ขอถามทุกท่านว่ามีวิธีการหา Instricsic Value อย่างไรกันบ้าง?

กระทู้คุณค่า มีประโยชน์ ความรู้ดีดี เป็นประโยชน์เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน แค่ไหนก็ตาม
ตอบกลับโพส
hi.ผมเอง(not login)

โพสต์ โดย hi.ผมเอง(not login) » พุธ ก.ค. 14, 2004 10:51 am

อย่างเช่นบางคนใช้ค่า P/E กี่เท่าๆ บางคนใช้Discount cash flow บางคนใช้ Asset play บางคนใช้ Dividen growth model
ทั้งหมดล้วนแต่เกิดจากเอาข้อมูลในปัจจุบันมาคูณกับตัวเลขที่คาดเดาทั้งนั้น
กรุณาช่วยยกตัวอย่าง ชื่อหุ้นและตัวเลขจริงๆ ให้ผมได้เห็นเป็นบุญตาด้วยครับ
มีใครกล้า เดาโชว์มั๊ยครับ
ส่วนผม นั้น ไม่กล้าเดาโชว์ครับ
เดาเหมือนกัน แต่เก็บไว้โชว์ในใจ
เห็นนักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานทั่วไปบางคนนิยมทำตัวเลขนี้ในใจ แล้ว ลืมตัวไปว่าพวกนักวิเคราะห์แบบอื่น ว่าเอาอดีตมาเดาอนาคตบ้าง..
เห็นแล้วก็ขำ
ลืมไปว่าตัวเองก็เดา
WACC เนี่ยต่างคนต่างทำได้ตัวเลขไม่เท่ากัน
FCFเนี่ย หักโน่นหักเนี่ยด้วยตัวเลขไม่เท่ากัน
แล้วก็เอาWACCที่ไม่เท่ากันมาหาด้วยอัตราเติบโตที่ไม่เท่ากัน ยิ่งไม่เท่ากันไปใหญ่
ล้วนเกิดจากการคาดเดาทั้งนั้น
Dividen growth model
มีอะไรบอกได้บ้างไตรมาสต่อไปหรือปีถัดไปกำไรจะเติบโตในอัตราเดิมแล้วบ.จะจ่ายในอตราเปอร์เซ็นต์เดิม
การคาดเดานั้นจะคาดเดาได้ก็ต่อเมื่อ สถิติเดิมเช่นย้อนหลังไป10ปีมีแนวโน้มกำไรที่เห็นเป็นระบบ
ไม่ใช่แบบที่กำไรขึ้นๆลงๆ
มีคำถามว่า
บ.ทั้งตลาดมีกี่บ. ที่ทำกำไรได้แบบที่สามารถคาดเดาได้
ที่เห็นๆมีไม่ถึง5บ.แต่ล้วนแต่ราคาไม่น่าสนใจแล้วตอนนี้

โดยส่วนตัวแล้ว
งบการเงินผมมีไว้ตรวจสอบสุขภาพบ.ที่ผมลงทุนอยู่ว่ามีส่วนใดดีขึ้นหรือแย่ลง
แต่ไม่นิยมเอาไว้คาดเดาintrinsic valueครับ
ราคาที่เห็นทั้งในกระดานและintrinsic value ล้วนเป็นสิ่งไม่จริงทั้งนั้น
ที่จริงๆกว่าก็คือ
ความกลัว
ความโลภ
ความหวังต่างหาก

บทวิเคราะห์, intrinsic value, ที่คำนวนด้วยวิธีต่างๆ เส้นกร๊าฟ ,แนวรับ ,แนวต้าน สารพัด ล้วนคือเครื่องมือเชียร์แขกให้เกิด
ความกลัว
ความโลภ
ความหวัง

ทั้งนั้น
ควบคุมมันให้ดีๆก็แล้วกันแล้วจะเกิดประโยชน์ครับ
ผมว่าอย่างงั้น



บุคคลทั่วไป

โพสต์ โดย บุคคลทั่วไป » พุธ ก.ค. 14, 2004 11:09 am

เรื่อง Intrinsic Value นี่ถ้าให้อธิบายคงยาว หาหนังสืออ่านครับมีหลายๆเล่มใน ร้านหนังสือทั่วไป



เคล็ดวิชาไร้พ่าย

โพสต์ โดย เคล็ดวิชาไร้พ่าย » พุธ ก.ค. 14, 2004 12:12 pm

เดิมทีจักรวาลนั้นว่างเปล่า อู๋จี๋ (Ou Chi) "หุ้นตัวนั้นยังไม่มีใครสนใจ"
ต่อมาจึงมีสิ่งที่ตามมาภายหลังความว่างเปล่าเรียกว่า ไท่จี๋ (Tai Chi) "หุ้นตัวนั้นเริ่มมีคนสนใจแต่ยังไม่ไปใหน แรงซื้อ=แรงขาย"
แล้วจึงเกิดการแบ่งแยกเป็นหยิน หยิน (YIN) และ หยาง (YANG) "แสดงทิศทางว่าขึ้นหรือลง แรงขายไม่เท่ากับแรงซื้อ"
เป็นขั้วซึ่งกำหนดขอบเขตของวัฏจักรแห่งการเปลี่ยน
แปลง เมื่อขั้วหนึ่งถึงจุดสูงสุดก็ต้องถอยให้กับอีกขั้วหนึ่ง จะเป็นเช่นนี้เสมอไป
"ที่สุดของภาวะหมีคือภาวะกระทิง ที่สุดของภาวะกระทิงก็คือภาวะหมี"
"ในภาวะหมีมีภาวะกระทิง ในภาวะกระทิงมีภาวะหมี"
"ที่สุดของแรงซื้อก็คือแรงขาย ที่สุดของแรงขายก็คือแรงซื้อ"
"ในแรงซื้อมีแรงขาย ในแรงขายมีแรงซื้อ"
"การดำรงอยู่อย่างเป็นสุขต้องทำตนให้สอดคล้องกับจักรวาล คือหลักสมดุลแห่งหยินหยาง"
"การเล่นหุ้นได้กำไรและมีความสุข ต้องเข้าออกอย่างสอดคล้องกับแรงขายและแรงซื้อของรายใหญ่"
ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนใหว ใช้ความอ่อนพิชิตความแข็ง ใช้ความช้าพิชิตความเร็ว
นิ่มอ่อน ผ่อนคลาย ลีลาเชื่องช้า มั่นคง พร้อมดูดซับพลังปรปักษ์แล้วโต้กลับได้ทุกเมื่อ
ที่สุดของหยินก็คือหยางอันกล้าแข็งอย่างยิ่ง
นี่คือหลักการใช้หยินพิชิตหยางในคัมภีร์เก้าอิมที่อาจนำเอามาใช้ในการเอาชนะตลาดหุ้นได้โดยไม่ยาก
"ทำตัวเป็นเหาฉลามแล้วจะเล่นหุ้นได้กำไรไม่ค่อยขาดทุน ทำตัวเป็นนักเลงหุ้นอาจต้องขาดทุนไม่ค่อยได้กำไร"

การทุบหุ้นของรายใหญ่ ผู้ที่เสียหายเยอะสุดสุดก็คือรายใหญ่และผู้ถือหุ้นใหญ่กับเจ้าของบริษัท ดังนั้นจึง ควรใช้หลักวิชาของมวยไท้เก็ก อันว่าด้วยการอ่อนตามและเกาะติด แล้วจึงโต้กลับด้วกระบวนท่าอันไร้กระบวนท่า ไร้กำลังแต่เปี่ยมด้วยแรง ไร้สภาวะแต่ดำรงอยู่ หยิน-หยางไม่ปรากฏ พร้อมเข้าตีปรปักษ์ได้ทุกเมื่อ อย่างไร้ตัวตน โดยอาศัยแรงของปรปักษ์ในการทำร้ายปรปักษ์

ไร้กระบวนท่าจึงเป็นสุดยอดกระบวนท่า
ไร้กำลังจึงมีแรง
ไร้ตัวตนจึงไร้พ่าย

ธรรมดาทั่วไปแล้ว
ผู้มีกำลังมากย่อมชนะผู้มีกำลังน้อย
ผู้ที่ว่องไวย่อมชนะผู้ที่เชื่องช้า
แต่
ด้วยหลักอ่อนหยุ่นพิชิตแกร่งกร้าว(สี่ตำลึงเหวี่ยงฟาดพันชั่ง)
นิ่งสงบสยบความเคลื่อนใหว
ลงมือทีหลังแต่ถึงก่อน
ดังนี้
ผู้มีกำลังน้อยย่อมชนะผู้มีกำลังมาก
ผู้ที่เชื่องช้าย่อมชนะผู้ที่ว่องไว
ได้โดยง่ายดาย
อย่าซื้อหุ้นในขณะที่แรงขายยังไม่หมด
รอให้แรงขายหมดแล้วจึงค่อยเข้าซื้อ
เมื่อไม่มีผู้รอซื้อรายใหญ่ย่อมซื้อกลับคืนรายย่อยจึงมีกำไร

รู้จักผู้อื่น ......... เป็นความฉลาด
รู้จักตัวเอง...... เป็นการรู้แจ้ง
ควบคุมผู้อื่น... ใช้กำลัง
ควบคุมตัวเอง .. ใช้ความเข้มแข็ง
คนที่รู้จักพอ..... เป็นคนร่ำรวย
ความบากบั่น ... เป็นเครื่องหมายของพลังจิต
มนุษย์ไปได้ไกล.... เท่าที่เขามีความอดทน
การตาย... โดยไม่สูญสิ้น ... เป็นการอยู่ชั่วนิรันดร์

ตำราทั่วไปมัก แบ่งแยกหุ้นดีกับหุ้นไม่ดี
แต่สำหรับข้า หาได้แบ่งแยกเช่นนั้นไม่
ข้ารู้จักแต่ หุ้นวิ่งกับหุ้นไม่วิ่งเท่านั้น
เพื่อการได้กำไรมากสุดในเวลาอันสั้นสุด
แล้วก็ไม่ต้องคิดอะไรให้มากมายด้วย
ข้ารู้ว่าเมื่อใดมันจะวิ่งเมื่อใดมันจะหยุดวิ่ง
และเมื่อใดมันจะวิ่งต่อ ด้วยการศึกษานิสัยของมัน

...เกมส์ของความกลัวและความอยาก...ใช้ความนิ่งสยบความเคลื่อนไหว....อย่ามองเพียงด้านเดียวจงมองให้รอบด้าน....เก็บเกี่ยวข้อมูลให้มากแต่จงตัดสินใจเอง...
ผิดพลาดไม่ต้องโทษใครให้เสียกำลังใจจงแก้ตัวใหม่อย่าท้อถอย....ความสำเร็จรอคอยพวกเราอยู่แล้วข้างหน้า...
โดย จูกัด เหลียง(KONGBANG2004)



wpong not login

โพสต์ โดย wpong not login » พุธ ก.ค. 14, 2004 12:27 pm

เห็นด้วยกับทุกท่านที่ว่าไม่มีค่าที่ถูกต้องแท้จริง เป็นการประมาณการบนสมมติฐานที่แตกต่าวกันเท่านั้น แต่ประโยชน์ของมันก็มีพอควร เช่นใช้เป็นตัวเปรียบเทียบในบ.ที่ใกล้เคียงกัน แนวโน้มของบริษัท บางทีอาจใช้ค่าต่างๆเช่น pe มาทำเป็นกราฟก็ได้
ชอบคำของคุณจูกัดเหลียง และหวังว่า Mr.Market ใม่ใช่อาเต๊า ลูกเล่าปี่กลับชาติมาเกิดนะครับ :P



พี่ Wvix ผู้ใจดี

โพสต์ โดย พี่ Wvix ผู้ใจดี » พฤหัสฯ. ก.ค. 15, 2004 12:31 am

น้องกั๊ม น้องอย่างเพิ่ง น้อยใจไป พี่ๆ ใน TVI เท่าที่เห็นใจดีกว่าที่น้องคิดมากนัก
ตัวผมเองนั้น ก็เคยมีปัญหาแบบน้องกั๊ม ตอนเล่นหุ้นใหม่ๆ เป็นเรื่องยากนักที่จะไปปรึกษาใคร
และถามหาใครด้วยเนื้อหาที่มากและเกรงใจ แต่ท้ายที่สุดอยู่ที่ตัวเราครับ
พี่แนะอยากให้ลองเริ่มไล่อ่านกระทู้ตะแกงร่อนตั้งแต่หน้าแรกไปจนหน้าสุดท้าย
แล้วหาหนังสือเกี่ยวกับหุ้นมาอ่านเยอะๆครับ
หนังสือหลายเล่มก็มีการแนะนำในกระทู้ตะแกงร่อนอยู่แล้ว
สงสัยรายละเอียดปลีกย่อยอะไร ลอง Search กระทู้เก่าดู
ถ้าหาไม่เจอถามพี่ๆ ใน TVI ยินดีช่วยตอบอยู่แล้วครับ
แนะนำถาม เฮียมน เฮียวิบูลย์ พี่ Chatchai พี่ Ayethebing พี่ CK พี่นักดูดาว พี่เจ๋ง พี่ลูกอีสาน
และนักลงทุนตำนาน เช่น ป๋าปรัชญา ป๋าครรชิต และคุณลุงขวด ครับ
พี่ก็เริ่มจากเว็ปแห่งนี้เหมือนกันครับ
พี่เชื่อว่าเพียงเวลาไม่ถึงปีด้วยเนื้อหาภายในเว็ปนี้ที่เหล่าสมาชิกได้ร่วมกันสร้างสรร
จะทำให้น้องบรรลุเป้าหมายที่หวังได้ครับ
จากพี่ Wvix ผู้ใจดี



Wvix to Gump

โพสต์ โดย Wvix to Gump » ศุกร์ ก.ค. 16, 2004 4:36 pm

นึกว่าคุณกั๊มจะขายกุ้งซะอีก
แนะนำครับประสบการณ์ตรงนี้แหละครับที่เป็นประโยชน์ในการเอามาใช้ในการลงทุนครับ
คุณมีความสามารถใน monitor มีข้อมูลข่าวสารในกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่แน่นกว่าและเร็วกว่านักลงทุนทั่วไป
ตรงนี้แหละครับที่ทำให้เราสามารถใฃ้ประโยชน์ในการจับจังหวะ cycle ในการทำกำไรเป็นรอบๆได้เลยครับ
คุณกั๊มช่วยเข้ามาให้ข้อมูลแก่พี่ๆน้องๆ เกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างบ่อยๆนะครับ



ตอบกลับโพส