หน้า 1 จากทั้งหมด 1

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 23, 2005 10:36 pm
โดย jaychou
ดูจะเป็นผลดีกับ TICON เต็มๆนะครับ

ที่ว่าใครจะมาซื้อหน่วยลงทุน ...ผมเองกำลังศึกษาอยากเริ่มลงทุนเองกับอสังหาฯ หากจะเปลี่ยนมาลงทุนกับ property fund ผมคาดหวังให้ได้ทั้งค่าเช่าและกำไรจากการขายอสังหาริมทรัพย์ โดยใช้เงินกู้ได้ด้วย ทำให้ผลตอบแทนดีขึ้น ผลตอบแทนต่ำสุด 6% เฉียดๆ MLR น่าจะแปลว่าทดแทนการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้ครับ ตอนนี้เห็นอสังหาเริ่มมีลดราคา แต่ค่าเช่าไม่ลด บางการลงทุนได้ ROA ในระดับ 10-12% แล้วนะครับ

อีกอย่างหากในแผนการลงทุนไม่มี exit strategy คือขายอสังหาริมทรัพย์ออกไป แต่ให้ซื้อขายหน่วยลงทุนในตลาดหุ้น ผมบอกตรงๆว่าไม่อยากลงทุนครับ เห็นราคาหน่วยไม่ดีเลย ดูสองกองทุนในตลาดหุ้นได้ สรุปก็คือกลุ่มเป้าหมายไม่ใช่นักลงทุนอสังหา และนักลงทุนหุ้นแน่นอน

ลูกค้าจริงๆ อาจจะเป็นพวกสถาบันครับ ... อย่างประกันภัยรถยนต์มีต้นทุนเงินลงทุนในรูปของเงินสินไหมประมาณ 2% พวกนี้ลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์ตรงๆไม่ได้ นอกจากจะทำอาคารสำนักงาน แต่ซื้อหน่วยลงทุนได้...หากส่วนต่าง 4-6% นับว่าใช้ได้สำหรับเงินได้เปล่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 24, 2005 10:42 pm
โดย คนขายของ
ผมว่า....เขาคิดว่าการออก property fund เป็นแค่ extraordinary earning ครับ เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวและคงไม่เกิดขึ้นอีก

ผมก็ชอบครับวิเคราะห์อย่างนี้ แสดงว่าคงยังมีคนเก็บของไม่ครบ เลยกลัวว่าจะวิ่งเกินไปเก็บไม่ทัน

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 25, 2005 1:47 pm
โดย คนขายของ
RMF กับ LTF นี่เป้าหมายคือรายย่อยนะครับ ไม่ใช่รายใหญ่ ประเด็นหลักในการขายอยู่ที่ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ผมว่า property fund ของ TICON ไม่ได้ดูขี้เหล่เลย เพราะความเสี่ยงน้อยกว่ากองทุนหุ้น ถ้ามาดูหุ้นกู้บริษัทชั้นนำในปีที่แล้ว ดอกประมาณ 5% ขายหมดในพริบตาโดยผู้ซื้อส่วนมากเป็นขาใหญ่

การที่ property fund ให้ return ที่ 6-7% นี่นับว่าใช้ได้ และ ดึงดูดใจเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยเงินฝาก แต่ก็อย่างที่คุณ chatchai ว่าทุกอย่างมีความเสี่ยง แต่ว่าถ้าเทียบกับ RMF และ LTF ที่ลงในหุ้นทุนล้วนๆ แล้วผมว่าเสี่ยงน้อยกว่าเยอะครับ และ กองทุนที่มองหาผลตอบแทนที่แน่นอนในระยะยาวย่อมให้ความสนใจ

ถ้าจำได้ ปีที่แล้วมีการออกกองทุนที่การันตีผลตอบแทน ประมาณ 2-3% ต่อปี ผมว่าถ้าเขาแบ่งเงินมาลงอันนี้บ้างก็คงช่วยบริหารความเสี่ยงได้เป็นอย่างดีครับ