พี่ๆ chatchai pk8 kyo loso mon money คลายเครียด คะ
พี่ๆ chatchai pk8 kyo loso mon money คลายเครียด คะ
อีกหนึ่งมุมมอง จาก สนธิ ลิ้มทองกุล จากรายการ เมืองไทยรายสัปดาห์ 6 พฤศจิกายน 2547
Quote:
สนธิ น้ำมันกลับไม่น่ากลัว เพราะน้ำมันมันแพงขึ้นยังไงก็ตามมันจะใช้ระยะเวลาหนึ่งปรับตัว วันนี้เราลอยตัวน้ำมันเบนซินไปแล้ว จะสังเกตว่าคนไม่บ่นแล้ว เพราะเริ่มปรับตัวได้ ชิน คือว่าถ้ามันแพงมาก และต้องใช้เงินมากก็ลดการใช้ลง โดยปริยาย ที่น่ากลัวคือว่า ถ้าสหรัฐอเมริกายังใช้นโยบายรุกรานชาวบ้านเขาทั่วโลก การทำสงครามทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นสงครามเพื่อปราบปรามต่อสู้ผู้ก่อการร้ายเป็นสงครามที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า นอน-โปรดัคทีฟ มันไม่ใช่การผลิต มันเป็นนอน-โปรดัคทีฟ สเปนดิ้ง การใช้เงินนั้นถ้าใช้เงินเพื่อลงทุนและมีเครื่องจักรผลิตข้าวของออกมาไม่เป็นไร แต่นี่ลงทุนไปเพื่อทำสงครามมันไม่มีรีเทิร์น ถามว่าวันนี้อเมริกาใช้เงินอยู่ในอิรัก ปีหนึ่งประมาณ 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐ วันนี้อเมริกามีงบประมาณที่ติดลบ อยู่ 540,000 ล้านเหรียญ แปลว่า อเมริกาจำเป็นที่จะต้องพึ่งเงินจากต่างประเทศ เงินจากรัฐบาลไทย เงินจากจีน เงินจากญี่ปุ่น ที่เราส่งออกแล้วได้เป็นดอลลาร์ แล้วเราก็เอาเงินดอลลาร์ที่เราส่งออก ไปซื้อพันธบัตรของอเมริกาเพื่อให้อเมริกาเอาพันธบัตรนั้น เอามารองรับหนี้ตัวเองที่ตัวเองสร้างจากสิ่งต่างๆ เหล่านี้ คำถามมีอยู่ว่า งบประมาณติดลบ 540,000 ล้านนั้นจะติดลบได้ต่อไปอีกนานแค่ไหน นั่นคือสิ่งที่น่ากลัว คุณสโรชาจะเห็นว่า 3 ปีที่ผ่านมานี้ ค่าของเงินดอลลาร์อะเก็นส์ เงินยูโร หายไป 30 เปอร์เซ็นต์ ผมคำนวณอย่างคร่าวๆ ว่านายบุชอีก 4 ปีข้างหน้า ถ้าหากว่านายบุชยังไม่เปลี่ยนนิสัยใจคอหรือยังไม่เลิกการเป็นอันธพาลแบบนี้ต่อไป หรือว่าไม่หาสาเหตุว่าทำไมผู้ก่อการร้ายถึงจงเกลียดจงชังอเมริกาและแก้ปัญหาตรงนั้นผมเชื่อว่าค่าเงินดอลลาร์จะต้องติดลบต่อไป หายไปอีกอย่างน้อย 30-40 เปอร์เซ็นต์ แปลว่าในระยะเวลา 8 ปี เงินดอลลาร์นั้นมูลค่าหายไปประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ และนี่จะเป็นคำตอบโยงกลับมาหาคุณสโรชาว่าทำไมราคาน้ำมันมันแพง ที่ราคาน้ำมันแพง เพราะว่าพวกอาหรับที่ขายน้ำมันออกมา มีความรู้สึกว่ามูลค่าดอลลาร์ที่เข้ามาซื้อน้ำมันวันนี้เมื่อเทียบกับ 10-20 ปีที่แล้ว มันเทียบไม่ได้เลย ถึงแม้ว่าจะเป็นมูลค่าที่สูงกว่า มันยังน้อยกว่ามูลค่าสมัยก่อน พวกอาหรับก็เลยฉลาด เอาราคาน้ำมันไปอิงราคาทองคำ ไม่อิงราคาดอลลาร์ เพราะฉะนั้นทองคำ ปี 2546 ก.ค. ที่ผมพูด บาทละ 4,700 ปีนี้บาทละ 8,000 กว่า ทองคำราคาเท่าไหร่ ดอลลาร์ต้องราคาเท่านั้น นั่นคือที่มาของว่าทำไมน้ำมันจู่ๆ ถึงพรวดมากลายเป็น 50-60 เพราะไปอิงกับราคาทองคำ เพราะว่าทางอาหรับก็บอกว่า เฮ้ย 20 ปีที่แล้ว ฉันเคยขายน้ำมันได้ราคาเท่านี้ เพราะฉะนั้นแล้ว มา 20 ปีนี้ ในเมื่อดอลลาร์มันตก ฉันจะต้องอิงทองคำเหมือนเดิม นายก็ต้องเพิ่มจำนวนดอลลาร์ขึ้นมา คำถามที่กลัวที่สุดคือว่า ล่าสุดจากการที่ผมเช็คในเว็บไซต์ ประเทศต่างๆ อย่างเช่นประเทศไทยคือประเทศที่ไปซื้อพันธบัตรอเมริกัน เดี๋ยวนี้ลดการซื้อลงแล้ว จากแต่ก่อนเคยซื้อ 100 เปอร์เซ็นต์ เดี๋ยวนี้ซื้อ 40 เปอร์เซ็นต์ หายไป 60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถูกแปรสภาพเป็นเงินเยนบ้าง เป็นทองคำบ้าง ไปเป็นยูโรบ้าง อเมริกาก็เลยขาด 60 เปอร์เซ็นต์นี้ เลยต้องวิ่งเข้ามาหาเงินกู้จากในตลาดพันธบัตร ในตลาดหลักทรัพย์ของตัวเอง เมื่อเข้าไปหาเงินกู้ในตลาดหลักทรัพย์ ในตลาดพันธบัตรนั้นดอกเบี้ยอเมริกาก็ต้องขึ้น ดอกเบี้ยพันธบัตรก็ต้องสูงขึ้น เพื่อดึงนักลงทุนมาซื้อ ดอกเบี้ยอเมริกาขึ้น ดอกเบี้ยทั่วโลกก็ต้องขึ้นตาม นั่นคือโลกกำลังก้าวเข้าไปสู่ภาวะของเศรษฐกิจที่จะต้องถดถอยภายในปลายปี 2548 2549 และ 2550
1 จากข้อความด้านบนมีความคิดเห็นยังไงบ้างคะ
2 wg ticon se-ed rpc pdi rgr จะกระทบในทางลบหรือบวกคะ
3 มีหุ้นอะไรที่คิดว่าจะได้ผลบวกจากด้านบนบ้างคะ
รบกวนพี่ๆ ช่วยวิเคราะห์หน่อยค่ะ ขอบคุณมากๆๆๆค่ะ
Quote:
สนธิ น้ำมันกลับไม่น่ากลัว เพราะน้ำมันมันแพงขึ้นยังไงก็ตามมันจะใช้ระยะเวลาหนึ่งปรับตัว วันนี้เราลอยตัวน้ำมันเบนซินไปแล้ว จะสังเกตว่าคนไม่บ่นแล้ว เพราะเริ่มปรับตัวได้ ชิน คือว่าถ้ามันแพงมาก และต้องใช้เงินมากก็ลดการใช้ลง โดยปริยาย ที่น่ากลัวคือว่า ถ้าสหรัฐอเมริกายังใช้นโยบายรุกรานชาวบ้านเขาทั่วโลก การทำสงครามทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นสงครามเพื่อปราบปรามต่อสู้ผู้ก่อการร้ายเป็นสงครามที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า นอน-โปรดัคทีฟ มันไม่ใช่การผลิต มันเป็นนอน-โปรดัคทีฟ สเปนดิ้ง การใช้เงินนั้นถ้าใช้เงินเพื่อลงทุนและมีเครื่องจักรผลิตข้าวของออกมาไม่เป็นไร แต่นี่ลงทุนไปเพื่อทำสงครามมันไม่มีรีเทิร์น ถามว่าวันนี้อเมริกาใช้เงินอยู่ในอิรัก ปีหนึ่งประมาณ 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐ วันนี้อเมริกามีงบประมาณที่ติดลบ อยู่ 540,000 ล้านเหรียญ แปลว่า อเมริกาจำเป็นที่จะต้องพึ่งเงินจากต่างประเทศ เงินจากรัฐบาลไทย เงินจากจีน เงินจากญี่ปุ่น ที่เราส่งออกแล้วได้เป็นดอลลาร์ แล้วเราก็เอาเงินดอลลาร์ที่เราส่งออก ไปซื้อพันธบัตรของอเมริกาเพื่อให้อเมริกาเอาพันธบัตรนั้น เอามารองรับหนี้ตัวเองที่ตัวเองสร้างจากสิ่งต่างๆ เหล่านี้ คำถามมีอยู่ว่า งบประมาณติดลบ 540,000 ล้านนั้นจะติดลบได้ต่อไปอีกนานแค่ไหน นั่นคือสิ่งที่น่ากลัว คุณสโรชาจะเห็นว่า 3 ปีที่ผ่านมานี้ ค่าของเงินดอลลาร์อะเก็นส์ เงินยูโร หายไป 30 เปอร์เซ็นต์ ผมคำนวณอย่างคร่าวๆ ว่านายบุชอีก 4 ปีข้างหน้า ถ้าหากว่านายบุชยังไม่เปลี่ยนนิสัยใจคอหรือยังไม่เลิกการเป็นอันธพาลแบบนี้ต่อไป หรือว่าไม่หาสาเหตุว่าทำไมผู้ก่อการร้ายถึงจงเกลียดจงชังอเมริกาและแก้ปัญหาตรงนั้นผมเชื่อว่าค่าเงินดอลลาร์จะต้องติดลบต่อไป หายไปอีกอย่างน้อย 30-40 เปอร์เซ็นต์ แปลว่าในระยะเวลา 8 ปี เงินดอลลาร์นั้นมูลค่าหายไปประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ และนี่จะเป็นคำตอบโยงกลับมาหาคุณสโรชาว่าทำไมราคาน้ำมันมันแพง ที่ราคาน้ำมันแพง เพราะว่าพวกอาหรับที่ขายน้ำมันออกมา มีความรู้สึกว่ามูลค่าดอลลาร์ที่เข้ามาซื้อน้ำมันวันนี้เมื่อเทียบกับ 10-20 ปีที่แล้ว มันเทียบไม่ได้เลย ถึงแม้ว่าจะเป็นมูลค่าที่สูงกว่า มันยังน้อยกว่ามูลค่าสมัยก่อน พวกอาหรับก็เลยฉลาด เอาราคาน้ำมันไปอิงราคาทองคำ ไม่อิงราคาดอลลาร์ เพราะฉะนั้นทองคำ ปี 2546 ก.ค. ที่ผมพูด บาทละ 4,700 ปีนี้บาทละ 8,000 กว่า ทองคำราคาเท่าไหร่ ดอลลาร์ต้องราคาเท่านั้น นั่นคือที่มาของว่าทำไมน้ำมันจู่ๆ ถึงพรวดมากลายเป็น 50-60 เพราะไปอิงกับราคาทองคำ เพราะว่าทางอาหรับก็บอกว่า เฮ้ย 20 ปีที่แล้ว ฉันเคยขายน้ำมันได้ราคาเท่านี้ เพราะฉะนั้นแล้ว มา 20 ปีนี้ ในเมื่อดอลลาร์มันตก ฉันจะต้องอิงทองคำเหมือนเดิม นายก็ต้องเพิ่มจำนวนดอลลาร์ขึ้นมา คำถามที่กลัวที่สุดคือว่า ล่าสุดจากการที่ผมเช็คในเว็บไซต์ ประเทศต่างๆ อย่างเช่นประเทศไทยคือประเทศที่ไปซื้อพันธบัตรอเมริกัน เดี๋ยวนี้ลดการซื้อลงแล้ว จากแต่ก่อนเคยซื้อ 100 เปอร์เซ็นต์ เดี๋ยวนี้ซื้อ 40 เปอร์เซ็นต์ หายไป 60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถูกแปรสภาพเป็นเงินเยนบ้าง เป็นทองคำบ้าง ไปเป็นยูโรบ้าง อเมริกาก็เลยขาด 60 เปอร์เซ็นต์นี้ เลยต้องวิ่งเข้ามาหาเงินกู้จากในตลาดพันธบัตร ในตลาดหลักทรัพย์ของตัวเอง เมื่อเข้าไปหาเงินกู้ในตลาดหลักทรัพย์ ในตลาดพันธบัตรนั้นดอกเบี้ยอเมริกาก็ต้องขึ้น ดอกเบี้ยพันธบัตรก็ต้องสูงขึ้น เพื่อดึงนักลงทุนมาซื้อ ดอกเบี้ยอเมริกาขึ้น ดอกเบี้ยทั่วโลกก็ต้องขึ้นตาม นั่นคือโลกกำลังก้าวเข้าไปสู่ภาวะของเศรษฐกิจที่จะต้องถดถอยภายในปลายปี 2548 2549 และ 2550
1 จากข้อความด้านบนมีความคิดเห็นยังไงบ้างคะ
2 wg ticon se-ed rpc pdi rgr จะกระทบในทางลบหรือบวกคะ
3 มีหุ้นอะไรที่คิดว่าจะได้ผลบวกจากด้านบนบ้างคะ
รบกวนพี่ๆ ช่วยวิเคราะห์หน่อยค่ะ ขอบคุณมากๆๆๆค่ะ
คงไม่มั่ง ถ้าดอกเบี้ยอเมริกาขึ้น ดอกเบี้ยทั่วโลกขึ้น ก็ยังแปลว่าคนส่วนใหญ่ยังให้ความเชื่อถือกับเงินดอลในตลาดพันธบัตรนั้นดอกเบี้ยอเมริกาก็ต้องขึ้น ดอกเบี้ยพันธบัตรก็ต้องสูงขึ้น เพื่อดึงนักลงทุนมาซื้อ ดอกเบี้ยอเมริกาขึ้น ดอกเบี้ยทั่วโลกก็ต้องขึ้นตาม นั่นคือโลกกำลังก้าวเข้าไปสู่ภาวะของเศรษฐกิจที่จะต้องถดถอยภายในปลายปี 2548 2549 และ 2550
ตัวเลขผมไม่มั่นใจ แต่รู้แน่ๆว่าญี่ปุ่นเคยหรือยังเป็นประเทศที่บริโภคอันดับสอง ถ้ารวทแค่ 3 ประเทศก็ตกครึ่งหนึ่งแล้วเพื่อนๆรุ้ไหมครับว่า สหรัฐใช้น้ำมันถึง 25% ของโลกเลยครับ ส่วนจีนนี่รู้สึกว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 12% แล้วมั๊งครับ
เห็นด้วย และฐานธุรกิจ WG ค่อนข้างเล็ก ราคากับความต้องการก็ไม่สัมพันธ์โดยตรง เพื่อนๆคิดว่าถ้าราคาสินค้าถูกมากความต้องการในการใช้จะเพิ่มขึ้นมากตามด้วยหรือเปล่าเรื่อง WG ได้ประโยชน์จากเงิน USD อ่อน ผมขอแย้งครับ