TPC
ผลประกอบการประจำปี 2546 (ก่อนการตรวจสอบ) ออกแล้ว
ผลประกอบการประจำปี 2546 (ก่อนการตรวจสอบ) ออกแล้ว พี่ๆ มีความเห็นอย่างไรครับ น้อยกว่าคาด มากกว่าคาด ตรงตามคาด หรือ อื่นๆ
ที่ AC 04/47
27 มกราคม 2547
เรื่อง ชี้แจงผลประกอบการประจำปี 2546 (ก่อนการตรวจสอบ)
ของ บริษัท ไทยพลาสติก และเคมีภัณฑ์ จำกัด ( มหาชน ) และ บริษัทย่อย
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัทฯ ขอนำส่งงบการเงินและชี้แจงผลประกอบการประจำปี 2546 ก่อนการตรวจสอบของผู้สอบบัญชีของ
บริษัทฯ และบริษัทย่อย ดังนี้
ในปี 2546 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีผลประกอบการก่อนการตรวจสอบเป็นกำไรสุทธิ 1,302 ล้านบาท เพิ่ม
ขึ้น 85 ล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งมีผลกำไรสุทธิ 1,217 ล้านบาท สาเหตุหลักของการเปลี่ยน
แปลงมีดังนี้
ด้านรายได้ บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 18,114 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก
ปีก่อน 2,106 ล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ 13 ซึ่งเป็นผลจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นทั้ง ในกลุ่มธุรกิจพีวีซี และ กลุ่ม
ธุรกิจท่อและผลิตภัณฑ์พลาสติกสำเร็จรูป
ด้านต้นทุนขาย และ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีค่าใช้จ่ายรวม 16,668 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2,146 ล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 15 เนื่องจากการเพิ่มตามปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น และ รวม
ถึงการปรับตัวของราคาวัตถุดิบหลักที่เพิ่มสูงขึ้น
ด้านค่าใช้จ่ายทางด้านการเงิน บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยรวม 292 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน
105 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 27 เนื่องจากในปี 2546 บริษัทฯ ได้มีการชำระคืนเงินกู้ยืมระยะยาวบางส่วน ประกอบ
กับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่ลดลง จึงส่งผลทำให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลง
โดยสรุปในปี 2546 บริษัทฯและบริษัทย่อย มีผลกำไรสุทธิรวม 1,302 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น
14.88 บาท
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
( นาย เทพ วงษ์วานิช )
กรรมการผู้จัดการ
ที่ AC 04/47
27 มกราคม 2547
เรื่อง ชี้แจงผลประกอบการประจำปี 2546 (ก่อนการตรวจสอบ)
ของ บริษัท ไทยพลาสติก และเคมีภัณฑ์ จำกัด ( มหาชน ) และ บริษัทย่อย
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัทฯ ขอนำส่งงบการเงินและชี้แจงผลประกอบการประจำปี 2546 ก่อนการตรวจสอบของผู้สอบบัญชีของ
บริษัทฯ และบริษัทย่อย ดังนี้
ในปี 2546 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีผลประกอบการก่อนการตรวจสอบเป็นกำไรสุทธิ 1,302 ล้านบาท เพิ่ม
ขึ้น 85 ล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งมีผลกำไรสุทธิ 1,217 ล้านบาท สาเหตุหลักของการเปลี่ยน
แปลงมีดังนี้
ด้านรายได้ บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 18,114 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก
ปีก่อน 2,106 ล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ 13 ซึ่งเป็นผลจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นทั้ง ในกลุ่มธุรกิจพีวีซี และ กลุ่ม
ธุรกิจท่อและผลิตภัณฑ์พลาสติกสำเร็จรูป
ด้านต้นทุนขาย และ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีค่าใช้จ่ายรวม 16,668 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2,146 ล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 15 เนื่องจากการเพิ่มตามปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น และ รวม
ถึงการปรับตัวของราคาวัตถุดิบหลักที่เพิ่มสูงขึ้น
ด้านค่าใช้จ่ายทางด้านการเงิน บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยรวม 292 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน
105 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 27 เนื่องจากในปี 2546 บริษัทฯ ได้มีการชำระคืนเงินกู้ยืมระยะยาวบางส่วน ประกอบ
กับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่ลดลง จึงส่งผลทำให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลง
โดยสรุปในปี 2546 บริษัทฯและบริษัทย่อย มีผลกำไรสุทธิรวม 1,302 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น
14.88 บาท
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
( นาย เทพ วงษ์วานิช )
กรรมการผู้จัดการ
มีความเห็นอย่างไรกับบทวิเคราะห์ของ กิมเอ๋งนี้บ้างคับ
มีความเห็นอย่างไรกับบทวิเคราะห์ของ กิมเอ๋งนี้บ้างคับ
http://kelive.kimeng.co.th/kelive/userv ... contId=956
http://kelive.kimeng.co.th/kelive/userv ... contId=956
ต้นทุนขายที่ tpc แจ้งสรุปมาที่ 16,668 ล้านบาท ดูจากงบ (unaud
ต้นทุนขายที่ tpc แจ้งสรุปมาที่ 16,668 ล้านบาท ดูจากงบ (unaudited)นั้นรวม *ต้นทุนขายและต้นทุนการให้บริการ* กับ *ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร*
แต่ต้นทุนขายที่ กิมเอ๋งใช้ คือ15,081 ล้านบาท *เป็นต้นทุนขายและต้นทุนการให้บริการ* เท่านั้น
ทำให้อัตรากำไรขั้นต้น ของ กิมเอ๋ง กับ พี่ aye แตกต่างกันมาก
ไม่ทราบว่าที่ถูก ควร ใช้ตันทุนขาย ตัวไหน เพื่อมาคำนวณ อัตรากำไรขั้นต้น คับ
แต่ต้นทุนขายที่ กิมเอ๋งใช้ คือ15,081 ล้านบาท *เป็นต้นทุนขายและต้นทุนการให้บริการ* เท่านั้น
ทำให้อัตรากำไรขั้นต้น ของ กิมเอ๋ง กับ พี่ aye แตกต่างกันมาก
ไม่ทราบว่าที่ถูก ควร ใช้ตันทุนขาย ตัวไหน เพื่อมาคำนวณ อัตรากำไรขั้นต้น คับ
ขอความเห็นหน่อยครับ
ไม่ทราบว่าค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งขึ้นในปีนี้จะมีผลต่อรายได้จากการส่งออกของTPCในปีนี้แค่ไหนครับ
PVC up in penny steps
OxyChem and Formosa announced a further 2¢ increase for July 1, following 1¢ monthly increases in May and June. However, Shintech and Georgia Gulf came out with two 1¢ hikes for July and August instead. Contributing factors: Feedstock prices remain stable but high. Pipe demand softened slightly by mid June, though siding and window demand held very strong.
คุณส้มจุกช่วยดูข่าวนี้หน่อยนะครับ และในประโยคสุดท้ายเป็นไปได้ไหมครับว่าจะทำให้ราคา PVC กลับมาเป็นขาขึ้นอีกคร้ง(กลัวน้อยหน้าเพื่อนๆในกลุ้มเค้าน่ะครับ)
OxyChem and Formosa announced a further 2¢ increase for July 1, following 1¢ monthly increases in May and June. However, Shintech and Georgia Gulf came out with two 1¢ hikes for July and August instead. Contributing factors: Feedstock prices remain stable but high. Pipe demand softened slightly by mid June, though siding and window demand held very strong.
คุณส้มจุกช่วยดูข่าวนี้หน่อยนะครับ และในประโยคสุดท้ายเป็นไปได้ไหมครับว่าจะทำให้ราคา PVC กลับมาเป็นขาขึ้นอีกคร้ง(กลัวน้อยหน้าเพื่อนๆในกลุ้มเค้าน่ะครับ)