หน้า 1 จากทั้งหมด 1

...ไม่ได้มาป่วนนะครับ...มาแลกเปลี่ยนความเห็นกัน

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 29, 2004 12:16 am
โดย บุคคลทั่วไป
http://www.thaivalueinvestor.com/investorguide26.html

ก่อนอื่นต้องขอบอกนะครับ ว่าผมชอบทั้งวอร์เรน บัฟเฟต์ และ ดร.นิเวศน์
ในลักษณะที่ เขารู้จริงในสิ่งที่ตัวเองทำ

หมายถึง ทำในสิ่งที่ตัวเองรู้ และ รู้ในสิ่งที่ตัวเองทำ

เคยอ่านประวัติทั้งสองท่าน เห็นได้อย่างชัดเจนว่า มีพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์ การเงิน การบัญชี ที่ดีมาก

เห็นด้วยในแนวคิดหลายๆอย่าง แต่ไม่ทั้งหมด
มีบางอย่างได้นำมาประยุกต์ใช้ในการลงทุนด้วยและ

ไม่แปลกใจในความสำเร็จ และแนวทางที่เขาทั้งสองคนเป็นอยู่

แต่สิ่งหนึ่งที่โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่เคยเห็นด้วยเลย คือ
การที่ทั้งสองคนนี้ ปฏิเสธการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยสิ้นเชิง

ผมไม่เห็นด้วย ก็เพราะ ผมเชื่อว่า ทั้งสองคนนี้ไม่เคยศึกษา หรือ ศึกษาแล้ว
ไม่เข้าใจถึงแก่นแท้ของการวิเคราะห์ทางเทคนิค เพราะ มันไม่ได้ไร้สาระขนาดนั้น

แต่อาจจะเป็นเพราะ เขาทั้งสอง มีดี อยู่แล้ว และไม่จำเป็นต้องแสวงหาอะไรอื่นอีก
แต่นั่น ไม่ได้เป็นเหตุผลว่า สิ่งอื่นนอกจากนี้ มันใช้ไม่ได้

โดยส่วนตัว ผมเรียนมาทางด้านวิศวกรรมและบริหารธุรกิจ ศึกษาด้านการลงทุนมาทั้งสองแบบ

เวลาเข้ามาอ่านในเวบนี้ ไม่เคยที่จะไม่เห็นด้วย กับแนวคิดด้าน VI

แต่งงนิดนึง ว่าทำไมชาวVI บางคน ถึงเชื่อว่า แนวทางนี้เป็นแนวทางเดียวที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในการลงทุน
และหลายคนปฏิเสธแนวคิดในการวิเคราะห์ทางเทคนิคโดยสิ้นเชิง ซึ่งผมเชื่อว่า คงได้รับอิทธิพลมาจากทั้งสองท่านข้างบนที่ผมกล่าวมาแน่นอน

ความเห็นส่วนตัว :

ปั่นแปะ หรือหัว-ก้อย กับการวิเคราะห์ทางเทคนิค
ไม่เหมือนกัน

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน กับ การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ไม่ต่างกัน

เพราะต่างก็ใช้ ตัวเลข มาคำนวณ บนความเชื่อ
เพื่อหาเงื่อนไขในการทำกำไรจากเงินลงทุน เหมือนๆกัน


ขอเชิญทุกท่านแสดงความเห็นได้เต็มที่ครับ

[/b]

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 29, 2004 7:34 am
โดย คิดเล่นๆ
VI เป็นการคิดแบบหนึ่ง VS ก็เป็นการคิดอีกแบบหนึ่ง ยังมีการคิดอีกหลายๆแบบ

ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ก็มีหลักการและพื้นฐานของตน

ดีหรือไม่ ชอบหรืออย่างไร คงขึ้นอยู่กับแต่ละคน

การเป็นนักลงทุนที่ฉลาด มีได้หลายทาง หาใช่หนึ่งเดียว

แต่ที่แน่นอน ... มันต้องขึ้นอยู่กับ ตัวเรา ใจเรา

เราเข้าใจหรือเปล่า เรารู้ผลดีผลเสียหรือเปล่า
เราใช้มันได้หรือเปล่า เราสร้างสรรค์มันได้หรือเปล่า
และด้วยความสนับสนุนจากกัลยาณมิตรรอบข้าง

ความสำเร็จ ก็ยิ่งใหญ่ได้ แม้จะไม่กำไรสูงส่ง

แต่ไม่ว่า VI, VS หรือ Vไหนๆ
หากไร้ราก ก็กลายเป็นนักพนันกันทั้งนั้น
คนได้ก็ถือเป็นเจ้ามือ คนเสียก็เป็นคนเล่น

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 29, 2004 7:51 am
โดย ม้าเฉียว
หลายคนอาจจะสับสนว่าทำไม VIหลายท่านถึงไม่มองทางเทคนิคมากนัก และอาจไม่สนใจเลย ไม่ใช่เพราะมันไร้สาระ แต่การวิเคราะห์ทางเทคนิคมันเหมาะกับการลงทุนระยะสั้นมากกว่า การวิเคราะห์ติดตามการเปลี่ยนแปลงของราคา และกำลังซื้อ อาจทำนายแนวโน้มการซื้อขายในระยะสั้นได้ แต่หากทำนายในระยะเวลายาวออกไปเท่าใดยิ่งมีโอกาสผิดพลาดได้มากเท่านั้น
ในเมื่อความแม่นยำในการทำนายระยะยาวมีน้อย ในขณะที่การลงทุนของ VI ส่วนใหญ่เลือกที่จะลงทุนระยะยาว เพราะการลงทุนของ VI ที่แท้นั้น มองเรื่องค่าเสียโอกาสเป็นเรื่องสำคัญ การซื้อขายระยะสั้นมีค่าเสียโอกาสมาก เป็นค่าเสียโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนที่ดีแบบต่อเนื่องในระยะยาว และหาก บริหารพอร์ตให้ดีหุ้นที่ถืออยู่ก็จะเกือบไม่มีต้นทุน หรือไม่มีต้นทุนเลย ตรงนี้คือประเด็นสำคัญที่ตอบคำถามของหลายคน เช่น ถ้าเราดูทางเทคนิคแล้วหุ้น A ซึ่ง VI ท่านหนึ่งถืออยู่ ราคามีแนวโน้มลดลงจาก 10 บาท เป็น 8 บาท ในขณะที่ VI ท่านนี้มีต้นทุนที่ 5 บาท ทำไมเค้าไม่ขายหุ้นนี้เสียตอน 10 บาท แล้วไปซื้อคืนที่ 8 บาท เค้าก็จะได้กำไรจากส่วนต่างของราคา 2 บาท และก็มีหุ้นอยู่เหมือนเดิม แต่ทำไม VI ท่านนี้จึงไม่ยอมขาย แถมยังยอมให้กำไรลดลงต่อหน้าต่อตา 2 บาท ทำไมเค้าไม่สนใจการวิเคราะห์ทางเทคนิคเลยเหรอ
VI ท่านนี้อาจจะตอบว่า จะไปรู้แน่ชัดได้ยังไงว่ามันจะลงมาจริงๆ มันคาดการณ์ยาก แต่คำตอบนี้ไม่ใช่สาระสำคัญเท่าใดนัก แต่ทีสำคัญ คือ การขายตอน 10 บาท แล้วมาซื้อตอน 8 บาทนั้น เค้ามีค่าเสียโอกาสมากเหลือเกิน เค้าเสียโอกาสที่จะได้ถือหุ้นที่ต้นทุนถูกมากเพียง 5 บาท และมีค่าเสียโอกาสที่จะได้ความสบายใจจากการลงทุน เพราะยิ่งตุ้นของหุ้นสูงเท่าใด (เช่นจาก 5 บาท เป็น 8 บาท) ความสบายใจในการลงทุนของเค้าก็จะลดลงมากเท่านั้น
เมื่อการวิเคราะห์ทางเทคนิคให้ประโยชน์กับการลงทุนระยะยาวน้อย VI ก็ย่อมให้ความสำคัญต่อแนวทางการวิเคราะห์ดังกล่าวน้อยเช่นกัน
แล้วถ้าถามว่า VI จะใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคได้ไหม ก็ต้องตอบว่าได้ โดยเฉพาะ VI ที่เบี้ยน้อยหอยน้อย แต่ต้องการสะสมความมั่งคั่งให้พอกพูน ต้องเก็บเงินซื้อหุ้นแบบค่อยๆซื้อไปเรื่อยๆ 1-3 เดือนครั้ง ก็อาจจะใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเข้าช่วย เพื่อหาจังหวะเข้าซื้อหุ้นตอนที่มีราคาลดลง

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 29, 2004 11:24 am
โดย คนใต้ต้นคูน
ผมเพิ่งเข้าตลาดหุ้นได้ไม่ถึงปี ปอดติดลบอยู่ประมาณ 10 % ในหนึ่งปีมานี้ผมซื้อมาก แต่ได้ขายน้อยมาก (สงสัยอยู่ดอย) สิ่งที่ผมตั้งใจอยากทำให้ได้ที่สุด 2 อย่าง แต่ยังทำไม่ได้ซักที่ คือ
1 ผมวางยุทธศาสตร์การเล่นหุ้นตามแนว VI แต่
2 ผมวางยุทธวิธีการซื้อขายหุ้นตามแบบ VS

ไม่รู้เหมือนกันว่าผิดหรือถูก ผมว่าอีกสัก 3 ถึง 5 ปี ผมมีคงมีคำตอบ