หน้า 1 จากทั้งหมด 1

น้ำมันแพงๆอย่างนี้ ถ้าจะลดต้นทุนการดำเนินการจะลดอะไรก่อนดี??

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 08, 2004 5:47 pm
โดย เถ้าแก่
ถ้าเพื่อนๆเป็นเจ้าของกิจการ คิดว่าอยากจะตัดค่าใช้จ่ายอะไรก่อน...

ผมจะลดงบโฆษณาก่อนครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 08, 2004 7:59 pm
โดย TAO
พายุเศรษฐกิจตั้งเค้าจากพิษราคาน้ำมัน ธุรกิจต้นน้ำยันปลายน้ำเต็มกลืนต้นทุนพลังงานพุ่ง จ่อคิวรอปรับราคา วงการสินค้าอุปโภคบริโภคขีดเส้นตรึงราคาได้ถึงแค่ตุลาคม งัดสารพัดกลยุทธรัดเข็มขัดลดต้นทุนการผลิต ตั้งแต่หั่นงบโฆษณา ตัดรายจ่าย ฝันร้ายมนุษย์เงินเดือนหวนกลับมาเยือน "ดีพร้อม"ดีลเลอร์เครื่องใช้ไฟฟ้าเลย์ออฟพนักงานแล้วครึ่งหนึ่ง "ชายสี่หมี่เกี๊ยว"ไม่กล้าขึ้นราคา เพราะกำลังซื้อประชาชนก็หดตัว วงการขนส่งสินค้าโอดคนซื้อน้อยไม่มีของจะขน ถามตรง"ทักษิณ"เศรษฐกิจดีทำไมรากหญ้าใกล้ตาย นักวิชาการพลังงานร้องรัฐเลิกบิดเบือนราคาน้ำมัน หวั่นโมเมนตัมเศรษฐกิจชะงัก





จากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอีกระลอก กดดันให้ต้นทุนราคาน้ำมันของไทยต้องขยับตาม และทางการตั้งขยับราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินขึ้นอีก โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2547 ราคาเบนซิน ออกเทน 95 ไต่ขึ้นมาอยู่ที่ 19.99 บาทต่อลิตร นับเป็นระดับราคาขายปลีกที่สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ แม้กระนั้นยังเป็นราคาที่รัฐบาลต้องอุดหนุนอีกลิตรละกว่าสองบาท ขณะที่ยังคงกดฟันตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ 14.59 บาทต่อลิตร โดยเป็นที่คาดหมายกันว่าในที่สุดคงไม่สามารถทนแรงกดดันของราคาได้ และคงต้องขยับราคาขึ้นไป เนื่องจากเวลานี้ต้องอุดหนุนอยู่ถึงลิตรละกว่าสี่บาท ส่งผลให้กองทุนน้ำมันติดลบแล้วกว่าสองหมื่นล้านบาท แม้กระนั้นก็ไม่สามารถกดต้นทุนการผลิตไว้ได้ทั้งหมด ส่งผลให้ความหวังที่จะเห็นเศรษฐกิจไทยขยายตัวตามเป้าที่วางไว้เลือนลางเต็มที ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าวภาคธุรกิจเริ่มรัดเข็มขัดด้วยกลยุทธต่าง ๆ อาทิ หั่นงบโฆษณาไปจนถึงลดแรงงาน ขณะที่ประชาชนก็เริ่มจัดสรรรายจ่าย ซึ่งอาจส่งผลถึงการลดกำลังการผลิตในอนาคตอันใกล้นี้ หากสถานการณ์ยังเลวร้ายอยู่เช่นนี้





-เหล็กสหวิริยาฯรอจังหวะปรับราคา


ล่าสุด"ฐานเศรษฐกิจ" สำรวจการเตรียมรับมือสถานการณ์ของภาคอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งเป็นผู้ทีได้รับผลกระทบโดยตรงกลุ่มแรก โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีบทบาทต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานของประเทศ ที่มีการขยายตัวและกำลังอยู่ในภาวะขาขึ้น และถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องพึ่งพาการใช้พลังงานสูงมากในขบวนการผลิต เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมี เหล็ก ปูนซีเมนต์ เยื่อและกระดาษ ที่มีภาระต้นทุนที่ต่อเนื่องมาจากน้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้นแล้วโดยเฉลี่ย 5-10% ขึ้นอยู่ที่ชนิดของอุตสาหกรรม ต่างชี้ว่า สถานการณ์มีแนวโน้มเป็นปัญหาที่รุนแรงขึ้น


ต่อเรื่องนี้ นายวิน วิริยประไพกิจ กรรมการผุ้จัดการใหญ่บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) (SSI ) ผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนรายใหญ่ กล่าวยืนยันกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า เวลานี้ต้นทุนของน้ำมันได้ขยับตัวสูงขึ้นมาตลอดทางนับตั้งแต่การขนส่งวัตถุดิบเข้ามาถึงขบวนการผลิตในโรงงาน โดยราคาน้ำมันขยับตัว ราคาถ่านหินก็ขยับตามเพราะเป็นเชื้อเพลิงในผลิตไฟฟ้า เหล่านี้คือภาระต้นทุนที่ขยับสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งการผลิตเหล็กจะต้องใช้ความร้อนสูงในการแปรรูปเป็นเหล็กชนิดต่างๆ


"หากสถานการณ์ของราคาน้ำมันยังสูงอย่างต่อเนื่องไปถึงปลายปี ซึ่งคาดการณ์กันว่าราคาในตลาดโลกจะสูงจะถึง 50 เหรียญสหรัฐ/บาเรลจริง บริษัทก็ต้องมาดูว่าควรจะปรับเพดานราคาเหล็กแผ่นรีดร้อนให้สูงขึ้นเป็นเท่าไรจึงจะเหมาะสม และผู้บริโภคจะไม่ได้รับผลกระทบมาก


ขณะที่แหล่งข่าวจากบริษัท สยามยูไนเต็ดสตีล(1995)หรือSUS ผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดเย็น กล่าวว่า เวลานี้ต้นทุนน้ำมันคิดเป็น5-6% ของต้นทุนรวม ยอมรับว่ามีลกระทบบ้างแล้วแต่ยังไม่มากเท่ากับผู้ผลิตเหล็กที่มีเตาถลุง ซึ่งเวลานี้ผู้ที่ใช้ลิกไนต์ ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงจะมีราคาสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน ดังนั้นเวลาพูดถึงต้นทุนด้านน้ำมันจะเป็นต้นทุนแฝงที่มากับวัตถุดิบ


อย่างไรก็ตามเวลานี้บริษัทมีความกังวลว่าราคาวัตถุดิบที่กลุ่มรีดเย็นใช้คือเหล็กแผ่นรีดร้อนจะมีการปรับเพดานราคาสูงขึ้นอีก เพราะเวลานี้ราคาเหล็กแผ่นรีดร้อนยังไม่มีการปรับราคาสูงขึ้น ในขณะที่ราคาวัตถุดิบล็อตใหม่ที่สั่งซื้อราคาอยู่ที่ 24,000-25,000 บาท/ตันแล้ว ถือว่าเริ่มส่งสัญญาณขยับราคาสูงขึ้นเล็กน้อยแล้ว ขณะที่เหล็กราคาเหล็กแผ่นรีดเย็นยืนอยู่ที่ 27,000-28,000บาท/ตัน ในขณะนี้


-ทุนเท็กซ์ปิโตรเคมิคอลส์โอดเริ่มสาหัส


ด้านนายสุวิทย์ ชื่นปิยะวาจา ผู้จัดการอาวุโส บริษัท ทุนเท็กซ์ ปิโตรเคมิคอลส์(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตพีทีเอ(Purified Terephthalic Acid) ซึ่งพีทีเอเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ในการผลิตเส้นใยโพลีเอสเตอร์และเรซินสำหรับทำขวดPET กล่าวเช่นกันว่า ขณะนี้ในส่วนของโรงงานผลิตได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นแล้ว เนื่องจากต้นทุนของทุนเท็กซ์ฯจริงๆ คือผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม ถือว่าทั้งระบบอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกระทบหมดโดยเฉพาะการผลิตในขั้นดาวน์สตรีม ซึ่งการผลิตพีทีเอของบริษัทอยู่ในขั้นกลาง จะกระทบเป็นลูกโซ่ต่อเนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้คือพาราไซลีน ซึ่งอยู่ในกลุ่มอะโรเมติกส์ ได้ขยับราคาตามน้ำมันแล้ว โดยราคาปัจจุบันไต่ระดับเกือบ 700 กว่าเหรียญสหรัฐ/ตัน(เดิมราคา 400-500เหรียญสหรัฐ/ตัน)


"ตอนนี้ทุนเท็กซ์ฯต้องปรับกลยุทธ์ทางตลาดใหม่โดยส่งออกพีทีเอเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 20%ไปจีนแดงเป็นตลาดหลักโดยจะรักษาสัดส่วนส่งออกระดับนี้ไปถึงสิ้นปี และปรับต้นทุนการผลิตรวมใหม่ทั้งระบบ"


แหล่งข่าวจาก บริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตปูนซีเมนต์"ทีพีไอ" กล่าวว่า ธุรกิจปูนซีเมนต์จะกระทบโดยตรงในแง่ค่าขนส่ง ส่วนต้นทุนน้ำมันเป็นผลกระทบทางอ้อมต่อขบวนการผลิต อย่างไรก็ดี เมื่อมองต้นทุนรวมอุตสาหกรรมนี้ยังประคองตัวอยู่ได้โดยที่ยังไม่ต้องผลักภาระให้ผู้บริโภค ยกเว้นว่ารัฐบาลประกาศราคาน้ำมันลอยตัวเร็วขึ้น ถึงเวลานั้นปูนซีเมนต์อาจต้องปรับราคาตาม แต่ไม่น่าจะเกิดขึ้นภายในปีนี้


-ล็อกซเล่ย์เร่งหาช่องทางลดต้นทุน


สอดคล้องกับนายพงศ์ศักดิ์ เกษมสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ล็อกซเล่ย์ เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้บริษัท ทำเช่นเดียวกับผู้ผลิตหลายๆ ราย ที่ต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเอง ด้วยการลดต้นทุนภายในองค์กร โดยไม่ปรับขึ้นราคาสินค้า เนื่องจากภาวะการแข่งขันในตลาดนั้นสูงอยู่แล้ว การผลักดันให้ยอดขายสินค้าเพิ่มขึ้นก็ค่อนข้างจะตึงตัว ในขณะที่ค่าใช้จ่ายต่างๆ กลับเพิ่มขึ้น


"ขณะนี้บริษัทพยายามลดต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ด้วยการประหยัดค่าใช้จ่ายภายในองค์กรในส่วนต่างๆ เท่าที่สามารถทำได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายในส่วนของบุคลากรที่เพิ่มขึ้น กำลังหาวิธีการที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอยู่"


-เคเอฟซีอั้นไม่อยู่ปรับแน่หลังกันยาฯ


นายปณิธาน เศรษฐบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล(ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านพิซซ่า ฮัท และเคเอฟซี กล่าวว่า บริษัทได้ให้ความร่วมมือกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ตรึงราคาสินค้าในร้านจนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2547 นี้ ก่อนจะพิจารณาปรับราคาอีกครั้งหนึ่ง หากรัฐบาลลอยตัวค่าน้ำมันก็จำเป็นต้องมีการปรับราคาสินค้าเพิ่ม


อย่างไรก็ดีราคาวัตถุดิบได้เพิ่มขึ้นแล้ว 5-10% โดยเฉพาะพลาสติก ค่าขนส่ง ซึ่งคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.5% ของยอดขายทั้งหมด รวมถึงการให้บริการดีลิเวอร์รี่เนื่องจากราคาต้องอิงกับราคาน้ำมัน ทำให้ทางบริษัทต้องขอความร่วมมือจากซัพพลายเออร์ช่วยตรึงราคา รวมถึงให้ร้านแต่ละสาขาช่วยกันประหยัดค่าใช้จ่าย เช่นค่าไฟ เป็นต้น นอกจากนั้น ยังเชื่ออีกว่าปัจจัยดังกล่าวจะมีกระทบต่อกำลังซื้อผู้บริโภคในครึ่งปีหลังอย่างแน่นอน


-ธุรกิจแฟรนไชส์พยุงราคาสุดฤิทธิ์


นายธีรภพ จิระประภาธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท โชดดีอินเตอร์ฟู๊ด จำกัด เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ โชคดีติ่มซำ กล่าวว่า กิจการของเราและลูกค้าแฟรนไชส์ได้รับผลกระทบโดยตรงมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ราคาน้ำมันสูงขึ้นทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มตาม ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบหนักขึ้นเรื่อยๆ โดยในส่วนของบริษัทจะกระทบเรื่องต้นทุนการขนส่งวัตถุดิบให้กับลูกค้าแฟรนไชส์ อย่างไรก็ดีขณะนี้ บริษัทเองก็ยังพอที่จะรับกับราคาต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น แต่ถ้าถึงวันที่รัฐอุ้มไม่ไหวแล้วและจำเป็นต้องปล่อย เราก็คงจะต้องใช้วิธีสุดท้าย ซึ่งเราไม่อยากทำ คือ การปรับราคาขาย เพื่อให้กิจการอยู่รอด


นายสนั่น พรหมโคตร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทมีสาขาทั้งหมดกว่า 1,500 สาขา และภายในปีนี้มีเป้าจะขยายเพิ่มอีก 150 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งเราก็ได้รับผลกระทบทั้งในส่วนของผู้ประกอบการที่เป็นแฟรนไชส์ซอร์และแฟรนไชส์ซี อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์ราคาน้ำมันยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางบริษัทก็จะเตรียมวิธีการรองรับ แต่ยังไม่แนวคิดที่จะปรับราคาขาย


-"แอลจี"ชี้รายเล็กส่อปิดกิจการ


นายวิษณุ ลิ่มวิบูลย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลจีมิตรอีเลคทรอนิคส์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าแอลจี จากเกาหลี กล่าวให้ความเห็นว่า การปรับตัวทางธุรกิจรับภาระต้นทุนสินค้าที่สูงขึ้นขณะนี้ว่า ค่ายใหญ่จะได้เปรียบกว่าค่ายเล็ก เนื่องจากมีสายป่านที่ยาวกว่า ส่วนบริษัทเล็กตอนนี้จะลำบากถ้าไม่มีงบโฆษณา เขาอาจขึ้นราคาสินค้าถ้าขึ้นราคาไม่ได้ ก็อาจต้องหยุดกิจการไปเลย


-ดีพร้อมฯเลย์ออฟคนแล้ว 50%


ขณะที่นายสุวิทย์ เตชะดีพร้อม ประธานที่ปรึกษา บริษัท ดีพร้อม เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ดีลเลอร์จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ กล่าวถึงการปรับตัวในการทำธุรกิจในภาวะต้นทุนสินค้าสูงขณะนี้ว่า ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับลดพนักงานของบริษัทลดเฉลี่ย 50 % พร้อมลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง ทั้งในส่วนของค่าคอมมิสชั่นการขายของพนักงานลงจากที่ได้ร้อยละ 3 ขณะนี้ไม่มีแล้ว


"ขณะนี้เม็ดเงินพอประคองอยู่ได้ กำไรหายไปเฉลี่ย 50 % ซึ่งยอดขายสิ้นปีนี้คาดว่าวอลุ่มจะเติบโตขึ้นเฉลี่ย 10-20 % ขณะที่เม็ดเงินหรือผลกำไรโตอย่างมากไม่เกิน 5 %"


-ขนส่งบก-น้ำ-อากาศครวญต้นทุนพุ่ง


แหล่งข่าวจากสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงอัตราค่าระวางขนส่งสินค้าทางเรือว่าเดือนส.ค.นี้ สายการเดินเรือยุโรป ได้ปรับค่าระวางเรือขึ้นโดยตู้ขนาด 20 ฟุต ได้ปรับขึ้นเป็น 2,050 ดอลลาร์สหรัฐ จากเดือนก.ค.ที่อยู่ระดับ 1,875 ดอลลาร์สหรัฐ และตู้ขนาด 40 ฟุตได้ปรับขึ้นเป็น 4,100 ดอลลาร์สหรัฐ จากเดือนก.ค.ที่อยู่ระดับ 3,750 ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้เพราะบริษัทเรือประสบปัญหาขาดแคลนตู้ขนส่งสินค้าที่จะไปจากเอเชีย ประกอบกับราคาน้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนสายการเดินเรืออื่นๆ เช่นสหรัฐ ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง ยังไม่มีการปรับค่าระวางแต่อย่างใด


นายชัชวาล พจนานุภาพ นายกสมาคมผู้ประกอบการขนส่งสินค้า กล่าวว่า ในส่วนของผู้ประกอบการรถบรรทุกยังขึ้นราคาไม่ได้ เพราะเวลานี้เศรษฐกิจระดับรากหญ้ายังแย่อยู่มาก ประชาชนระดับรากหญ้าบริโภคน้อยลง ทำให้การขนส่งสินค้าน้อยลงด้วย จำนวนรถบรรทุกที่มีอยู่ก็ไม่มีสินค้าจะขนส่งหากใครขึ้นราคายิ่งหาสินค้าขนส่งไม่ได้เลย


ขณะที่นายอุดม ตันติประสงค์ชัย กรรมการผู้อำนวยการ สายการบินโอเรียนท์ ไทย แอร์ไลน์ส เผยว่า กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นทำให้ต้นทุนในเดือนสิงหาคมนี้เพิ่มขึ้นถึง 10 ล้านบาท แต่สายการบินยังสามารถแบกรับภาระไหว เนื่องจากมีอัตราผู้โดยสารเพิ่มเป็น 80-90 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าหากราคาน้ำมันพุ่งมาเป็นแกลลอนละ 1.50-2.00เหรียญสหรัฐ อาจจะต้องปรับขึ้นราคาค่าโดยสารเพิ่ม


-โรงแรมยันยังไม่ปรับค่าห้อง


ส่วนความเคลื่อนไหวภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว นายวิจิตร ณ ระนอง ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า ครั้งนี้ถือว่าเป็นปัญหาวิกฤติน้ำมันแพงขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปีนั้น ตนมองว่าจะส่งผลกระทบ ต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพียงเล็กน้อย เนื่องจากการขึ้นราคาน้ำมันจะส่งผลกระทบต่อราคาตั๋วเครื่องบิน สำหรับในด้านอื่นๆ อาทิ โรงแรม ที่พัก นั้นเชื่อว่าจะยังคงไม่มีการปรับราคาสูงขึ้น


"เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะยังคงไม่ได้รับผลกระทบเท่าไรนัก เพราะมีปัจจัยในเรื่องของค่าเงินบาทที่มีการอ่อนตัวลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะค่าเงินยูโรที่มีการอ่อนตัวลงถึง 25% หรือ 30 บาทต่อ 1 ยุโร เป็น 50 บาทต่อ 1 ยูโร ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ยังมั่นใจว่าการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลังนั้นจะช่วยผลักดันให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาใกล้เคียง 12 ล้านคนอย่างแน่นอน"


นายประกิจ ชินอมรพงษ์ อุปนายกสมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยว่า แม้ว่าตุนทุนการการผลิตสูงขึ้นในทุกๆด้าน อย่างไรก็ตามในส่วนของการปรับราคานั้นทางโรงแรมจะยังไม่สามารถปรับราคาได้เพราะได้มีการเซ็นสัญญาไปจนถึงปีหน้าแล้วทำให้ต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นต่อไป แต่อาจจะปรับตัวโดยหันมาปรับราคาค่าอาหารขึ้นแทน เป็นต้น


เช่นเดียวกับนายสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทรัล ที่กล่าวว่าในขณะนี้โรงแรมยังไม่ปรับราคาขาย เนื่องจากยังมีส่วนต่างของราคากับเอเย่นต์อยู่มาก ที่น่ากระทบจะเป็นเรื่องของการขนส่ง ทั้งตั๋วเครื่องบิน รถบริการนำเที่ยว ฯลฯ ซึ่งจะส่งผลถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางระยะไกล อย่าง จากยุโรป หรืออเมริกา มีต้นทุนในการท่องเที่ยวเพิ่ม และอาจจะลดระยะวันพักให้สั้นลง


-จัดสรรเชื่อครึ่งปีหลังรับศึกหนัก


นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดาเคหะ จำกัด เจ้าของโครงการบ้านกานดา เปิดเผยว่า ผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้มี 2 ด้านด้วยกัน คือ ในเรื่องของราคาวัสดุก่อสร้าง และในเรื่องกำลังซื้อของประชาชน โดยกำลังซื้อบ้านของประชาชนในครึ่งปีหลังอาจมีการชะลอตัวลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบ้านราคาแพงเพราะกำลังซื้อกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีธุรกิจส่วนตัวในแง่ของจิตวิทยาแล้วจะมีความอ่อนไหวไปตามกระแส ส่วนบ้านราคาระดับกลาง-ล่างยังพอไปได้


ส่วนการปรับตัวของผู้ประกอบการนั้น จะต้องมีการควบคุมค่าใช้จ่ายที่เกิดจากต้นทุนและไม่ควรเปิดโครงการที่มีขนาดใหญ่ในช่วงนี้ หรือหากเปิดโครงการไปแล้วควรจะแบ่งพัฒนาเป็นเฟสและควรลดระดับบ้านลงมาหันจับตลาดกลาง-ล่าง ที่มีขนาดตลาดที่ใหญ่ ทั้งนี้เชื่อว่ามาร์จิ้นของบริษัทพัฒนาที่ดินในปีนี้จะต้องลดลงอย่างแน่นอน


ขณะที่นายศักดา โควิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีทูบี ลีฟวิ่ง จำกัด ผู้พัฒนาโครงการบ้านลีลาวดี กล่าวยอมรับว่าหากเหตุการณ์เป็นอย่างนี้เชื่อว่าครึ่งปีหลังธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คงจะไม่โตอย่างที่ผู้ประกอบการหลายค่ายคาดการณ์ไว้


-ถามทักษิณศก.ดีแต่ทำไมคนเดินดินกำลังจะตาย


นายเสงี่ยม ระวังไน พ่อค้าก๋วยเตี๋ยวเป็ด-ไก่ ถนนพระราม 9 กล่าวว่า ราคาแก๊สขึ้น 60 สตางค์ต่อกิโลกรัม ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นมาก ขายทุกวันนี้แทบไม่มีกำไรอยู่แล้ว อยากให้ภาครัฐมาดูหน่อย เพราะเดือนที่ผ่านมาก็เพิ่งขึ้นราคาก๋วยเตี๋ยวแล้ว 5 บาท จากที่ขายชามละ 20 ก็ขึ้นเป็น 25 บาท จำนวนลูกค้าลดลงไปมาก เช่นเดียวกับ พ่อค้าข้าวแกง ถนนรัชดาภิเษก กล่าวว่า นับแต่ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นมา พบว่าลูกค้าหายไปมาก จากที่เคยซื้อราคาแกง 2-3 อย่างก็เหลือราดอย่างเดียว หรือเคยซื้อใส่ห่อกลับบ้าน 5 อย่างก็เหลือเพียง 3 อย่าง มีบางคนลดลงเหลือแค่ 1 อย่างก็มี ต่างจากที่รัฐบาลบอกว่าเศรษฐกิจดี แต่หารู้ไม่ว่าพวกเราคนเดินดินหาเช้ากินค่ำ กำลังจะตายละครับ


อีกคำถามหนึ่งที่น่าสนใจที่กลุ่มผู้ประกอบการมให้ความเห็นสอดคล้องต้องกันว่าสถานการณ์ด้านแรงงานเป็นเรื่องที่น่าวิตกอย่างมาก หากเสถียรภาพราคาน้ำมันในประเทศยังพุ่งอย่างต่อเนื่อง ก็จะส่งผลให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานอุปโภค-บริโภค ก็จะมีโอกาสถูกเลิกจ้างหรือชะลอการรับเพิ่มเป็นอันดับแรก รวมถึงอุตสาหกรรมที่เป็นสินค้าไม่จำเป็นหรือสินค้าฟุ่มเฟือย เนื่องจากผู้ซื้อจะชะลอซื้อเป็นอันดับแรก


"ถือเป็นอีกครั้งในรอบหลายปี ที่ปฏิบัติการเลย์ออฟแรงงานจะกลับมาอีกครั้ง หลังเกิดวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อปี2540 ด้วยเหตุนี้ภาครัฐบาล จะต้องเร่งหามาตรการขึ้นมารองรับและแก้ไขปัญหาการว่างงานเป็นการด่วนก่อนที่จะขยายวงกว้างและลงลึกมากขึ้นในทุกจุดและทุกสาขาธุรกิจ"


-สนพ.หวั่นราคาน้ำมันบิดเบื้อนมาก


ด้านดร.เทียนไชย จงพีร์เพียร ที่ปรึกษาสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) กระทรวงพลังงาน ให้ความเห็นว่า จากที่รัฐบาลออกมายืนยันที่จะให้มีการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไปจนถึงสิ้นปีนั้น มองว่า เป็นการดำเนินงานที่ไม่ถูกต้อง เพราะจะทำให้ส่วนต่างของราคาน้ำมันดีเซลและเบนซิน ห่างออกไปเรื่อยๆ เป็นการบิดเบือนโครงสร้างราคาน้ำมันที่เป็นอยู่ ซึ่งจะเป็นการส่งสัญญาณให้ผู้บริโภคหันไปใช้น้ำมันดีเซลในปริมาณที่มากขึ้นแทน ที่สำคัญจะมีปัญหาตามมาในอนาคต ว่าจะจัดหาน้ำมันดีเซลให้เพียงพอต่อความต้องการได้อย่างไร ในเมื่อปัจจุบันการผลิตน้ำมันเบนซินและดีเซลสมดุลยกันอยู่ หากกลั่นน้ำมันดีเซลในปริมาณมาก ก็จะทำให้เหลือน้ำมันเบนซินเพื่อการส่งออกมากขึ้น ทางรัฐบาลจะหาทางแก้ปัญหาการสมดุลย์การผลิตน้ำมันได้อย่างไรในอนาคต


"หากรัฐบาลยังตรึงราคาต่อไป โครงสร้างราคาจะยิ่งบิดเบือนมากขึ้น และที่สำคัญจะทำให้คนใช้ดีเซลไม่เกิดการประหยัดน้ำมัน เพราะเห็นว่าน้ำมันดีเซลยังราคาถูกอยู่ ทางที่ดีรัฐบาล ควรจะสอบถามความคิดเห็นประชาชน ว่าสมควรที่จะให้ยกเลิกการตรึงราคาน้ำมันดีเซลหรือไม่ และนำข้อมูลมาตีแผ่ให้ประชาชนรับทราบว่า หากจะต้องปรับราคาน้ำมันดีเซลขึ้นลิตรละ 1 บาท จะกระทบสินค้าชนิดใด ในปริมาณที่เท่าใด"


ส่วนการปล่อยลอยตัวน้ำมันเบนซินนั้น ขณะนี้รัฐบาลมีแนวทางไว้อยู่แล้ว ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์หน้า อาจจะมีการปรับราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง