เริ่มกินเจแล้ว
พรุ่งนี้ (วันเสาร์) เป็นวันล้างปากนะครับ เริ่มกินอาหารเจได้เลย
สิ้นสุดเทศกาลวันที่ 31 ให้กินมื้อเช้า 1 มื้อ เป็นอันเสร็จพิธี
ผมกินเจเหมือนกัน แต่ไม่ได้ไปไหว้เจ้าที่ไหน ก็เลยไม่ค่อยเคร่ง
มื้อเย็นวันนี้เป็นอาหารชอ (อาหารคาว อาหารเนื้อ) มื้อสุดท้ายครับ
มื้อนี้ ผมพยายามภาวนาให้เห็นความทุกข์ของสัตว์ พิจารณาเนื้อสัตว์ที่ผมกินในวันนี้ว่าเป็นชิ้นส่วนไหนของสัตว์ และดูว่าแท้ที่จริงแล้วคนเราก็เป็นสัตว์กินซากจำพวกหนึ่ง ที่แทะกินซากศพของสัตว์อื่น น่องไก่ ก็เป็นขาของเค้า เราเอามากิน เนื้อหมู เนื้อปลาก็เป็นเศษซากของเค้าทั้งนั้น ปลากระป๋อง
คิดได้แบบนี้ ระยะหนึ่งจะเริ่มเหม็นกลิ่นศพในจาน
ว่าแล้วก็เทไก่ที่มีเนื้อเต็มๆในจานให้สุนัขกินไป
เข้าสู่ช่วงกินเจด้วยความสุข ไม่เสียดายรสของเนื้อครับ
ถือศีล กินเจ
-
jaychou
-
jaychou
ปราชญ์ชาวจีน มักมีกุศโลบายให้ชาวบ้านทำโน่นทำนี่ มีพิธีรีตรอง ทั้งนี้มักมีเหตุผลเบื้องหลัง ต้องสังเกตดูครับ
ตามคติที่บ้านผมสั่งสอนกันมา
ในช่วงนี้ เทพเจ้า(ไม่แน่ใจว่าองค์ไหน)จะลงมาจากสวรรค์ทุกปี เพื่อมาสำรวจความชั่วและความดีของมนุษย์ โดยจะเก็บ sample ลมหายใจไปตรวจสอบ ถ้า detect ได้ว่ามีไปกินสัตว์หรือชิ้นส่วนของสัตว์มา ก็ถือว่ามีบาปจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ดี มีพืชหลายอย่างทำให้เครื่องตรวจของเทพเจ้าส่งผล positive จึงให้ละเว้น เพราะเทพเจ้าคงไม่มีเวลามาตรวจซ้ำ confirm ผล เท่าที่จำได้ก็มีหัวหอม ต้นหอม กระเทียม และกุ่ยช่ายครับ
ดังนั้น ถ้าอาหารเจที่ทำให้กลิ่นเหมือนเนื้อ ถือว่าเจปลอมครับ
อย่าง กาแฟ ครีมเทียม ทั่วไป ถือว่าไม่เจ เพราะมีส่วนผสมที่ได้จากสัตว์ แม่ผมเล่าว่า กาแฟบางตัวใช้น้ำมันหมูในการปรุง และครีมเทียมบางตัว ใช้สารที่ได้จากสัตว์ในการปรุง ไม่รู้แม่ไปรู้มาจากไหน
แต่ถ้าเทพเจ้า detect ได้ ...โอ้โห...เทพเจ้าคงจะเก่งจริงๆ เพราะสารพวกนี้ถ้าเป็นชาวโลกจะหาว่าเป็นชิ้นส่วนสัตว์ก็ต้องส่ง Lab วิเคราะห์หลายวัน รายงานกันเป็น PPM (part per million)เลยทีเดียว อีกรายการหนึ่งที่เป็นที่ถกเถียง ก็คือน้ำมันหอย ...ผมถึงกับอึ้งเมื่อบางเหลาใช้น้ำมันหอยปรุงอาหารเจ ได้รับคำตอบว่าหอยนางรมเป็นสัตว์ยกเว้น เพราะเจ้าแม่กวนอิมเคยเสวย พอมาถามที่บ้าน บอกว่าอันนี้บ้านเราไม่เว้น สรุปว่าแล้วแต่จิตศรัทธาใครกลัวพลาดก็เว้นไว้ดีกว่า
ร้านอาหารที่ติดป้ายเจ บนอาหารชอ และผู้คนคิดว่าเป็นเจ ไปซื้อกิน ถือว่าบาปเคราะห์ไปตกอยู่กับผู้ทำนะครับ ถือเอาเจตนาเป็นสำคัญ แต่ถ้าในจานมีเนื้อหมูอยู่ทนโท่ แต่ติดป้ายเจ คนซื้อกินก็ถือว่าแกล้งโง่ บาปเหมือนกัน
ซูเปอร์มาร์เก็ตแถวบ้าน ไม่รู้คิดยังไง เอาไส้กรอกเจ แฮมเจ ฯลฯ มาวางขายในตู้แช่เดียวกับอาหารเนื้อ แถมรอบข้างยังมีเขียงปลา เขียงหมู กลิ่นซากศพตลบอบอวลทับของเจทั้งหลาย สาธุชนคนกินเจที่ไหนจะไปกล้าหยิบมากินล่ะมันล่อแหลมขนาดนั้น
พวกที่เคร่งครัดจริงๆ ต้องแยกเครื่องครัว ภาชนะจานชาม อุปกรณ์ล้างจานและทำความสะอาดตู้กับข้าว ตู้เย็นให้เกลี้ยงเกลา อย่างน้อยๆ ก็ต้องล้างน้ำใหม่ 1 รอบก่อนใช้เป็นชุดเจ
>>พี่หมอชาตรีครับ
ถือว่าเรื่องเล่าทั้งหมด เป็นกุศโลบายในการชักชวนคนให้ลดการกินเนื้อ ยังไงถ้าพลาดไปนิดๆหน่อยๆ ก็อย่าไปกังวลครับ ถ้าไม่ได้ไปไหว้เจ้าเพื่อรายงานตัว ยังไงท่านก็ไม่ได้มาเก็บ sample ไปตรวจครับ ถ้าต้องเดินทางไปในถิ่นที่ไม่มีอาหารเจ และต้องกินเพื่อยังชีพตามมื้ออาหารปกติ ก็กินเถอะครับ กลับมากินเจใหม่ก็ถือว่าแล้วกัน ชีวิตมนุษย์เรา ยังไงก็มีค่ามากกว่าสัตว์แน่นอนครับ เหมือนกรณีเจ้าแม่กวนอิมเป็นตัวอย่าง
เรื่องเหล้าเบียร์ อันนี้ไม่มีในตำราครับ เข้าใจว่าสมัยนั้น ประเทศจีนยังไม่รู้จักเบียร์ แต่ถ้าตัดสินกันจริงๆ คงไม่รอด เพราะกลิ่นลมหายใจแรงเหลือเกิน ขนาดเป่าเครื่องตรวจของตำรวจยังวัดได้ เครื่องตรวจของเทพเจ้าคงร้องเหมือนกันครับ
ตามคติที่บ้านผมสั่งสอนกันมา
ในช่วงนี้ เทพเจ้า(ไม่แน่ใจว่าองค์ไหน)จะลงมาจากสวรรค์ทุกปี เพื่อมาสำรวจความชั่วและความดีของมนุษย์ โดยจะเก็บ sample ลมหายใจไปตรวจสอบ ถ้า detect ได้ว่ามีไปกินสัตว์หรือชิ้นส่วนของสัตว์มา ก็ถือว่ามีบาปจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ดี มีพืชหลายอย่างทำให้เครื่องตรวจของเทพเจ้าส่งผล positive จึงให้ละเว้น เพราะเทพเจ้าคงไม่มีเวลามาตรวจซ้ำ confirm ผล เท่าที่จำได้ก็มีหัวหอม ต้นหอม กระเทียม และกุ่ยช่ายครับ
ดังนั้น ถ้าอาหารเจที่ทำให้กลิ่นเหมือนเนื้อ ถือว่าเจปลอมครับ
อย่าง กาแฟ ครีมเทียม ทั่วไป ถือว่าไม่เจ เพราะมีส่วนผสมที่ได้จากสัตว์ แม่ผมเล่าว่า กาแฟบางตัวใช้น้ำมันหมูในการปรุง และครีมเทียมบางตัว ใช้สารที่ได้จากสัตว์ในการปรุง ไม่รู้แม่ไปรู้มาจากไหน
แต่ถ้าเทพเจ้า detect ได้ ...โอ้โห...เทพเจ้าคงจะเก่งจริงๆ เพราะสารพวกนี้ถ้าเป็นชาวโลกจะหาว่าเป็นชิ้นส่วนสัตว์ก็ต้องส่ง Lab วิเคราะห์หลายวัน รายงานกันเป็น PPM (part per million)เลยทีเดียว อีกรายการหนึ่งที่เป็นที่ถกเถียง ก็คือน้ำมันหอย ...ผมถึงกับอึ้งเมื่อบางเหลาใช้น้ำมันหอยปรุงอาหารเจ ได้รับคำตอบว่าหอยนางรมเป็นสัตว์ยกเว้น เพราะเจ้าแม่กวนอิมเคยเสวย พอมาถามที่บ้าน บอกว่าอันนี้บ้านเราไม่เว้น สรุปว่าแล้วแต่จิตศรัทธาใครกลัวพลาดก็เว้นไว้ดีกว่า
ร้านอาหารที่ติดป้ายเจ บนอาหารชอ และผู้คนคิดว่าเป็นเจ ไปซื้อกิน ถือว่าบาปเคราะห์ไปตกอยู่กับผู้ทำนะครับ ถือเอาเจตนาเป็นสำคัญ แต่ถ้าในจานมีเนื้อหมูอยู่ทนโท่ แต่ติดป้ายเจ คนซื้อกินก็ถือว่าแกล้งโง่ บาปเหมือนกัน
ซูเปอร์มาร์เก็ตแถวบ้าน ไม่รู้คิดยังไง เอาไส้กรอกเจ แฮมเจ ฯลฯ มาวางขายในตู้แช่เดียวกับอาหารเนื้อ แถมรอบข้างยังมีเขียงปลา เขียงหมู กลิ่นซากศพตลบอบอวลทับของเจทั้งหลาย สาธุชนคนกินเจที่ไหนจะไปกล้าหยิบมากินล่ะมันล่อแหลมขนาดนั้น
พวกที่เคร่งครัดจริงๆ ต้องแยกเครื่องครัว ภาชนะจานชาม อุปกรณ์ล้างจานและทำความสะอาดตู้กับข้าว ตู้เย็นให้เกลี้ยงเกลา อย่างน้อยๆ ก็ต้องล้างน้ำใหม่ 1 รอบก่อนใช้เป็นชุดเจ
>>พี่หมอชาตรีครับ
ถือว่าเรื่องเล่าทั้งหมด เป็นกุศโลบายในการชักชวนคนให้ลดการกินเนื้อ ยังไงถ้าพลาดไปนิดๆหน่อยๆ ก็อย่าไปกังวลครับ ถ้าไม่ได้ไปไหว้เจ้าเพื่อรายงานตัว ยังไงท่านก็ไม่ได้มาเก็บ sample ไปตรวจครับ ถ้าต้องเดินทางไปในถิ่นที่ไม่มีอาหารเจ และต้องกินเพื่อยังชีพตามมื้ออาหารปกติ ก็กินเถอะครับ กลับมากินเจใหม่ก็ถือว่าแล้วกัน ชีวิตมนุษย์เรา ยังไงก็มีค่ามากกว่าสัตว์แน่นอนครับ เหมือนกรณีเจ้าแม่กวนอิมเป็นตัวอย่าง
เรื่องเหล้าเบียร์ อันนี้ไม่มีในตำราครับ เข้าใจว่าสมัยนั้น ประเทศจีนยังไม่รู้จักเบียร์ แต่ถ้าตัดสินกันจริงๆ คงไม่รอด เพราะกลิ่นลมหายใจแรงเหลือเกิน ขนาดเป่าเครื่องตรวจของตำรวจยังวัดได้ เครื่องตรวจของเทพเจ้าคงร้องเหมือนกันครับ
