หน้า 1 จากทั้งหมด 1

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 03, 2004 5:33 pm
โดย ปู่เอง
ปู่อยากจะถามคำถามซึ่งน่าจะเป็นคำตอบของโจทย์นี้คือ

จากอดีตคุณเคยเห็นสักครั้งไหมที่รายย่อยส่วนใหญ่เอาชนะฝรั่งได้
ถ้าเคยช่วยยกเวลาและตัวอย่างให้ปู่หน่อย....ปู่อยากรู้จริงๆ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 10, 2004 5:06 pm
โดย เตียบ่อกี้
ขอออกความเห็นบ้างนะครับ คือผมเคยเขียนบทความนึงที่เวปบอร์ดแห่งหน่งไว้ดังนี้
"ทำไมต่างชาติชนะเสมอ" อันนี้ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่าต่างชาติหรือฝรั่งที่เราเรียกกันนั้น แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ ฝรั่งหัวแดง และ ฝรั่งหัวดำ หัวแดงนั้นมักจะเล่นเป็นระยะยาว ส่วนใหญ่ใช้ EMA 200 วันขึ้นไป แต่หัวดำนั้นพอๆกับพี่ไทยเราคือ เข้าเร็วออกเร็ว แต่ ทั้ง 2 นั้นถือว่า เหมือนกันตรงเก่งพอๆกันและเก่งกว่าเรา
บทความก่อนอ้างจาก นสพ.ธุรกิจฉบับหนึ่งที่อ้างว่าเอาข้อมูลมาจาก ตลท ว่า ในไทย แบ่งเป็นรายย่อย 70% ต่างชาติ 20% จะเห็นได้ว่า คน 70 คน ทำไมแพ้คน 20 คนทั้งๆที่เรียกได้ว่า 1 ต่อ 3 เลย สู้กันก็ 2 มือ ต่อ 6 เท้า ทำไมเรายังแพ้ เพราะตลาดหุ้นสู้ด้วยสมอง ไม่ได้สู้ด้วยกำลัง ผู้บริหาร1คน(CEO)ใช้สมองสร้างกลยุทธ พนักงาน100 คนใช้แรงกายสร้างแรงขับเคลื่อน มันเป็นกฏเกณฑ์ของเศรษฐศาสตร์และการบริหาร ดังนั้น มาดูกันลึกลงไปอีกว่า ทำไม ต่างชาติถึงเก่งกว่า
เอาหัวดำก่อนละกัน ถ้าท่านเคยไปฮ่องกง หรือไต้หวัน จะเห็นว่า ตอนเช้าตรู่ผู้คนรีบขวักไขว่ไปทำงาน มือข้างหนึ่งถือกระเษเอกสาร อีกข้างจะถือหนังสือพิมพ์ ย้อยมองไปที่ร้านกาแฟ จะเห็นคนวัยกลางคนถึงสูงอายุ ทุกคนล้วนมี นสพในมือ เค้าว่ากันว่า มีข่าว 2 ชนิดให้อ่าน คือ 1. เล่นม้า และ 2. เล่นหุ้น แค่นี้ก็พอมองออกแล้วครับว่า สังคมหุ้นเขาได้เปรียบเราขนาดไหน
พวกหัวแดงยิ่งไม่ต้องพูดถึง พวกนี้ไม่ใช่ประชาชนธรรมดาที่เล่นหุ้น ถามว่า หัวแดงไม่มีแมงเม่าหรือ ตอบว่ามี แต่พวกนั้นก็เล่นในประเทศตัวเอง มีเพียง พวกสุดยอดวิชาเท่านั้นที่ออกมาเล่นนอกบ้าน (ถ้าตอนนี้ให้ท่านไปเล่นที่ ฮั่งเส็งหรือ ดาวน์โจนส์ ท่านจะไปไหม) แสดงว่าพวกนี้ระดับสุดยอด
แล้วเราจะสู้ได้อย่างไร "รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง" กับ "แพ้ชนะ รู้ผลตั้งแต่อยู่ในกระโจม" 2 อันนี้ผมชอบมาก แสดงให้เห็นถึงว่า 1 เราต้องมีการวางแผนก่อนทำศึกเสมอ และ 2 เราต้องมีความรู้อย่างมากในการจะทำศึกกับคู่ต่อสู้ของเรา ทั้ง 2 ข้อนี้ฝรั่งมี แต่ เราไม่มี
เรื่องต่อมาก็คือ ทำไมฝรั่งรู้ไปหมด (ต่อไปนี้ความหมายของฝรั่งคือ ฝรั่งที่ระดับสุดยอดนะครับ ไม่ใช่ฝรั่งแมงเม่า) หุ้นไทยเกิดมาได้ไม่กี่สิบปี แต่ฝรั่งมีมานานแสนนาน ถ้าเปรียบการทำงาน เราก็เพิ่งเรียนจบแล้วมาทำงาน แต่เขาทำงานมานานเป็น 20-30 ปี ประสบการณ์เขาเยอะกว่าเรามาก ปัญหาต่างๆเขาเจอมาก่อนเราทั้งนั้น การแก้ปัญหาเขาทำมาแล้วทั้งนั้น และที่สำคัญที่สุด ตำราที่พวกเราเรียน พวกเขาล้วนเป็นผู้เขียน เขาเขียน เราใช้ ใครจะเก่งกว่าใคร ใครจะรู้กลยุทธมากกว่าใคร นี่เป็นตรรกะแบบง่ายๆ
อาจารย์สอนศิษย์ 100 คน มีเพียง 1 คน หรือไม่มีเลยที่จะเก่งกว่าอาจารย์ เพราะ
1.แม้อาจารย์จะสอนเท่าใดก็ไม่หมดกับความรู้ที่มีอยู่(สังเกตุง่ายๆ ท่านอ่านหนังสือ 1 เล่ม 100 หน้า จนจบแล้วเอาไปเล่าต่อ คนฟังเขียนใหม่จะได้ไม่ถึง 50 หน้า เกิดจากผู้เล่า เล่าขาดไปบ้าง ผู้ฟังก็จดไม่ครบบ้าง)
2.คนส่วนใหญ่ยอมรับที่จะเรียน แต่ไม่ยอมที่จะคิด
สมการ a2+2ab+b2 ที่พวกเราเรียนใครคิดค้น คิดค้นได้อย่างไร ทำไมถึงคิดออกมาได้ เราไม่เคยรู้ไม่เคยสนใจ เรารู้แต่จะเอาไปใช้เท่านั้น ใช้แล้วคำตอบถูกหรือผิดเท่านั้นที่เราสนใจ
ทั้ง 2 สิ่งที่กล่าวมาจึงทำให้เรา วนเวียนอยู่กับคำว่า ไม่หลุดพ้นจากเบี้ยล่างเสมอ หากใครหลุดจาก 2 ข้อนี้ได้สักวันก็มีโอกาสเป็น 1 ใน 100 ที่เก่งกว่าอาจารย์
เราก็คน ต่างชาติก็คน เรามีสมองอันเดียว ขา 2 แขน 2 ต่างชาติก็มีเหมือนเราทุกอย่าง ที่ท่านพูดถูกต้องแล้ว จริงๆแล้ว ต่างชาติก็ไม่ได้เก่งไปกว่าเรา แต่ เราในที่นี้มีอยู่กี่คนหละครับ และต่างชาติในที่นี้หมายถึง ต่างชาติชาวบ้านธรรมดา หรือผู้เจนสนามหละครับ ต่างชาติในที่นี้เอาแค่ระดับสมองน้องๆ จอสโซรอส ก็เล่นเราแย่แล้วครับ มันอาจจะทำอะไรท่านไม่ได้ หรือ นักเล่นหุ้นไทยอีกหลายคน แต่ รายย่อยไทยคือเป้าหมายของเขาที่จะมาเอากำไรกลับไป มันก็เปรียบเหมือนการรบชิงเมืองแหละครับ(ต่างชาติที่คิดมาเอากำไรจากบ้านเรา เราต้องยอมรับว่าไม่ธรรมดา)เขากล้าออกจากบ้านมาบุกเมืองเรา แสดงว่าเขาต้องพร้อม ในทางกลับกันท่านยังไม่ชนะตลาดในบ้านตัวเองท่านจะไปเล่นตลาดนอกไหมครับ
เราอย่ากลัวต่างชาตินั้นถูกต้องที่สุด แต่เราต้องไม่ประมาทคู่ต่อสู้และศึกษากลยุทธของเขา เราจึงจะชนะได้
ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ผิดถูกไม่ว่ากัน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 10, 2004 5:45 pm
โดย มือใหม่ no login
วันนี้ วันที่ 10/06/2004

ต่างชาติขายอีกแล้ว

Type.............................. Buy .......................... Sell
RETAIL.......................... 9,308.70.................... 8,038.19
FOREIGN ......................3,131.29 ....................4,981.48
INST ..............................1,374.97.................... 795.31

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 10, 2004 8:59 pm
โดย ปู่เอง
มุมมองคุณเตียบ่อกี้ช่างหมดจดครบถ้วน ปู่เห็นด้วย...
ถ้าพวกนี้ไม่ใช่ระดับพระกาฬ คงไม่ออกนอกบ้านมาฟันกำไรต่างเมือง

2 วันนี้ปู่โดนฝรั่งมันลวงจนถอยแทบไม่เป็นขบวนเพราะความเก๋าพวกเขาจริงๆ
สัปดาห์นี้ปู่ได้ยินคนในวงการพูดว่าแม้แต่รายใหญ่ตอนนี้ยังงงเป็นไก่ตาแตก
ปีนี้เป็นปีที่เล่นแล้วขาดทุนมากปีหนึ่งของขาปั่น

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 10, 2004 9:10 pm
โดย เพื่อนมายู
กระทู้นี้เปิดสมองดีครับ ขอปรบมือให้

ขอเสริมคุณฉัตรชัยต่ออีกนิดครับ ถ้านักลงทุนไทยเข้าใจในหลักการลงทุนมากขึ้น ไม่ได้เน้นการเก็งกำไร และกิจการในตลาดมีผลประกอบการค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ บรรดาต่างชาติที่เคยโกยเงินออกไปก็ต้องหอบเงินกลับเข้ามาลงทุนต่อในราคาที่แพงขึ้นเหมือนกัน ในที่สุดเงินก็ต้องกลับมา
แต่กว่าจะถึงวันนั้น เราคงเสียอะไรไปอีกมาก เพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่ได้คิดแบบคุณฉัตรชัย....น่าเสียดายจริงๆครับ

ขอเพียงให้มีคนคิดแบบนี้เพิ่มขึ้นปีละ10%จนเราได้นักลงทุนที่รู้จักคิดเป็นประมาณ50%ของตลาด เราคงได้มีโอกาสโกยเงินต่างชาติกลับเข้ามาได้บ้างครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 10, 2004 9:33 pm
โดย ปู่เอง
ตอบคุณฉัตรชัย ลางเนื้อชอบลางยาครับ
ปู่เห็นด้วยกับคนที่ลงทุนแนวVI เพราะคนเหล่านี้จะไม่ตกอยู่ในกลเกมส์ต่างๆของพวกต่างชาติ
ปู่เคยเล่นทุกแนวและก็เลือกแนวที่ทำกำไรให้เราได้สูงสุดเท่านั้นเมื่อครบวัฐจักรขาขึ้นและลง

ปู่อยากถามท่านทั้งหลายในนี้สักหน่อย...
มีใครในนี้บ้างที่ไม่ขาดทุนจากหุ้นยุค1700 บ้าง ปู่อยากรู้จริงๆ(ปู่ยังขาดทุน)

และได้เตรียมรับมืออย่างไรบ้างกับวงจรขาลงในอนาคตซึ่งช้าเร็วก็จะต้องเกิด
กำไรที่ได้มาวันนี้จักต้องคืนกลับในวันข้างหน้าหรือไม่??

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 11, 2004 10:20 am
โดย เตียบ่อกี้
ถูกต้องแล้วครับคุณฉัตรชัย ผมเป็นนักลงทุนระยะสั้นถึงกลาง (เคยถือสูงสุด 2 ปี ตอนติดหุ้นครับ ช่วงที่เล่นแรกๆ) แรกเริ่มเลยผมเล่นแบบเลือดูพื้นฐาน กำไร ประมาณ 20 % ต่อปี แต่ผมเป็นคนใจร้อน ไม่ชอบรออะไรนานๆ เลยโดดมาทำสงครามแบบเก็งกำไร
ถ้านักลงทุนทุกคนคิดแบบคุณ ตลาดจะไม่เป็นแบบนี้ ตลาดหุ้นไทยจะมีเสถียรภาพ แต่เพราะต่างจิตต่างใจ และคำว่า อยากรวยเร็วๆนี่แหละครับ ทำให้ รายย่อยแห่เข้าตลาดเมื่อเห็นว่าตลาดบูมและ ก็เสร็จรายใหญ่กับต่างชาติทุกที เพราะถ้าไม่เก็งกำไร ราคาซื้อขาย จะไม่ขยับตัวแรงๆแบบนี้

แต่ที่แน่ๆ วันนี้และวันหน้า วัฏจักรคงไม่เปลี่ยนแปลง (ถ้าเปลี่ยน ดาวโจนส์เปลี่ยนก่อนเราแล้ว) ยังมีคนพร้อมที่จะนำเงินมาละลายในตลาดหุ้นเสมอ

ปล.แต่ผมก็ยังคงยืนยันว่า การเล่นเก็งกำไร ก็สามารถชนะต่างชาติได้ถ้าเราแน่จริง