Grand อ่านแล้ว รู้สึก รู้งี้ไม่อ่านดีกว่า
โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 09, 2004 2:07 pm
GRANDเซ็ง"ซีมิโก้" จัดสรรหุ้นไม่ตรงเป้า
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 8 มิถุนายน 2547 20:31 น.
ผู้จัดการรายวัน-แกรนด์ แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ (GRAND) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ราคาหุ้นวูบตั้งแต่วันแรกที่เข้าเทรดในตลาดหุ้นไทย โวย บล. ซีมิโก้จัดสรรหุ้นไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ชี้สถาบันในประเทศแสดงความต้องการมาก แต่ได้หุ้นแค่เล็กน้อย ขณะที่ผู้ที่ได้รับการจัดสรรไม่ใช่นักลงทุนระยะยาว
นายพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์ ประธานกรรมการ และประธานบริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (GRAND) เปิดเผยว่าการกระจายหุ้น GRAND ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ หรือจุดมุ่งหมาย ในการกระจายหุ้นของบริษัท โดยบริษัทมีความต้องการให้สัดส่วนนักลงทุนสถาบันในการกระจาย หุ้นบริษัท อยู่ที่ 30% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายประชาชนครั้งแรก (IPO) และต้องการให้นักลงทุนที่ได้รับการกระจายหุ้นนั้น เป็นนักลงทุนระยะยาว โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันในประเทศ
ทั้งนี้ ก่อนการเสนอให้จองซื้อหุ้น บริษัทได้เดินทางไปให้ข้อมูลนักลงทุนสถาบันในประเทศ และได้รับการตอบรับจากนักลงทุนสถาบันเป็นอย่างดี แต่ปรากฏว่า นักลงทุนสถาบันไทยได้รับการจัดสรรให้ซื้อหุ้นในสัดส่วนที่ต่ำมาก หลายแห่งได้เสนอจองซื้อ (Book build) มาในราคา 5 บาท ซึ่งมีความต้องการซื้อในราคาดังกล่าวเกินกว่า 5 เท่า ของจำนวนหุ้นที่จัดสรรให้กลุ่มนักลงทุนสถาบัน
เช่น บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนอยุธยาเจเอฟ (AJF) เสนอซื้อประมาณ 60 ล้านหุ้น แต่กลับได้รับการจัดสรรเพียง 5 แสนกว่าหุ้นเท่านั้น บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนธนชาติ เสนอซื้อ 10 ล้านหุ้น แต่ได้รับการจัดสรรเพียง 1 ล้านหุ้นเท่านั้น กล่าวคือ สถาบันส่วนใหญ่ที่ต้องการหุ้นแกรนด์ตั้งแต่ต้น กลับไม่ได้หุ้นตามที่ต้องการ และสัดส่วนที่ได้รับการกระจายหุ้นก็น้อยมาก จนไม่คุ้มกับการบริหาร ดังนั้น จึงมีการขายออกมาหลังจากการเปิดซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ทันที
สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่า กลุ่มนักลงทุนสถาบันเทขายหุ้นบริษัทจนเกลี้ยงพร์อต จากที่ได้รับการจัดสรรหุ้นแกรนด์ ไป 60 ล้านหุ้น คิดเป็น 35% ของหุ้นที่จัดสรร (IPO) 150 ล้านหุ้นนั้น เขายืนยันว่า ประเด็นข่าวดังกล่าว ไม่ได้มาจากผู้บริหารของบริษัท และเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
โดยก่อนการกำหนดราคาขายหุ้น ได้มีการประชุมร่วมกับ 12 บริษัท ที่รับเป็นอันเดอร์ไรต์หุ้นบริษัท เพื่อกำหนดช่วงราคา และได้มีการคำนวณราคาที่เหมาะสม ซึ่งอยู่ที่ 4.85 บาทต่อหุ้น หลังจากการคิดลดแล้ว 20% เมื่อหุ้นแกรนด์เปิดขายวันแรกๆ กลุ่มนักลงทุนนิติบุคคลต่างชาติ ก็ได้ทยอยขายหุ้น เพื่อทำกำไรระยะสั้น ทำให้ราคาหุ้นไม่สามารถรักษาเสถียรภาพไว้ได้ดีเท่าที่ควร
ทั้งนี้ หุ้นของแกรนด์ที่นำมาจัดสรรขายให้แก่นักลงทุนกลุ่มนิติบุคคล และกลุ่มสถาบันนั้น ปรากฏว่า นักลงทุนกลุ่มดังกล่าว มีการซื้อหุ้น 48 ล้านหุ้น คิดเป็น 32% ของหุ้น IPO ทั้งหมด โดยกลุ่มนักลงทุนสถาบันไทย ได้รับการจัดสรรให้ซื้อหุ้นเพียงประมาน 6 ล้านหุ้นเท่านั้น โดยหุ้นส่วนใหญ่ ประมาณ 42 ล้านหุ้น ได้ถูกจัดสรรขายให้นิติบุคคลนักลงทุนต่างชาติ
ล่าสุด เมื่อ18 มี.ค. บริษัท Quam Security Nominee (Singapore) นักลงทุนต่างชาติที่ได้รับการจัดสรรหุ้นแกรนด์มากที่สุด 13.25 ล้านหุ้น ได้ขายหุ้นออกไปแล้วประมาณกว่า 5 ล้านหุ้น เหลือหุ้นอยู่ในพอร์ตประมาณกว่า 7 ล้านหุ้น ส่วนสัดส่วนนักลงทุนในปัจจุบัน ยังไม่สามารถระบุได้ว่า นักลงทุนสถาบันถือหุ้น GRAND อยู่จำนวนเท่าใด
ดังนั้น การที่ราคาหุ้นแกรนด์ที่เปิดขายวันที่ 10 ก.พ. ราคา 4.85 บาท ถึงวันที่ 7 มิ.ย. ราคา 2.42 บาท ลดลง 2.43 บาท ลดลง 50.10% มีสาเหตุจากสาเหตุหลายประการ คือ วีธีการกระจายหุ้น และการกระจายหุ้น IPO การที่นักลงทุนสถาบันต่างประเทศและรายย่อยขายทำกำไรออกมามาก การระบาดของโรคไข้หวัดนก เหตุการณ์ความไม่สงบทางภาคใต้ของไทย ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ม.ค. อยู่ที่เกือบ 800 จุด ปัจจุบัน ลดลงมาเกือบ 200 จุด ซึ่งบริษัทไม่สามารถควบคุมได้
"เรื่องนี้ เราได้สอบถามไปยังซีมิโก้แล้ว แต่ได้คำตอบไม่เป็นที่น่าประทับใจ จึงไม่ขอเอ่ยถึง" นายพงษ์พันธ์กล่าว
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 8 มิถุนายน 2547 20:31 น.
ผู้จัดการรายวัน-แกรนด์ แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ (GRAND) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ราคาหุ้นวูบตั้งแต่วันแรกที่เข้าเทรดในตลาดหุ้นไทย โวย บล. ซีมิโก้จัดสรรหุ้นไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ชี้สถาบันในประเทศแสดงความต้องการมาก แต่ได้หุ้นแค่เล็กน้อย ขณะที่ผู้ที่ได้รับการจัดสรรไม่ใช่นักลงทุนระยะยาว
นายพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์ ประธานกรรมการ และประธานบริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (GRAND) เปิดเผยว่าการกระจายหุ้น GRAND ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ หรือจุดมุ่งหมาย ในการกระจายหุ้นของบริษัท โดยบริษัทมีความต้องการให้สัดส่วนนักลงทุนสถาบันในการกระจาย หุ้นบริษัท อยู่ที่ 30% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายประชาชนครั้งแรก (IPO) และต้องการให้นักลงทุนที่ได้รับการกระจายหุ้นนั้น เป็นนักลงทุนระยะยาว โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันในประเทศ
ทั้งนี้ ก่อนการเสนอให้จองซื้อหุ้น บริษัทได้เดินทางไปให้ข้อมูลนักลงทุนสถาบันในประเทศ และได้รับการตอบรับจากนักลงทุนสถาบันเป็นอย่างดี แต่ปรากฏว่า นักลงทุนสถาบันไทยได้รับการจัดสรรให้ซื้อหุ้นในสัดส่วนที่ต่ำมาก หลายแห่งได้เสนอจองซื้อ (Book build) มาในราคา 5 บาท ซึ่งมีความต้องการซื้อในราคาดังกล่าวเกินกว่า 5 เท่า ของจำนวนหุ้นที่จัดสรรให้กลุ่มนักลงทุนสถาบัน
เช่น บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนอยุธยาเจเอฟ (AJF) เสนอซื้อประมาณ 60 ล้านหุ้น แต่กลับได้รับการจัดสรรเพียง 5 แสนกว่าหุ้นเท่านั้น บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนธนชาติ เสนอซื้อ 10 ล้านหุ้น แต่ได้รับการจัดสรรเพียง 1 ล้านหุ้นเท่านั้น กล่าวคือ สถาบันส่วนใหญ่ที่ต้องการหุ้นแกรนด์ตั้งแต่ต้น กลับไม่ได้หุ้นตามที่ต้องการ และสัดส่วนที่ได้รับการกระจายหุ้นก็น้อยมาก จนไม่คุ้มกับการบริหาร ดังนั้น จึงมีการขายออกมาหลังจากการเปิดซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ทันที
สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่า กลุ่มนักลงทุนสถาบันเทขายหุ้นบริษัทจนเกลี้ยงพร์อต จากที่ได้รับการจัดสรรหุ้นแกรนด์ ไป 60 ล้านหุ้น คิดเป็น 35% ของหุ้นที่จัดสรร (IPO) 150 ล้านหุ้นนั้น เขายืนยันว่า ประเด็นข่าวดังกล่าว ไม่ได้มาจากผู้บริหารของบริษัท และเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
โดยก่อนการกำหนดราคาขายหุ้น ได้มีการประชุมร่วมกับ 12 บริษัท ที่รับเป็นอันเดอร์ไรต์หุ้นบริษัท เพื่อกำหนดช่วงราคา และได้มีการคำนวณราคาที่เหมาะสม ซึ่งอยู่ที่ 4.85 บาทต่อหุ้น หลังจากการคิดลดแล้ว 20% เมื่อหุ้นแกรนด์เปิดขายวันแรกๆ กลุ่มนักลงทุนนิติบุคคลต่างชาติ ก็ได้ทยอยขายหุ้น เพื่อทำกำไรระยะสั้น ทำให้ราคาหุ้นไม่สามารถรักษาเสถียรภาพไว้ได้ดีเท่าที่ควร
ทั้งนี้ หุ้นของแกรนด์ที่นำมาจัดสรรขายให้แก่นักลงทุนกลุ่มนิติบุคคล และกลุ่มสถาบันนั้น ปรากฏว่า นักลงทุนกลุ่มดังกล่าว มีการซื้อหุ้น 48 ล้านหุ้น คิดเป็น 32% ของหุ้น IPO ทั้งหมด โดยกลุ่มนักลงทุนสถาบันไทย ได้รับการจัดสรรให้ซื้อหุ้นเพียงประมาน 6 ล้านหุ้นเท่านั้น โดยหุ้นส่วนใหญ่ ประมาณ 42 ล้านหุ้น ได้ถูกจัดสรรขายให้นิติบุคคลนักลงทุนต่างชาติ
ล่าสุด เมื่อ18 มี.ค. บริษัท Quam Security Nominee (Singapore) นักลงทุนต่างชาติที่ได้รับการจัดสรรหุ้นแกรนด์มากที่สุด 13.25 ล้านหุ้น ได้ขายหุ้นออกไปแล้วประมาณกว่า 5 ล้านหุ้น เหลือหุ้นอยู่ในพอร์ตประมาณกว่า 7 ล้านหุ้น ส่วนสัดส่วนนักลงทุนในปัจจุบัน ยังไม่สามารถระบุได้ว่า นักลงทุนสถาบันถือหุ้น GRAND อยู่จำนวนเท่าใด
ดังนั้น การที่ราคาหุ้นแกรนด์ที่เปิดขายวันที่ 10 ก.พ. ราคา 4.85 บาท ถึงวันที่ 7 มิ.ย. ราคา 2.42 บาท ลดลง 2.43 บาท ลดลง 50.10% มีสาเหตุจากสาเหตุหลายประการ คือ วีธีการกระจายหุ้น และการกระจายหุ้น IPO การที่นักลงทุนสถาบันต่างประเทศและรายย่อยขายทำกำไรออกมามาก การระบาดของโรคไข้หวัดนก เหตุการณ์ความไม่สงบทางภาคใต้ของไทย ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ม.ค. อยู่ที่เกือบ 800 จุด ปัจจุบัน ลดลงมาเกือบ 200 จุด ซึ่งบริษัทไม่สามารถควบคุมได้
"เรื่องนี้ เราได้สอบถามไปยังซีมิโก้แล้ว แต่ได้คำตอบไม่เป็นที่น่าประทับใจ จึงไม่ขอเอ่ยถึง" นายพงษ์พันธ์กล่าว