Thai Value Investor Webboard

สวนหย่อม เขียน:ผมเห็นด้วยนะครับว่าธุรกิจโรงพยาบาลน่าจะได้รับผลกระทบน้อยมากจากวิกฤตนี้
มารอฟังความเห็นพี่โจอีกคนครับ

เสริมนิดเีดียวครับ

ถ้าหมายถึงหุ้นโรงพยาบาลที่ลูกค้าเป็นคนไทยผมเห็นด้วยครับ
ถ้าเป็นโรงพยาบาลที่ฐานลูกค้าเป็นต่างชาติ ผมเดาไม่ออกจริง ๆ
เพราะไม่สามารถวิเคราะห์ไปถึงได้ว่า คู่แข่ง(ซึ่งส่วนมากอยู่ต่างประเทศ)
เช่นสิงค์โปร์ อินเดีย ฯลฯ จะปรับตัวยังไง ค่าเงิน รวมถึงราคาหุ้นของเค้าด้วย

หลายคำถามที่เห็นโพสต์ทิ้งไว้ น่าสนใจครับ รอฟังคำตอบเหมือนกัน

รบกวนถามพี่โจครับ

คือก่อนหน้านี้ ผมถือหุ้นอยู่ 10 กว่าตัว แต่ก็พยายามให้ 7 ตัวแรกก็มีมูลค่ากว่า 75%
ซึ่งผมคิดว่าเยอะทั้ง ๆ ที่พอร์ตไม่ได้ใหญ่ขนาดหลายสิบหรือร้อยล้าน

ผลคือ ผมดูไม่ทัน แค่ดูงบก็แย่อยู่แล้ว ต้องมาตามข่าว ที่สำคัญที่สุดคือต้อง
มานั่งทบทวนความคิด ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่ง่ายเลย

หุ้นบางตัวเลยเน่ามาก ทั้ง ๆ ที่คิดว่า ถ้ามีโอกาสตามดูดี ๆ ก็จะต้องคิดขายทิ้งตั้งนานแล้ว

หุ้นบางตัวผมก็มองออกและขายทิ้งก่อนในช่วงธุรกิจพีคได้ เพราะมีเวลาเฉี่ยว
ไปดู เช่น WORK, TIPCO, CENTEL, แต่ผมก็คิดว่าผมยังทำได้ไม่ดี

เลยอยากถามเป็นความรู้ว่า พี่โจใช้เวลาติดตามหุ้นยังไงครับ แล้วก็มีเครื่องมืออะไรเพื่อช่วยให้สะดวกขึ้นหรือไม่

หรือพี่มองว่าผมควรลดจำนวนหุ้นลง ?

ขอบคุณครับพี่โจ ผมไม่รู้สาเหตุคือมีภาระเพิ่มเติมหลายเรื่อง หรือขี้เกียจลงกันแน่  :lol:

แต่ปีนี้ผมว่าเหนื่อยกว่าเดิม เพราะตามเศรษฐกิจมหภาคเยอะขึ้น
ทั้งที่เมื่อก่อนดูแค่เฉียด ๆ

สรุปคือทบทวนการเปลี่ยนแปลงของเงื่อนไขตันเอง คงต้องกลับไปจัดพอร์ตใหม่

ผมเคยติดกับดักอีกอย่างว่า พอพอร์ตใหญ่ขึ้น การถือหุ้นแต่ละตัวก็เยอะขึ้นไปเชิงจำนวน

(แต่จริง ๆ แล้วเทียบเป็น % ของพอร์ตกลับน้อยกว่าเดิม)

ืคือพอความมั่นใจมันไม่เพิ่มตาม ก็ไม่อยากถือหุ้นจำนวนเงินมาก ๆ ตัวเดียว
ก็ไปขวนขวายหาหุ้นใหม่มาเสมอ

ผมนั่งอ่านหนังสือ value investing ของพี่เวปใหม่ เอาส่วนที่ 3 มา่อ่านสนุกดี
VI แต่ละคนเป็นตัวอย่างที่ดีมาก จะเอามาปรับใช้ดู

ฝากคำถามต่ออีกนิดได้มั๊ยครับ พี่โจมองกลุ่ม elect ยังไงครับ

มันเป็นส่วนนึงของภาคการส่งออกไทยมานานพอสมควร cluster ก็เข้มแข็ง

แต่ไม่รู้จะตะวันตกดินเหมือนกลุ่มสิ่งทอรึเปล่า

มี competitive advantage ที่ยั่งยืน(พอสมควร)รึเปล่าครับ

ไม่รู้ทำกระทู้คุณโจเปรอะรึเปล่า แต่เห็นคุยกันสนุก ขอแจมด้วยครับ

เรื่อง IT ผมก็ว่า com7 กับ bigIT เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว

แล้วก็ยังมีพวก JIB JET ตอนนี้แยกไม่ออกแล้วว่าแต่ละคนโมเดลเป็นยังไง แต่ที่แน่ ๆ คือไม่ต่างกันมาก

แต่ถ้ามองอีกทางนึง ผมว่าน่าจะช่วย ๆ กันโตมากกว่า

มันเป็นจุดเริ่มต้นที่กำลังจะบอกว่าหมดเวลาของโมเดลโชว์ห่วย
ที่บริหารแบบต้นทุนต่ำ ไม่มี VAT อะไรแบบนี้แล้ว

ส่วนโมเดลถ้ามองจากรูปแบบขนาด ยังมองไม่ออกครับว่าแบบร้านขนาดใหญ่ กับร้านเล็ก ๆ อันไหนจะดีกว่า

แต่ส่วนตัว ผมว่าถ้าเป็นร้านเล็ก ๆ ต้องบริหารสินค้าดีมาก ๆ ไม่งั้นของไม่ครบ

อีกเรื่องคือ HR ร้านแบบนี้ ต้องการบุคคลากรที่รู้ลึกเนื่องจากขายสินค้าพวก mainboard อะไรพวกนี้ด้วย

ตอนนี้ยังไม่มีปัญหามาก เพราะเกิดการ migrate พนักงานจากร้านโชว์ห่วยเก่า ๆ มาส่วนนึง

แต่อนาคตก็ไม่แน่ใจว่าจะโตทันรึเปล่า

อีกเรื่องที่สำคัญกว่าคือคนซื้อเค้าอยากมีทางเลือกหลากหลาย

ไม่ได้งั้นร้านเล็ก ๆ จะได้ฐานลูกค้ากลุ่มเดิมที่เป็นประเภทมีความรู้ IT อย่างเจนจัด

เพราะคนซื้อทั่ว ๆ ไป ไม่ได้ซื้อขนมจีบ ซาลาเปานะครับ ถึงไปซื้อร้านเล็ก ๆ ที่ใกล้กว่ากันแค่สองร้านเมตร (ในห้าง)  :lol:  :lol:

แสดงความยินดีด้วยครับ  :D

ขอให้พี่ลูกอีสานและเพื่อน ๆ ทุกคนมีความสุขในปี 2010 มาก ๆ ครับ

คิดสิ่งใดที่ชอบ ประกอบด้วยธรรม ของให้สมปรารถนาทุกประการ

ขอบคุณมากครับสำหรับกระทู้ดี ๆ แบบนี้

ว๊า เสียดายงาน TVI ภาคใต้จังครับ
มีธุระบินไปหาดใหญ่ 7 มี.ค. จองตั๋วไปแล้ว ถ้าเป็นหุ้น ต้องบอกว่ารู้งี้ ๆ อิอิ

ถ้าจัดตารางได้ จะขอไปเยี่ยมคุณโจลูกอิสานนะครับ อยากเจอตัวเป็น ๆ

อ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบ ขอใช้โอกาสนี้กราบงาม ๆ    

ขอให้ลูก ๆ ของพี่ เป็นเด็กดีที่น่ารักนะครับ