หน้า 1 จากทั้งหมด 1
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 01, 2004 10:00 pm
โดย +++unlog
55555555
หุ้นไร้สภาพคล่องแบบนี้
ถามหาเหตุผลคงลำบากมั๊งครับ
อยากรู้คงต้องถาม เมีย หรือแม่ยาย เจ้าของอ่ะ อิอิ...
แต่ผมว่า VI ส่วนใหญ่ จะยิ้มนะครับ อิอิ...
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 02, 2004 8:56 am
โดย huey
ค่ายน้ำดำเขาก็มีผลิตภัณฑ์ชาจำหน่ายด้วยนะครับ ค่ายนึงขายLIPTON อีกค่ายนึงขายNESTEA
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 02, 2004 9:09 am
โดย บุคคลทั่วไป
หุ้นตัวนี้เมือปีก่อนเป็นหุ้นที่ผมต้องการเป็นเจ้าของมาก แต่พอกระแสสุขภาพ
มาแรง เช่น ชาเขียว มาทำให้รู้สึกว่า คนน่าจะดื่มน้ำดำ น้อยลง กับตัวเราเอง
ยังดื่มน้อยลง ขนาดราคาตอนนี้ลงมาจากปีที่แล้วพอควร ก็ยังไม่อยางเป็น
เจ้าของเลย
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 02, 2004 5:26 pm
โดย บุคคลทั่วไป
ทำไมหาดทิพย์ไม่ลงด้วยหล่ะ
ยอดขายตกมั๊ย ครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 02, 2004 5:28 pm
โดย บุคคลทั่วไป
ถ้าเป็นเรื่องกระแส ชาเขียว หรือเรื่องสุขภาพ ก็น่าจะตกด้วยมั๊ยครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 02, 2004 6:41 pm
โดย Golden Stock.
ผมมองว่าปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น การจะกินหรือดื่มอะไร ก็จะคำนึงถึงคุณประโยชน์มากกว่าเดิม โดยเฉพาะตั้งแต่คนวัยทำงานขึ้นมา
ผมมองว่าปรากฏการณ์นี้ ไม่ใช่กระแส แต่เป็นจิตสำนึกที่ถูกสร้างขึ้นของคน ซึ่งไม่ได้เกิดเพียงช่วงข้ามคืน แต่ค่อยๆ ปลูกฝังมานานนับปี ทั้งนี้มากจากการที่คนมีการเข้าถึงแหล่งความรู้ได้มากขึ้น มีการเผยแพร่ความรู้ในเรื่องโภชนาการต่างๆ ตามสื่อต่างๆ มากมายในปัจจุบัน
พูดถึงน้ำอัดลม การแข่งขันทางตรงก็ค่อนข้างสูง ถึงแม้ว่าจะมีคู่แข่งขันน้อยราย แต่ถ้ามองถึงคู่แข่งขันทางอ้อม บอกได้เลยว่านับไม่ถ้วน อีกทั้งในปัจจุบันเครื่องดื่มที่เป็นคู่แข่งขันทางอ้อม และที่เป็นสินค้าทดแทนนั้น มีการจัดการและการตลาดที่ดีเยี่ยมกว่าเมื่อสมัยเป็นสิบปีก่อนนั้นมาก ก็ลองสังเกตุจากอัตราการเติบโตดูได้ว่าเมื่อสิบปีก่อนเป็นเท่าไหร่ ปัจจุบันเป็นเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมน้ำอัดลมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
จุดที่สังเกตอีกอย่างคือ ปัจจุบันราคาน้ำอัดลมไม่ขยับเลย ถึงแม้ว่าต้นทุนการผลิตต่างๆ จะเพิ่มขึ้น ทั้งนี้อาจตีความได้ว่า ในปัจจุบันการแข่งขันสูงมากทั้งทางตรงและทางอ้อม ถ้าขยับราคาขึ้น คนจะหันไปบริโภคน้ำดื่มประเภทอื่นกันจนกระทบต่อยอดขายค่อนข้างสูง
ส่วนที่ SSC เคยคุยถึงจุดแข็งในเรื่องการกระจายสินค้าของเขานั้น ก็เป็นแค่ P หนึ่งใน 4 P's ถ้าหากอีก 3 P's อ่อน ไม่ยากที่จะประสบความสำเร็จในด้านการตลาด ดังจะสังเกตได้จากผลิตภัณฑ์ต่างๆ หลายตัว ที่ SSC ออกจำหน่ายไม่ได้ประสบความสำเร็จ (อาจจะถามว่าวัดจากอะไรที่ว่าไม่ประสบความสำเร็จ ก็วัดจากเป้าหมายทางการตลาดของบริษัทครับ ในสินค้าที่ออกมาแต่ละตัว ผู้บริหารออกมาบอกว่าจะต้องติด 1 ใน 3 ของตลาด)
สรุปผมมองว่า ความสำเร็จที่ผ่านมาของ SSC มาจากตราสินค้า PEPSI ที่ต่างประเทศเขาสร้างมาก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นการนำผลิตภัณฑ์เข้ามาก็ทำให้ง่ายขึ้น อีกทั้งเมื่อก่อนคู่แข่งขันมีน้อย อีกทั้งคู่แข่งขันส่วนใหญ่มีข้อจำกันในเรื่องของเงินทุน องค์ความรู้ เช่น การจัดการ การผลิต การตลาด แต่ในปัจจุบันปัจจัยต่างๆ เหล่านี้เปลี่ยนแบบหน้ามือเป็นหลังมือ และรายได้ของ SSC ก็ไม่ได้แบบเต็ม ยังต้องแบ่งส่วนกำไร หรือค่าสิทธิ์ในการผลิตอีก ทำให้ผมมองว่า SSC ไม่ได้มีความน่าสนใจอะไรมากนัก เมื่อเทียบกับราคาหุ้นในปัจจุบัน
ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นของผม การตัดสินใจกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคุณครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 02, 2004 7:07 pm
โดย Golden Stock.
เสริมอีกนิดครับ
การแสดงความความเห็นของผมไม่ได้เป็นการเปรียบเทียบเป็ปซี่กับชาเขียวนะครับ แต่พูดถึงเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นคู่แข่งขันทางอ้อมของเป็ปซี่ เช่น น้ำผัก น้ำผลไม้ น้ำชาเขียว นม นมเปรี้ยว และอื่นๆ อีกมากมายครับ
ปล. พอดีได้อ่านเต็มๆ แล้วรู้สึกว่าพิมพ์ผิดพิมพ์ไปหลายตัวเหมือนกัน ^_^
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 02, 2004 9:17 pm
โดย ประจวบ
หุ้นเป๊ปซี่เป็นหุ้นแนวviแนวชั้นดีตัวนึงครับ
เป๊ปซี่อยู่มานานมากในบ้านเราก่อนมี มาม่าและ ตลาดหุ้นซะอีก
ตั้งแต่ผมยังเด็กๆ(นานมากแล้วครับ)จำได้ว่า
ที่บ้านจะซื้อไว้2ลัง หมดหามาเติมใหม่
เพราะอาม่าอยากให้หลานกินของอร่อย(อาม่าก็ชอบ)
ราคาตอนนั้นขวดละ1.5บาท(เท่าก๊วยเตี๊ยว1ชาม)
ไม่ใช่เฉพาะเด็กๆหรือผู้ใหญ่ชอบกินนะครับ
จ้าว ก็ชอบ เวลาไหว้จ้าวทีไร ต้องซื้อเพิ่มเป็น4ลังมาไหว้ทุกครั้ง
เป๊ปซี่ผ่านร้อน ผ่านหนาว
น้ำตาลถูก น้ำตาลแพง น้ำมันขึ้นราคา ค่าขนส่งเพิ่ม
ปฎิวัติ 14ตค 6ตค พค .ทมิฬ จิ๋วลอยค่าเงินบาท.....
เค้าก็ผ่านมาแล้วทั้งนั้นในบททดสอบของกาลเวลา
ยอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆและมีกำไรมาตลอด ไม่เคยขาดทุน
โดยเฉพาะปันผล
ผมลองย้อนดูข้อมูลได้ถึงปี2534
เค้าปันผลทุกปี เว้นแค่ปีเดียวคือปี2541
ที่พี่จิ๋วลอยค่าเงินบาทหมาดๆเว้นไปเพียงปีเดียว
ถ้าซื้อตามราคาตลาด ณ.ปัจจุบัน จะได้ปันผล4%
ที่ผมเขียนนี้ไม่ได้เชียซื้อแต่ประการใดครับ
แต่เวลาที่พวกเราดูเหตุการณ์ใด
มักจะมองเป็น "จุด" ไม่ได้มองเป็นช่วงยาวๆๆๆ
กระแสชาเขียว หรือสุขภาพหรือน้ำมันแพง..อื่นๆก็มีมาเรื่อยๆครับ
ผู้บริหารก็ต้องปรับตัวไปตามเหตุ
แต่อย่างน้อยเค้าก็มีผลงานให้เราได้ผ่านตามาแล้ว
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 04, 2004 9:02 am
โดย **kisana**
สำหรับผมคิดว่า SSC ถือได้ตลอดชีวิต ราคาที่คุณซื้อเป็นตัวกำหนดกำไรในอนาคตว่าน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน PB ประมาณ 1 ผมคิดว่าถูกครับ บริษัทมีความแข็งแกร่างแบบนี้ ซื้อทั้งกิจการ 5 พันกว่าล้าน กำไรปีละ 5-6 ร้อยล้าน กำไรสะสม 3-4 พันล้าน ต่อให้เกิดวิกฤต บริษัทก็ไม่เจ๊งง่ายๆๆ ok ครับ แถมมีแบรนด์ดีๆๆที่หาตัวจับยากอีก ราคานี้น่าสนใจ ถ้าราคาลงมาเห็นเลข 1* ยิ่งน่าสนครับ
adas
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 04, 2004 6:09 pm
โดย asdas
adsas
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 05, 2004 5:12 pm
โดย เซียน
หุ้นตัวนี้ ในเร็วๆนี้จะประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นแน่
ดูจากกำไรครึ่งปีและcash flow ส่วนสาเหตุที่ราคาลงมา
น่าจะมีการขายเพื่อกดเอาของ ของคนบางกลุ่ม
โดยรวม สำหรับVI น่าจะทยอยเข้าซื้อ ราคาน่าจะยืนอยู่ที่ราคาเหมาะสม
บริเวณ25 +/- ได้ไม่ยาก
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 05, 2004 5:32 pm
โดย เสพติด
ผมคนหนึ่งครับที่ติดเป๊ปซี่
โค้ก ไม่อร่อยเลย ไปไหนก็ติดปากว่าเป๊ปซี่
ตรุษจีน เช็งเม้งก็ไหว้เป๊ปซี่
ดูๆแล้ว เป๊ปซี่ไม่มีวันตายครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 09, 2004 8:25 pm
โดย **kisana**
ผมคิดว่าราคานี้น่าสนใจครับ ถ้าเห็นเลข 1* ยิ่งน่าสนครับ
คิดดูครับ ธุรกิจที่เป็นผู้นำอันดับ 1 ไม่ใช่สร้างมาแค่ 1 วันนะครับ และคู่แข่งก็ไม่ได้ทำลายได้ใน 1 วันเหมือนกันครับ ผมว่าราคา ลงแปลกๆ คนอาจจะขายหุ้นนี้แล้วไปซื้อหุ้นที่ร้อนกว่าเป็นได้ครับ แต่ยังๆไงๆ ก็แนะนนำให้มีใน Port ครับ ไม่น่ากลัวครับ อนาคตยังดูดีอยู่ครับ ถ้ายิ่งเป็น Vi ถือไว้เลยครับผมว่าเลข 3* มีให้เห็นอีกแน่ครับ