หน้า 1 จากทั้งหมด 1
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 03, 2004 8:49 pm
โดย หวังหวัง
ผู้ถือหุ้นบางท่าน รู้สึกจะถือ TMD ด้วยนะครับ คุ้นๆ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 04, 2004 1:32 pm
โดย บุคคลทั่วไป
ผมเองก็เคยสนใจหุ้นตัวนี้ครับ แต่ประเด็นที่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเพื่อทำให้ราคาตลาดสะท้อนมูลค่าของที่ดินหรือเปล่านี่สิครับที่น่าคิด เรื่องที่ SFP มีที่ดินเยอะซึ่งมีมูลค่าตลาดสูงแต่บันทึกในงบในราคาแค่ 100 กว่าล้านนั้น เคยมีคนวิเคราะห์ไว้ในปี 1999 ครับ ผมพาย้อนอดีตนิดนึงนะครับ ตอนนั้น SFP ได้มีการขายที่ดิน 6000 กว่าไร่ให้เหมราชเพื่อแลกกับหุ้นในสัดส่วน 40 % ใน ESIE อย่างที่คุณลูกอีสานกล่าวถึงแล้ว ณ ตอนนั้นคือปี 1999 ESIE ขายที่ดินไป 4700 ไร่แล้วและยังเหลือที่ดินอีกประมาณ 1500 ไร่ ตอนนี้ผมเองก็ไม่รู้ว่ายังมีที่ดินเหลืออยู่อีกหรือไม่ เพราะมันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ในปี 1999 SFP มีที่ดินทั้งหมด 17632 ไร่ (ไม่รวม ESIE) สำหรับที่ดินประมาณ 13000 ไร่ในเขตจังหวัดชลบุรีที่ติดกับระยองซึ่งบันทึกไว้ในงบที่ราคาทุนที่ ไร่ละ 3000 บาท มีราคาตลาดที่ไร่ละ 250,000 บาท เฉพาะที่ดินตรงนี้ก็มีมูลค่า 2600 ล้านเข้าไปแล้ว ตอนนั้น ราคาหุ้น SFP อยู่ที่ประมาณ 68 บาท
cash + short term investment = 133 m.
current assets= 884.61 m.
bank od = 11.96 m.
total current liabilities= 245.45 m.
no long term liabilities
sales ( 6 months as of 30/06/1999) = 1085.71 m.
eps ( 6 months ) = 12.27 บาทต่อหุ้น, book value= 80.49 บาท
เมื่อเราดู p/e, p/b และ hidden assets แล้วจะพบว่าหุ้นถูกมาก เวลาได้ผ่านมา 5 ปีแล้ว ตอนนี้ราคาหุ้นเท่ากับ 89 บาท และยังไม่มีการ unlock value
............................ประสบการณ์ส่วนตัวผม ผมเองก็ชอบลงทุนในหุ้นที่มีสินทรัพย์ซ่อนเร้นเหมือนกันเพราะมันเห็นๆเลยว่าเราซื้ออะไรมาถูกแค่ไหน แต่ประเด็นที่คุณ invisible hand เขียนนั้นก็เป็นเรื่องสำคัญยิ่งครับ ยังไงเราก็เป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยอยู่นั่นเอง แต่เรื่อง unlock value นี่มันก็ไม่แน่ครับ เกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 04, 2004 11:33 pm
โดย ผ่านมา
เรื่อง asset play ผมเห็นว่า ควรดูให้รอบคอบครับ ปีเตอร์ ลินซ์ ก็เคยพูดถึงไว้ใน One up ... เกี่ยวกับเรื่องนี้
ในแง่ผลประกอบการ ปกติไตรมาส 3 เป็นนอกฤดูกาลสับปะรด จะไม่ค่อยมีผลกำไรเท่าไหร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากธุรกิจหลัก ส่วน 2 ไตรมาสแรกของปีนี้ กำไรลดลงจากปีที่แล้วครับ ความจริงปีที่แล้วกำไรสามไตรมาสแรกราว 100 ล้าน (ซึ่งก็ไม่ค่อยดีนักเทียบกับปีก่อนหน้าคือปี 2002 ที่สามไตรมาสทำได้ 160 ล้าน) แต่ในไตรมาส 4 ปีที่แล้วไตรมาสเดียวกำไรขึ้นมาประมาณ 100 ล้าน ถ้าจำไม่ผิด ส่วนหนึ่งเป็นรายได้อื่นที่ได้มาจากการขายที่ดินครับ ซึ่งนักลงทุนหลายคน น่าจะชอบกำไรที่ได้มาจากธุรกิจหลักมากกว่ากำไรลักษณะนี้ เพราะกำไรจากรายได้อื่นนั้นเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้
มีปัจจัยบวกอยู่บ้าง เช่น เงินบาทที่เริ่มอ่อนลงอาจจะช่วยผลประกอบการปีนี้ขึ้นมาบ้าง ผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ ข้าวโพดหวาน และผลไม้แช่แข็งโดยใช้เทคนิคแบบใหม่ แต่ก็น่าจะรอดูก่อน ผมว่าจะดีกว่านะครับ
วันนี้ราคาขึ้นมาค่อนข้างมาก ไม่ทราบเกี่ยวกับกระทู้นี้หรือไม่ ส่วนตัวผมคิดว่า ควรจะระวังสักนิด สำหรับคนที่คิดจะไล่ราคาซื้อครับ
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 17, 2004 9:22 pm
โดย อิอิอิอิ
ผมสงสัยว่าคุณเจ้าของกระทู้จะมี อินไซด์กับหุ้นใหญ่ครับ
ออกของก่อนผลกำไรออกแบบ ขาดทุนเละเทะ