หน้า 1 จากทั้งหมด 1

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 31, 2009 1:53 pm
โดย Linzhichange
สุดยอดเลยครับ
ขอบคุณพี่นริศมาก :bow:  :bow:

ต้องหาเวลาอ่านอีกรอบ เม็ด ๆ จริง ๆ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 09, 2009 4:23 pm
โดย sorawut
เพิ่งมีเวลาอ่านทัน :oops:  :oops:  :oops:

ผมบังเอิญมีหุ้นตรงกับพี่ naris หลายตัวเหมือนกันครับ (มารู้ทีหลังเพราะดูรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ :lol:  :lol:  :lol:)

ผมว่าแนวทางลงทุนของผมคล้ายพี่ naris ไม่น้อยเลย แต่ทฤษฎีและประสบการณ์อ่อนกว่าพี่ naris เยอะมาก (และเป๋ไปบ้างเป็นบางครั้ง :oops:  :oops:  :oops:)
ผมได้เรียนรู้มุมมองการมองธุรกิจจากการอ่านกระทู้ต่างๆที่พี่ naris post ไว้มากมาย

คำถามที่นึกออก หลายๆท่านได้ถามและพี่ naris ตอบไปบ้างแล้ว
เลยแวะเข้ามาคารวะเฉยๆก่อนครับ :bow:  :bow:  :bow:

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 12:06 pm
โดย Linzhichange
ชอบพี่นริศ วิเคราะห์กลุ่มโรงพยาบาลมากครับ

และเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ผมติดตามมากที่สุดในเวลานี้

ได้อ่านคำตอบของคุณ VI Jr. แล้วขำมาก ชอบบเช่นกัน

แลกเปลี่ยนความเห็นกับพี่หน่อยสิครับ ว่าพี่มองยังไง

อนาคตผมว่ากำไรรพ. จะวัดกันด้วย OPD (รวมถึงพวก preventive ต่างๆ เช่นตรวจสุขภาพ) และจะโตอย่างก้าวกระโดด

เพราะผมเห็น BH เปิดตึก international ที่รับแต่ OPD (ขยาย IPD น้อยมาก) ผมก็ถึงบางอ้อ

ส่วน IPD อนาคต ผมว่า โรงพยาบาลใหญ่กินหมด โรงพยาบาลขนาดกลาง เล็ก
จะได้รับประโยชน์น้อยมาก นอกจากโรคไข้หวัด 2010, 2011 อะไรแบบนี้ :lol:

ผมสังเกต operation ใหญ่ ๆ คนไข้เลือกหมอมาก แม้จะเป็นรพ.เดียวกัน

และในขณะเดียวกัน คนไข้จะเลือกสถานที่มากเช่นกัน

ปัจจัยหมอ กับสถานที่ (รพ.) ผมยัง weight ไม่ถูก แต่ผมว่าตอนนี้น่าจะ 70/30

อนาคตก็ไม่แน่

และหมอเก่ง (ส่วนมาก แต่ไม่ทั้งหมด) น่าจะไปกระจุกอยู่ที่รพ.ใหญ่ในอนาคต

ไม่รู้เทียบกับนักร้อง นักแสดงได้รึเปล่า เคสคล้าย ๆ กัน

อยากพิมพ์ต่อ แต่คุยแบบนี้ผมไม่ถนัด ค่อย ๆ คุย แล้วจะไปถกกับพี่อีกทีครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 12, 2009 1:02 am
โดย Linzhichange
naris เขียน:เอาตามที่พี่เข้าใจนะครับอาจจะผิดก็ได้

จริงๆทาง รพ.อยากเน้นที่IPDเพราะรายได้และกำไรขั้นต้นต่อหัวสูงกว่าOPDมากๆ แต่การที่จะเลือกรับแต่IPDจะต้องเน้นไปที่ความเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องระดับตติยภูมิที่ รพ.ด้อยกว่า เช่นการผ่าสมองของบำรุงราษฎร์ การผ่าหัวใจของ รพ.กรุงเทพเป็นต้น แต่เนื่องจากกลุ่มลูกค้ากลุ่มพวกนั้นยังมีผู้ใช้น้อยราย utilize เขายังเหลือเฟือ แต่คอขวดของBHอยู่ที่อาคารจอดรถและOPD ทำให้การขยายตัวในรอบนี้ไปเปิดใช้บริการในด้านนี้ก่อน และชั้นที่ว่างอยู่คงจะเปิดตามความจำเป็นใช้ในอนาคตครับ

ปล.และข้อมูลที่ได้อยู่อย่างคือ เทรนในอนาคตเกี่ยวกับเรื่องIPDว่าจะหดสั้นลงเรื่อยๆ จากที่ผมเข้าใจว่าในอดีต คนที่พักIPDน่าจะเกิดจากกลุ่มคนที่ผ่าตัดมากกว่าครึ่ง แต่พัฒนาการแพทย์ในปัจจุบัน ทำให้การผ่าตัดไม่ต้องนอนพักฟื้นเป็นเวลานานอย่างเช่นอดีต(แต่ค่ารักษาก็ไม่ได้ลดลงนะครับ ถึงแม้จะพักฟื้นน้อยลง) ทำให้ในอนาคตอัตราการครองเตียงคงจะต่ำลงเมื่อเทียบกับOPDครับ
ขอบคุณมากครับ

แหะ ๆ ผมสงสัยเหมือนกันว่าไทยจะเล่นตลาด IPD ของโลกได้รึเปล่า

โครงสร้างรวมของ medical tourism ไทยก็ออกมาแนวรักษาโรคไม่ซับซ้อนมาโดยตลอด
ต่างกับอินเดียแบบหน้ามือหลังมือ

ถามต่อว่าถ้ารพ.ขนาดกลาง จะสู้รพ.ใหญ่ยังไงดีครับ ในอนาคต
สมมุติว่า รพ.กรุงเทพฯ วางสาขาแหมะไว้ใกล้ ๆ TNH (อาจจะ green field หรือ acquire คนอื่น)

แบบนี้จะกระทบเยอะมั๊ยครับ