เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ฉัตรชัย Post ในพันทิพย์เกี่ยวกับ VI

กระทู้คุณค่า มีประโยชน์ ความรู้ดีดี เป็นประโยชน์เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน แค่ไหนก็ตาม
ตอบกลับโพส
เพนกวิน (ไม่ได้ล็อกอิน)

โพสต์ โดย เพนกวิน (ไม่ได้ล็อกอิน) » อาทิตย์ ก.พ. 01, 2004 9:55 pm

[quote="ลูกอิสาน"]


ผมคิดว่าหลายท่านก็บอกและพูดบ่อยๆ แต่นักลงทุนรุ่นใหม่จะทำตามหรือเปล่า
หรือเข้าใจ หรือเปล่าคงไ่ม่แน่ใจ เพราะพื้นฐานการรับรู้ของแต่ละคนคงแตกต่างกันไป



เพนกวิน

โพสต์ โดย เพนกวิน » อาทิตย์ ก.พ. 01, 2004 10:09 pm

หวัดดีครับ พี่คัดท้าย
พอดีผมขอนำแนะนำกระทู้จากพี่ฉัตรชัย ไว้ที่เว็บพันธ์ทิพย์ครับ

ผมกำลังสื่อความหมายครับ (อาจเข้าใจความผิด) ต้องขอโทษด้วยครับ
.............................................................................................
ส่วนคำถามที่ว่าต้อง cut loss หรือไม่
ความคิดเห็นผมนะครับ
1 stop loss หมายถึงการหยุดการขาดทุน กรณีระยะสั้นตลาดได้รับข่าวร้ายทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว โดยพื้นฐานราคาไม่ได้เปลี่ยน
2 cut loss หมายถึงกรณีที่มีการวิเคราะห์ผิดพลาด ทั้งการวิเคราะห์จากปัจจัยพื้นฐานและการวิเคราะห์ทางเทคนิค อย่างไรก็ต้อง cut loss ครับ ------> ผู้ลงทุนวิเคราะห์หุ้นที่จะเข้าทำการลงทุนผิดพลาด หรือ กรณีเกิดเหตุการณ์ภายนอกที่มากระทบโดยทำให้บริษัทที่ถืออยู่เกิดการเปลี่ยนแปลงพื้นฐาน ตย. กลุ่มโรงแรมเมื่อปลายปีที่แล้ว และ ต้นปี ผมมองไว้ว่าดี แต่พอเกิดเห็ตการโรคระบาด ซึ่งส่งผลกระทบพอสมควร (อาจมากกว่าที่คิด ผมคงตอบไม่ได้เพราะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ) ซึ่งต้องกลับมาทบทวนการลงทุนในกลุ่มโรงแรมกันใหม่อีกครั้งหรือถอนการลงทุนทันที

ผิดตก ยกเว้น
ขอบคุณครับ



Boring Stock lover

โพสต์ โดย Boring Stock lover » อาทิตย์ ก.พ. 01, 2004 11:03 pm

ผมคิดว่าเวลาเราคุยเรื่องราคาหุ้นนั้น คงไม่มีใครตอบได้หรอกนะ ส่วนตัวผมเองใช้การกำหนดช่วงราคาว่า ถูก ไม่ถูกไม่แพง (ตรงนี้กว้างมาก) เริ่มแพงแล้ว ราคาหุ้นนั้นตลาดโดยรวมเป็นตัวตัดสิน พอผ่านช่วงนี้ อาจกินเวลา เดือนเดียว หรือ 3 เดือน หรือ มากกว่า แล้วมองย้อนกลับ ก็คงจะเห็นว่า ราคาที่ตลาดให้นั้น เป็นอย่างไร

ปัจจัยทางด้านราคามีมากกว่าผลประกอบด้วยนะครับ มีหลายทฤษฎีที่พยายามอธิบายเรื่องนี้ ในแวดวงการตลาดก็จะพูดว่า Brand Value หรืออย่าง EVA ของทาง Stern ก็พยายามอธิบายเรื่องนี้เช่นกัน

ก็ลองดูนะครับว่าเป็นเราคิดอย่างไรกับ หุ้น ลักษณะนี้

PE = 28
PB = 8.9
Erning Growth = 6%

แพงน่าดูเลยนะ แต่ถ้าผมบอกว่าหุ้นนี้อยู่ในตลาดนิวยอร์คละ

ก็ยังแพงอญู่ดีหรือเปล่า แต่ถ้าข้อมูลเพิ่มเติมมีว่า Buffet ถืออยู่ละ

ก็ลองตอบดูนะครับ


กลยุทธ์ในการซื้อมีให้อ่านมากมาย เช่น การซื้อเฉลี่ยตลอดช่วงเวลา การซื้อเฉลี่ยขาลงโดยกำหนดช่วงราคา การ Short Against Port และอื่นๆ ทั้งนี้เราต้องมั่นใจในสิ่งที่วิเคราะห์แล้วนะครับ

กลยุทธ์ในการลงทุนที่ควรกระจายความเสี่ยงในการถือหุ้นให้หลากหลายขึ้นก็เป็นอีกอย่างที่ช่วยได้


เรียนคุณคัดท้าย สำหรับประการสุดท้ายนะครับ ผมคงไม่ใช่ VI แต่ผมมักลงทุนกับสิ่งที่ผมเข้าใจและพอประมาณความเสี่ยงด้านราคาได้บ้าง แน่นอนหลายครั้งที่ผมพูดเรื่องการถือหุ้นยาวๆๆๆๆๆๆ แล้วราคากลับมาเองนั้น (เฉพาะบริษัทที่ดีนะครับ) ผมคงไม่ตั้งใจหลอกใครนะครับ แต่ประสพการณ์ที่ผมถือมา มันเป็นเช่นนั้น อย่าให้ถึงขั้นเป็นบาปเป็นกรรมเลยครับ :(



ตอบกลับโพส