแบบสรุปครับข้อมูลอาจไม่ครบถ้วน สำหรับ sta ตามความเห็นความเสี่ยงประการแรกคือถ้าราคายางไม่เสถียรคือเหวี่ยงขึ้นลงผันผวนแบบมากๆครับถ้าราคาเป็นไปตามที่ควรจะเป็นโดยไม่มีการเก็งกำไรกันขนาดหนักคือหากราคาจะขยับก็ควรจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปจะเป้นผลดีต่อ sta มากกว่ามันจะง่ายต่อการจัดการมากกว่าแต่ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าก็ถือว่าเป็นกลไกที่ช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้ในระดับหนึ่งครับ



krit

โพสต์ โดย krit » เสาร์ มิ.ย. 05, 2004 3:24 pm

ดร.ไวยวุฒิ MD ยังเก็บหุ้นอย่างต่อเนื่องใน Q2 ส่งสัญญาณเป็นนัยๆ

ไวยวุฒิ สินเจริญกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 19/04/2547 16/04/2547 30,000 35.28 ซื้อ
ไวยวุฒิ สินเจริญกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 19/05/2547 17/05/2547 41,400 36.64 ซื้อ
ไวยวุฒิ สินเจริญกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 19/05/2547 18/05/2547 8,000 36.50 ซื้อ
ไวยวุฒิ สินเจริญกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 24/05/2547 21/05/2547 10,000 35.00 ซื้อ
ไวยวุฒิ สินเจริญกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 03/06/2547 01/06/2547 24,000 34.50 ซื้อ



pk8

โพสต์ โดย pk8 » อังคาร มิ.ย. 08, 2004 1:06 pm

ยอดรวมที่คุณไวยวุฒิเข้าซื้อ STA ตั้งแต่กลางธันวาคม 2546 เป็นต้นมาถึงปัจจุบันเท่ากับ 710,200 หุ้นครับ
ยอดจำหน่ายรถประจำเดือนพ.ค.ของอเมริกาเท่ากับ 1.5 ล้านคัน
ยอดจำหน่ายรถประจำเดือนพ.ค.ของจีนเท่ากับ 1.8 แสนคันเพิ่มขึ้น20% yoy แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนเม.ย เนื่องมาจากทางการจีนออกมาตรการในการปล่อยสินเชื่อรถยนต์เพื่อลดความร้อนแรงของอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนในขณะนี้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็ยังมีอัตราของการเติบโตเฉลี่ยมากขึ้นกว่า 40%
ราคายางแผ่นรมควันชั้น3(rss3)ประจำวันที่4/6/47
หาดใหญ่ 55.30/กก.
sicom สิงคโปร์ 1.34 เหรียญ/กก.
ราคายางrrs3ตลาดเกษตรล่วงหน้า 4/6/47
ส่งมอบเดือนต.ค. 53.60/กก.
ส่งมอบเดือนพ.ย. 53.70/กก
สำหรับตลาดเกษตรล่วงหน้า 4/6/47 มีเฮดเจอร์(ผู้ประกันความเสี่ยงทำธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตร)เข้ามาทำการซื้อขายเพิ่มขึ้นจำนวนทั้งหมด 96 สัญญา



krit

โพสต์ โดย krit » ศุกร์ มิ.ย. 11, 2004 4:40 pm

วันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2547 ปีที่ 27 ฉบับที่ 9590

แนวโน้มราคา"ยาง"ขาขึ้น

นายพันธ์ศักดิ์ เวชวนุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย(ก.ส.ล.) เปิดเผยว่า ปริมาณซื้อขายรวม 8 วันหลังเปิดดำเนินการ 28 พฤษภาคม มีจำนวนซื้อขาย 343 สัญญา หรือปริมาณยางพารา 1,715 ตัน คิดเป็นมูลค่า 91.2 ล้านบาท โดยราคาซื้อขายใกล้เคียงกับตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าต่างประเทศ ซึ่ง ณ วันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ.2547 ราคาไทยอยู่ที่ 53.2 บาท/ก.ก. สิงคโปร์อยู่ที่ 54.36 บาท ญี่ปุ่น 54.92-55.18 บาท/ก.ก. เซี่ยงไฮ้ประเทศจีน 61.44 บาท และเชื่อว่าความต้องการใช้ยางพาราในจีนกำลังขยายตัวเชื่อว่าจะส่งผลต่อราคาที่ขยับขึ้น



บุคคลทั่วไป

โพสต์ โดย บุคคลทั่วไป » เสาร์ มิ.ย. 12, 2004 4:49 pm

โกดังเก็บยางพาราเสียหาย 3 คูหา ยางแผ่นถูกไฟไหม้กว่า 40 ตัน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
ณ วันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ.2547 ราคาไทยอยู่ที่ 53.2 บาท/ก.ก.
ลำพังเฉพาะสินค้าก็มากกว่า 20 ล้านแล้วเนอะ เดี๋ยววันจันทร์ก็รอดูผล



เด็กๆ

โพสต์ โดย เด็กๆ » เสาร์ มิ.ย. 12, 2004 6:40 pm

ยอดขายปีละมากกว่า 25,000 ล้าน 10 ล้านเด็กๆ กำไรไตรมาสเเรกก่อนหักภาษีจ่ายดอกเบี้ยก็ 336.59 ล้านเลี้ยว กระเเสเงินสดกว่า 800 ล้าน

CASH AND CASH EQUIVALENTS 822.05

PROFIT (LOSS) BEFORE INTEREST AND INCOME TAX EXPENSES 336.59
INTEREST EXPENSES 46.23
INCOME TAX EXPENSES 5.03
PROFIT (LOSS) AFTER TAX 285.32
NET PROFIT (LOSS) OF MINORITY INTEREST 11.95
PROFIT (LOSS) FROM ORDINARY ACTIVITIES 273.38
NET PROFIT (LOSS) 273.38
TOTAL BASIC EARNINGS PER SHARE 3.65
BASIC EARNINGS PER SHARE - PROFIT (LOSS) FROM ORDINARY ACTIVITIES 3.65
BASIC EARNINGS PER SHARE - NET INCOME (LOSS) 3.65



pk8

โพสต์ โดย pk8 » เสาร์ มิ.ย. 12, 2004 8:27 pm

ขอโทษครับ ยางแผ่น 40 ตัน คิดยังไงครับตั้ง 20 ล้าน กก.ละ 53 บาท พันกก. 53000 บาทต่อตัน 40 ตัน รวมแล้ว 2 ล้านกว่าๆนิดหน่อยครับ ถ้ายาง 40 ตันได้เงินตั้ง 20 ล้าน STA ปีนี้คงรวยไม่รู้เรื่องเลยครับ สำหรับโกดังที่เสียหายคงไม่น่าเป็นห่วงอะไรดูแล้วเสียหายไม่มาก และในส่วนนี้น่าจะมีประกันไว้ครับ เป็นโอกาสถ้าวันจันทร์มีใคร panic sell ลงมาครับ ซึ่งก็อาจจะมีผลทางจิตวิทยาบ้างในเรื่องแบบนี้



pk8

โพสต์ โดย pk8 » อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2004 7:27 pm

update ข้อมูลครับ เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นที่โรงอบยางของ STA นั้นเกิดที่โรงอบเตาที่ 42 43 44 จากโรงอบยางทั้งหมด 56 เตาที่โรงงานของSTAแห่งนี้ และใช้ฟืนเป็นพลังงานความร้อนในการอบ ทั้งหมด 56 เตาขณะนี้ทำงานเติมกำลังการผลิตครับถ้าคิดกำลังผลิตเต็มที่ 56 เตาจะอบยางได้ 2.5 พันตันหรือเท่ากับ 45 ตันต่อเตา ฉะนั้นมูลค่ายางแผ่นที่เสียหายน่าจะอยู่ที่ราวๆ 6-7 ล้านบาทครับเป็นประมาณการณ์เท่านั้นครับแต่เฉพาะยางที่ได้รับความเสียหายน่าจะมากน้อยกว่านี้ไม่มากคงต้องดูการแจ้งตลาดหลักทรัพย์ของ STAอีกครั้งจึงจะถือว่าแน่นอนครับ จะเห็นได้ว่าตอนนี้ STAเดินกำลังผลิตเติมที่ครับยอดขายในปีนี้ยังอยู่ในวิสัยที่จะทำได้ตามที่ประมาณการณ์ไว้ครับ ผู้ที่ถือ STAอยู่สบายใจได้ครับไม่ได้ปลอบใจนะครับ



krit

โพสต์ โดย krit » จันทร์ มิ.ย. 14, 2004 9:34 am

Headline: เหตุการณ์ไฟไหม้ที่โรงงานจังหวัดตรัง
Time: 14 มิ.ย. 2004 08:47:32





วันที่ 14 มิถุนายน 2547

เรื่อง เหตุการณ์ไฟไหม้ที่โรงงานจังหวัดตรัง
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ตามที่ได้เกิดเหตุอุบัติเหตุไฟไหม้ขึ้นที่โรงงานยางแผ่นรมควันของบริษัทสาขาตรัง ในช่วงเช้า วันเสาร์ที่ 12
มิถุนายน 2547 และได้มีการควบคุมเพลิงเป็นที่เรียบร้อยในเวลาประมาณ 10.00 น. ทางบริษัทใคร่ขอชี้แจงสรุปเหตุการณ์
ตามรายละเอียดดังนี้
* ได้เกิดเหตุไฟลุกไหม้ขึ้นที่ห้องอบรมควันยางแผ่นดิบของบริษัทจำนวนสองห้องซึ่งมีปริมาณยางแผ่นบรรจุอยู่ประมาณ
120 ตัน มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 6 ล้านบาท และจากค่าความร้อนมีผลต่อโครงสร้างห้องรมควันข้างเคียงอีกสี่ห้อง
ซึ่งอยู่ในระหว่างการประเมินมูลค่าความเสียหาย
* ณ สาขาดังกล่าวมีห้องอบรมควันยางอยู่จำนวน 55 ห้อง มีกำลังการผลิตรวมประมาณเดือนละ 9,000 ตัน
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้มีผลกระทบต่อแผนการดำเนินงานของบริษัทในปัจจุบันแต่อย่างใดบริษัทยังคงสามารถใช้อุปกรณ์ส่วน
ที่เหลือผลิตสินค้าส่งมอบให้กับลูกค้าได้ตามกำหนด
* บริษัทได้มีการทำประกันภัยเต็มมูลค่าทั้งในส่วนของสินค้าและอุปกรณ์ อาคารโรงงาน และอยู่ในระหว่างการประสานงาน
กับบริษัทประกันภัยประเมินมูลค่าชดเชยความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ทางบริษัทใคร่ขอยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทโดยรวมแต่อย่างใด
รวมถึงการบริการส่งมอบใดๆที่ได้มีการตกลงตามข้อสัญญาไว้กับลูกค้าแล้ว

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

ขอแสดงความนับถือ


( นายกิติชัย สินเจริญกุล )
กรรมการ



pk8

โพสต์ โดย pk8 » จันทร์ มิ.ย. 14, 2004 6:52 pm

คงได้สมัครเป็นสมาชิกที่นี่เร็วๆนี้แหละครับคุณนักดูดาว ตอนแรกๆที่ผมโพสท์หัวข้อ STA นี่ก็กลัวว่าจะมีเพื่อนๆพี่ๆที่เข้ามาอ่านจะเข้าใจในลักษณะที่ว่าเข้ามาปั่นตัวหุ้นเหมือนกันครับ เนื่องจากว่าห้องนี้มีผู้ที่มีความรู้อยู่มากและเป็นแนวทางลงทุนแบบ value investor แต่บริษัทที่ผมโพสท์นี่คงยังไม่เข้าเกณฑ์เท่าไหร่ แต่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าผมให้ข้อมูลที่มีที่มาที่ไปไม่ใช่ข้อมูลที่เชื่อถือไม่ได้ครับ ส่วนการตัดสินใจอยู่ที่ผู้ที่อ่านข้อมูลแล้วนำไปต่อยอดกันอีกทีเวลาผมให้ความคิดเห็นผมจึงต้องย้ำว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวครับ ไม่เช่นนั้นผมคงโพสท์เกี่ยวกับหุ้นตัวนึงที่พึ่งย้ายกลุ่มไปหมาดๆว่ามีความน่าสนใจเพียงใดไปแล้วครับ
สำหรับวันนี้คุณ CK คุณนักดูดาวคงผิดหวังนะครับที่ราคาไม่ลงมาในจุดที่อยากจะเก็บน่ะครับรวมทั้งผมด้วย แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่ตลาดมีต่อ STA ครับ- ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความคิดความเห็นในกระทู้นี้ครับ



krit

โพสต์ โดย krit » พุธ มิ.ย. 16, 2004 9:36 am

ดร.เก็บต่อ

ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี บมจ.(STA) ไวยวุฒิ สินเจริญกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 15/06/2547 14/06/2547 32,100 35.25 ซื้อ



sn

โพสต์ โดย sn » พุธ มิ.ย. 16, 2004 10:20 am

sta ไม่รู้ว่ามีใคร โทรไปถามหรือยังว่ายอดขาย ไตรมาส นี้ได้เท่าไหร่แล้ว เขาจะบอกหรือเปล่า ครับ



pk8

โพสต์ โดย pk8 » พุธ มิ.ย. 16, 2004 11:54 am

คุณ sn ถ้าอยากติดต่อกับเขา อยากสอบถามก็ตามเบอร์นี้ครับ 074 232931 074 233281 074 237832 ได้อะไรมาก็มาบอกกันนะครับ



pk8

โพสต์ โดย pk8 » เสาร์ มิ.ย. 19, 2004 8:52 pm

เอาเวปไซท์ sta มาฝากครับ www.sritranggroup.com/thai/index.php
อยากรู้อะไรลองเข้าชมได้ครับ
to be a world class slogan ของ sta ในปัจจุบันครับ



pk8

โพสต์ โดย pk8 » อาทิตย์ มิ.ย. 20, 2004 10:49 pm

ผลกระทบของราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นต่อภาคยาง

โดยสรุป น่าจะมีผลต่อการขยายตัวด้านการขายของรถโดยสารและรถยนต์ที่ใช้ในการค้า

แต่ไม่มีผลกระทบต่อการขายรถใหม่แทนรถเก่า ดังนั้นเพียงบางส่วนของยางรถจะขายได้น้อยลง แต่จะไม่มีผลต่อการขายยางรถทดแทน

จากการวิเคราะห์จะมีผลกระทบต่อการบริโภคยางเพียงเล็กน้อย ราคายางธรรมชาติระหว่างปี 2005 - 2010 น่าจะอยู่ที่ 1.50 - 2 เหรียญต่อกก.

ที่มา Dr. Hidde P.Smit Dr. Kees Burger
Economic and Institute Free University Amsterdam Netherland



มศ5..

โพสต์ โดย มศ5.. » จันทร์ มิ.ย. 28, 2004 12:55 pm

ด่วนนนนน ปู๊นๆๆ
LOSO เปี๋ยนไป๋ เป็น pk8
5555555555555



pk8

โพสต์ โดย pk8 » จันทร์ มิ.ย. 28, 2004 3:54 pm

คนละคนกันครับ คุณ มศ5 ไม่คิดว่าคุณ loso จะเข้ามาตอบกระทู้นี้ครับ



upup

ดีใจที่ใจตรงกัน

โพสต์ โดย upup » อังคาร มิ.ย. 29, 2004 12:06 am

ไม่พูดอะไรมากเดี๋ยวโดนว่า
ตอนนี้ใช้เรือขนยางอยู่ (เอากำไรจากเรือมาเปลี่ยนเป็นยาง)
Q2 - คาดว่าไม่น้อยกว่า 3.50



งงอ่ะครับ

โพสต์ โดย งงอ่ะครับ » อังคาร มิ.ย. 29, 2004 9:25 am

ไม่คิดว่ามันไม่แฟร์หรือครับที่ออก PP อย่างงี้
500,000,000 บาท เป็น 1,000,000,000 บาท
25,000,000 หุ้น 2:1 ให้ผู้ถือหุ้นเดิม
25,000,000 PP
แล้วสงสัยว่าหุ้นขึ้นได้ไง เค้าน่าจะคิด Dilute นะครับ แล้วเป็น Dilute แบบ PP อีก
ผู้ถือหุ้นเดิม Happy หรือครับ สงสัยง่ะ



ล็อคหัวข้อ