หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เศรษฐกิจปีหน้า

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 31, 2004 10:43 pm
โดย น้องใหม่ขอคำแนะนำ
ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา ตลาดก็ลงมาโดยตลอดพร้อมกับข่าวร้ายที่ทยอยๆ
เข้ามาไม่ขาดสายทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ทั้งน้ำมันที่ขึ้นไปสูงเป็นประวัติการณ์
เงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ต้นทุนการผลิตในธุรกิจต่างๆสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เศรษฐกิจสหรัฐที่ยังไม่มีความแน่นอน การตั้งใจให้ชลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน การเพิ่มขึ้นต่อเนื่องของดอกเบี้ย ความไม่แน่นอนของภาพใต้
อีกทั้งการลอยตัวของราคาดีเซลในปีหน้า
ไม่ทราบว่าจะทำให้เศรษฐกิจปีหน้า จะชลอตัวไหมครับในความคิดของพี่ๆ
แล้วคิดว่าจะทำให้การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ในปีหน้าจะอันตรายไหมครับ
ไม่ทราบว่าถ้าผมจะเข้าซื้อหุ้นพื้นฐานในช่วงนี้แล้วถือยาวไปเลยสัก 1 ปี
จะเป็นอันตรายไหมครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 01, 2004 8:41 pm
โดย เจ้าของกระทู้
ขอบคุณครับที่เข้ามาให้ความคิดเห็นกัน
แล้วในแง่ของเศรษฐกิจปีหน้าล่ะครับ พี่ๆคิดว่าอย่างไรครับ
จะถึงขั้นชะลอตัวไหมครับ คือผมรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจกับ
เศรษฐกิจในปีหน้าเท่าไหร่ แต่คนในรัฐบาลหลายๆคน
ก็ออกมาบอกว่าไม่มีปัญหา แต่มันขัดกับความรู้สึกของผมอ่ะครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 02, 2004 8:42 am
โดย น้องใหม่ขอคำแนะนำ
บทความกรุงเทพธุรกิจ วันที่ 2/11/04


ดัชนีหุ้นไทยยังดิ่งไม่ถึงก้นเหว
เตือนเลี่ยงลงทุนกลุ่มปิโตรฯ-ชิปปิ้ง-ก่อสร้าง

นักวิเคราะห์ชี้ดัชนีหุ้นไทยยังไม่ถึงก้นเหว ยังดิ่งลงต่อได้อีก เตือนให้เลี่ยงลงทุนในกลุ่มปิโตรฯ ชิปปิ้ง และวัสดุก่อสร้างผลกระทบจากนโยบายของจีน ส่วนกลุ่มแบงก์และสื่อสารได้รับผลกระทบไม่มากนัก แจงปัจจัยลบส่งผลกระทบต่อตลาดในเชิงจิตวิทยามาก ยืนยันพื้นฐานเศรษฐกิจประเทศยังดีอยู่ทั้งกำไรบจ. และตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจแข็งแกร่ง



นายแสงธรรม จรณชัยกุล ผู้จัดการฝ่ายวิจัยไทย บล.เอบีเอ็น แอมโร เอเซีย มองแนวโน้มดัชนีหุ้นไทยยังมีโอกาสที่จะปรับตัวลงได้อีก โดยมีแนวรับบริเวณ 620-600 จุด ถึงแม้ว่าในระยะสั้นๆ นี้ ดัชนีจะมีโอกาสรีบาวนด์ทางเทคนิคกลับขึ้นไปได้ก็ตาม แต่กรอบของการรีบาวนด์กลับก็มีจำกัดบริเวณแนวต้าน 660-670 จุด ส่วนหนึ่งมาจากแรงเทขายอย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติจากปัจจัยลบทั้งภายในและภายนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการที่ประเทศจีนจะเปลี่ยนนโยบายในการบริหารเศรษฐกิจของประเทศใหม่ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศคู่ค้าในภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งประเทศไทยด้วย หรือปัจจัยภายในประเทศเรื่องความไม่สงบในภาคใต้ เหล่านี้อาจจะส่ง


ผลกระทบให้ปัจจัยพื้นฐานของประเทศในอนาคตเปลี่ยนแปลงไปได้ นั่นอาจจะทำให้ต้องกลับมามองพื้นฐานกันใหม่อีกครั้ง

"ช่วงนี้ยังไม่ใช่จังหวะที่จะเข้าไปซื้อหุ้นเพื่อลงทุน โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ คงต้องเล่นเร็วออกเร็วในลักษณะเก็งกำไรในหุ้นตัวเล็กๆ ซึ่งก็คงต้องเลือกกลุ่มที่จะลงทุน รวมถึงหุ้นที่จะเล่นด้วย เพราะดัชนียังมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงได้อีก โดยเฉพาะถ้าแนวรับ 640-630 จุด รับเอาไว้ไม่อยู่ ดัชนีมีโอกาสที่จะปรับตัวลงลึกเลย ส่วนดัชนีจะเข้าเขตขายมากเกินไปหรือไม่นั้น ไม่ได้บอกว่าดัชนีจะต้องรีบาวนด์กลับทุกครั้งไป ดัชนีอาจจะซึมลึกอยู่ในเขตขายมากเกินไปต่อเนื่องสักระยะก็ได้ ตรงนี้ทางเทคนิเคิลแล้วไม่ตายตัว อย่างไรก็ตาม แนวโน้มของค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง และราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น อาจจะส่งผลกระทบต่อพื้นฐานตลาดโดยรวมให้เปลี่ยนแปลงไปได้เช่นกัน ตรงนี้คงต้องจับตาดูกันต่อไป"

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 02, 2004 9:00 am
โดย น้องใหม่ขอคำแนะนำ
ภัทร วิตกสถานการณ์ใต้ลามฉุดจีดีพี 3%

บล. ภัทรออกบทวิเคราะห์เตือนภัยลูกค้าสถาบันต่างชาติระบุปัญหาไฟใต้ที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น ส่งผลลบต่อเสถียรภาพการเมือง "ทักษิณ ชินวัตร" สมัยหน้าเดินนโยบายลำบาก ฉุดจีดีพีโตแค่ 3% เหตุรายได้จากการท่องเที่ยวหดตัวอย่างหนัก ด้านดัชนีหุ้นมีโอกาสแตะ 555 จุด

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 02, 2004 9:43 am
โดย บุคคลทั่วไป
"โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์" ส่งสัญญาณปีหน้าหยุด "มือเติบ"
ตามปกติผู้ที่จะให้ความเห็นทางด้านเศรษฐกิจ หากเอ่ยชื่อก็มีอยู่ไม่มากนัก แต่บุคคลที่คงเส้นคงวามาตลอดในแง่การแสดงความคิดเห็น หนึ่งในนั้นจะมีชื่อ "โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์" ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน เนื่องจากความผันผวนที่ออกอาการมากขึ้นๆ นายโฆสิตได้ให้สัมภาษณ์ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงปรากฏการณ์ดังกล่าว โดยบ่งชี้สถานการณ์ ภาวการณ์ที่ประเทศจะต้องเผชิญหน้าในระยะต่อจากนี้ไปว่า.....

จากประชาชาติธุรกิจครับ ตามไปอ่านที่ http://www.matichon.co.th/prachachat/pr ... 2004/11/01