ทั้งหมดล้วนแต่เกิดจากเอาข้อมูลในปัจจุบันมาคูณกับตัวเลขที่คาดเดาทั้งนั้นอย่างเช่นบางคนใช้ค่า P/E กี่เท่าๆ บางคนใช้Discount cash flow บางคนใช้ Asset play บางคนใช้ Dividen growth model
มีใครกล้า เดาโชว์มั๊ยครับกรุณาช่วยยกตัวอย่าง ชื่อหุ้นและตัวเลขจริงๆ ให้ผมได้เห็นเป็นบุญตาด้วยครับ
ส่วนผม นั้น ไม่กล้าเดาโชว์ครับ
เดาเหมือนกัน แต่เก็บไว้โชว์ในใจ
เห็นนักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานทั่วไปบางคนนิยมทำตัวเลขนี้ในใจ แล้ว ลืมตัวไปว่าพวกนักวิเคราะห์แบบอื่น ว่าเอาอดีตมาเดาอนาคตบ้าง..
เห็นแล้วก็ขำ
ลืมไปว่าตัวเองก็เดา
WACC เนี่ยต่างคนต่างทำได้ตัวเลขไม่เท่ากัน
FCFเนี่ย หักโน่นหักเนี่ยด้วยตัวเลขไม่เท่ากัน
แล้วก็เอาWACCที่ไม่เท่ากันมาหาด้วยอัตราเติบโตที่ไม่เท่ากัน ยิ่งไม่เท่ากันไปใหญ่
ล้วนเกิดจากการคาดเดาทั้งนั้น
มีอะไรบอกได้บ้างไตรมาสต่อไปหรือปีถัดไปกำไรจะเติบโตในอัตราเดิมแล้วบ.จะจ่ายในอตราเปอร์เซ็นต์เดิมDividen growth model
การคาดเดานั้นจะคาดเดาได้ก็ต่อเมื่อ สถิติเดิมเช่นย้อนหลังไป10ปีมีแนวโน้มกำไรที่เห็นเป็นระบบ
ไม่ใช่แบบที่กำไรขึ้นๆลงๆ
มีคำถามว่า
บ.ทั้งตลาดมีกี่บ. ที่ทำกำไรได้แบบที่สามารถคาดเดาได้
ที่เห็นๆมีไม่ถึง5บ.แต่ล้วนแต่ราคาไม่น่าสนใจแล้วตอนนี้
โดยส่วนตัวแล้ว
งบการเงินผมมีไว้ตรวจสอบสุขภาพบ.ที่ผมลงทุนอยู่ว่ามีส่วนใดดีขึ้นหรือแย่ลง
แต่ไม่นิยมเอาไว้คาดเดาintrinsic valueครับ
ราคาที่เห็นทั้งในกระดานและintrinsic value ล้วนเป็นสิ่งไม่จริงทั้งนั้น
ที่จริงๆกว่าก็คือ
ความกลัว
ความโลภ
ความหวังต่างหาก
บทวิเคราะห์, intrinsic value, ที่คำนวนด้วยวิธีต่างๆ เส้นกร๊าฟ ,แนวรับ ,แนวต้าน สารพัด ล้วนคือเครื่องมือเชียร์แขกให้เกิด
ความกลัว
ความโลภ
ความหวัง
ทั้งนั้น
ควบคุมมันให้ดีๆก็แล้วกันแล้วจะเกิดประโยชน์ครับ
ผมว่าอย่างงั้น