หน้า 1 จากทั้งหมด 1

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 27, 2004 10:38 am
โดย คลายเครียด
โชคดีครับ
ควบคุมความโลภให้ได้ด้วย
ควบคุมไม่ได้ ต่อให้ปริญญาเอกอีกสามใบก็ช่วยไม่ได้
ผมเป็นอาชญากรก่อนหน้าคุณตั้งยี่สิบปีแล้ว ฮาๆๆๆ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 27, 2004 10:54 am
โดย เพนกวิน
ความมีวินัยในการลงทุน = ความโลภ + ความกลัว

การพนัน........นักลงทุน --------> แตกต่างกันเช่นไร ? ตอบ :wink:

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 27, 2004 1:06 pm
โดย mbr
ทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำดีที่สุดครับ แต่ทั้งนี้ขอให้หาเหตุผลให้ตนเองก่อนตัดสินใจครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 27, 2004 2:00 pm
โดย Sin
ผมก็มีประสบการณ์คล้ายกับคุณคนที่ตั้งกระทู้นั่นล่ะครับ ผมจบปริญญาโท MBA จากอเมริกาตอนอายุ 26 ภายในเวลา 2 ปีจากเงินที่เล่นหุ้น 6 หลักพอร์ตผมก็มีเงิน8หลัก ตอนนั้นผมก็มีจิตใจฮึกเหิมครับลาออกมาเล่นหุ้นเลย ผลเหรอครับผมแทบหมดหมดตัวเพราะความโลภ เพราะเอากำไรที่เหลือไปซื้อเฉลี่ยตัวที่ขาดทุนอยู่ตัวเดียวครับ คือเอกสิน แล้วก็ได้ผลเฉลี่ยจนขาดทุนอยู่ 25 สตางค์ ผมกะว่ามันRebound ผมก็หลุดแล้ว ผมคงออกจากตลาดทัน ผลหรือครับ ปิด 56 ไฟแนนซ์
แม้ว่าทุกวันนี้ผมจะกำไรจากหุ้นรอบนี้กว่า700% และผมก็ล้างพอร์ตไปตั้งแต่ต้นปีแล้วด้วย ผมก็ไม่เคยลืมความเจ็บปวดในอดีต แม้ธุรกิจที่ผมทำ ผลตอบแทนมันจะเทียบไม่ได้กับการได้หุ้นรอบนี้ แต่ผมก็ไม่เคยคิดจะทิ้งธุรกิจที่มันหล่อเลี้ยงชีวิตเรา ทุกวันนี้ผมก็ไม่เคยเล่นหุ้นด้วยเงินทั้งหมด ผมไม่ได้ห้ามใครลาออกจากงานมาเล่นหุ้นเพราะผมก็ทำมาแล้ว แต่ชีวิตที่ไม่ได้เล่นหุ้น5-6ปี มันแทบทำให้เราเป็นบุคคลล้มละลาย เชื่อผมเถอะครับมีความสามารถอย่าทิ้งงานที่เราทำอยู่เลย เพราะพออายุมากๆ เวลาหุ้นตกถ้าพลาดคุณจะทำอะไรล่ะ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 27, 2004 4:39 pm
โดย เม่านัอย
ขอฝากตัวด้วยคนครับ ตามอ่านมานาน เห็นด้วยกับคุณsinครับ คนเราควรจะมีรายได้หลายทางไว้นะครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 27, 2004 6:59 pm
โดย Boring Stock lover
ผมว่าการทำงาน เป็นการสร้างฝันให้เป็นจริงนะครับ มันเป็นประสพการณ์ที่ดีที่ทำให้เข้าใจตัวเอง และพัฒนาตัวเอง Man should find their edge...

การสร้างคน พัฒนาลูกน้องให้ดีขึ้น ก็เป็นความสุขยามที่สำเร็จ

การเล่นเกมต่อรองกับเจ้านาย ก็เป็นความสนุกในการฝึกศิลปการจูงใจเพื่อ Win Win

การทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงาน ก็เป็นสิ่งท้าทายความสามารถ อย่างมาก

การทำงานเป็นเรื่องสนุก และได้เงินเป็นของแถม

ก็ถ้าชอบการลงทุนจริงๆ สนุกกับเกมส์นี้ ทำกับบริษัทใหญ่ๆ ใช้เงินคนอื่นมาเล่น และเล่นบนโต๊ะที่คุยกันที ระดับมากกว่า US$500mil น่าจะมันกว่านะ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 27, 2004 7:22 pm
โดย บุคคลทั่วไป
ถ้าไม่เป็นลูกจ้างแน่นอน ผมว่าลงทุนไม่ได้แตกต่างครับ ขอเพียงมีความตั้งใจจริง สำเร็จได้แน่นอนครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 27, 2004 7:26 pm
โดย +++ unlog
แปลกง่ะ
สำหรับผม
ผมคิดว่า

การเป็นนักลงทุนที่ ประสพความสำเร็จ น่าจะเป็น งานที่หนัก
ทั้งทางร่างกาย และจิตใจ มากกว่านะครับ

ในการที่จะประสบผลสำเร็จ ในระยะยาว ในระยะ 30 ปีขึ้นไป
และผมคิดว่า มันไม่ได้เท่ห์ ไม่ได้สนุก และสวยหรูอย่างที่คิดกันหรอกครับ

เพราะ บางที ระยะของหมีอาจกินเวลา2-3 ปี
สำหรับคนอายุน้อย ผมว่าเป็นเรื่องยากที่จะผ่านจุดแบบนี้ไปได้
ถ้ายังมีพลังและ ความแข็งแกร่งของจิตใจไม่เพียงพอ....

แต่ยังไง ก็ขอให้คุณตัดสินใจด้วยตัวเอง
และโชคดีครับ

อิอิ....

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 27, 2004 9:37 pm
โดย Boring Stock lover
สวัสดีครับ ลุงขวด หวังว่าสุขสบายดี ไม่ทราบว่ายังถือหุ้นคล่องคออยู่หรือเปล่าครับ นี่ก็ใกล้ประกาศผลดำเนินงานแล้ว ผมรอประกาศปันผลอยู่

ผมว่ามีเงินสะสม 10ล้าน แล้วกล้านำมาลงทุนในหุ้นทั้งหมดนี่ ผมนับถือจริงๆ ในช่วงนี้ผมว่าถ้าใครหาได้ 50 ล้านแล้วอยากออกมาเล่นหุ้นอย่างเดียวก็น่าจะ OK.....

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 27, 2004 9:48 pm
โดย Sin
เมื่อก่อนถ้าตอนอายุยังน้อยผมต้องไม่เชื่อลุงแน่ แต่มาปัจจุบัน พอมันผ่านประสบการณ์ชีวิตมาระดับหนึ่ง ถ้าผมฟังคนแก่ผมคงไม่ต้องเจอประสบการณ์อันเลวร้ายช่วงที่หุ้นตกๆ แล้วไม่ได้เล่นหุ้น แถมว่างงานอีกต่างหาก

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 27, 2004 9:51 pm
โดย Sin
เมื่อก่อนถ้าตอนอายุยังน้อยผมต้องไม่เชื่อลุงแน่ แต่มาปัจจุบัน พอมันผ่านประสบการณ์ชีวิตมาระดับหนึ่ง ถ้าผมฟังคนแก่ผมคงไม่ต้องเจอประสบการณ์อันเลวร้ายช่วงที่หุ้นตกๆ แล้วไม่ได้เล่นหุ้น แถมว่างงานอีกต่างหาก เหมือนลูกหมาตกน้ำล่ะครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 28, 2004 4:00 pm
โดย ake...
ช่วง 2 วันที่ผ่านมานี้เป็นอย่างไรบ้างครับ วันจันทร์กับวันพุธของสัปดาห์ที่ 4 ของเดือน มกราคมนี้ และตลอดทั้งเดือนนี้ ดัชนีลดลงเรื่อยๆ หากคุณคิดว่าเฉยๆ ไม่ฟุ้งซ่านมากก็ ทำเลยครับ

ปีนี้เค้าว่าจะยากกว่าปีที่แล้ว ส่วนปีที่แล้วเค้าบอกว่าคนที่ลงทุนก่อน เรียกว่าคนกล้า ปีก่อนโน้นไม่รู้เปรียบอย่างไร

ลองดูครับ คุณมีเงิน 4 ล้านบาทถ้าลงทุนได้ปีละ 10% ผมก็คิดว่าน่าจะทำได้นะครับ

การเล่นหุ้นผมมองเหมือนการที่เราเปิดบริษัทนึงมากกว่า เราเป็นเจ้าของกิจการของเราเอง เป็นโฮลดิ้งคัมปะนีหากเราลงทุนในหุ้นที่มากตัวหลายกลุ่ม

คุณคิดว่างานประจำที่ทำรับเงินเดือนมันมั่นคงกันมากนักเหรอครับ ผมว่าวัยนี้การทำอะไรทุกอย่างเป็นความเสี่ยงหมดแหละครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 28, 2004 4:14 pm
โดย บุคคลทั่วไป
การทำงาน และการลงทุน มันเหนื่อยเหมือนกันครับ ต่างกันตรงการทำงาน คือ เราทำงานเพื่อให้คนอื่นได้เงินครับ ส่วนการลงทุน คือ เราทำงานเพื่อให้เราได้เงินครับ

ลุงขวด ต้องหมายถึงตัวที่ผมถือด้วยแน่นอนเลย เอ ผู้บริหารเค้าบอกขนาดนั้นเลยหรือครับ ว่ายังไงๆก็ปันผลปีละ 2 ครั้ง แน่นอน มีบอกขั้นต่ำไหมครับ ว่าจะสักกี่บาท

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 28, 2004 9:14 pm
โดย Boring Stock lover
ยินดีที่ได้ยินว่าลุงขวดสุขสบายดี จากวันที่เจอลุงขวดวันนั้น จนวันนี้ก็ยังระลึกถึงอยู่

ธุรกิจที่ลุงขวดว่าเล็ก ของที่ผมทำก็คงมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น

ช่วงนี้ก็ยังเพียรหารายได้ มาเพิ่มเติมหุ้นดีๆ อยู่ตลอด หวังให้เงินทำงานแทนจนถึงจุดที่ทำให้เราคลายความกังวลใจในแง่เงินลง จะได้ใช้เวลา ทำในบางสิ่งได้สดวกมากขึ้น

เรื่อง Fancy และหุ้นในกลุ่ม Textile ก็ยังติดตามและรอดูผลประกอบการอยู่

เรื่องการถือหุ้นระยะยาว แล้วมองว่าราคาต้นทุนหุ้นที่ถือลดลงนั้น ผมเห็นด้วยและได้รับประสพการณ์ที่ดีมา แต่จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่สามารถอธิบายให้คนรอบข้างเข้าใจได้ว่า มันดีกว่าการเล่นรอบหรือซื้อมาขายไปยังไง

เรื่องการจ่ายปันผลก็เช่นกัน ผมก็ชอบบริษัทที่มีความมั่นคงในการจ่ายปันผลคงที่และค่อยๆเพิ่มขึ้นมากกว่า บริษัทที่จ่ายตามสัดส่วนผลประกอบการ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 30, 2004 11:56 pm
โดย เจเจ
ถ้าคิดว่าจะมาหาเงินจากตลาดหุ้นเป็นรายได้หลัก คิดว่าคุณคงจะคิดผิด
เพราะลงทุนในตลาดไม่จำเป็นต้องได้กำไรเสมอไป บางทีอาจไม่มีกำไร
หลายๆปี ติดต่อกันก็ได้

แต่ถ้าคิดว่าไม่มีรายได้เลยสัก 3-4 ปีก็ไม่เดือดร้อน ถือว่าเงินที่ลงทุนเป็นการหาผลตอบแทนที่ดีกว่าแบงค์ อย่างนั้นก็คงไม่เป็นไรที่คุณจะตัดสินใจทำอย่างนั้น

ตัวผมเองก็คล้ายกับคุณที่เลิกทำงานเร็ว แต่ที่เลิกเพราะตั้งใจมานานว่าจะ
เกษียนตัวเองที่ 40 เพราะรู้สึกว่าพอแล้วทั้งงานและเงิน ภาระก็ไม่มี
เงินลงทุนมีมากพอที่จะทนกับหุ้นตกสัก 3-4ปีได้โดยไม่เดือนร้อน
เลยตัดสินใจทำได้ง่าย

ขอแถมหน่อยว่าการศึกษาของผมสูงกว่าของคุณ มีความมั่นใจในตัวเอง
สูงกว่า เลยไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับการตัดสินใจของเรา
อย่างน้อยไม่มีใครกล้าว่าผมโง่หลอก ฮิฮิ....
เพราะถ้าผมโง่แล้วคงหาคนฉลาดในโลกนี้ได้ไม่กี่คนหลอก

ถ้าตัดสินใจทำแล้วตัวเองมีความสุขก็ทำไปเถอะครับ อย่างไปสนใจ
เสียงนกเสียงกาเลย