STA
ราคาของ sta จากกลางเดือนมิถุนายน 2547 เป็นต้นมาแกว่งตัวอยู่ในกรอบ
37 - 42 บาท สร้างฐานราคาบริเวณนี้มา 3 เดือนแล้ว
พบว่าสร้างความประหลาดใจให้พอสมควรหลังจากขาย pp ไป 2 ล้านหุ้นที่
40 บาท และผลประกอบการดีขึ้นแบบต่อเนื่อง 3 ไตรมาส ผู้บริหารยังคงเดินหน้าสะสมหุ้นของตัวเองต่อไป พร้อมๆกับ nvdr มียอดของการสะสมหุ้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ราคาหุ้นไม่ตอบรับกับปัจจัยบวกที่เกิดขึ้นมากนัก
คงต้องติดตามกันต่อไปครับว่าไตรมาสที่เหลือของปีจะทำได้ดีเพียงใด โดยเฉพาะไตรมาส 3 นี้ถ้าทำได้ซัก 2 - 2.50 บาทต่อหุ้นคงจะยืนยันการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ใช่แบบชั่วคราวของ sta ในอุตสาหกรรมยางได้อย่างแท้จริง อีกทั้งในไตรมาส 3 นี้จะมียอดกำลังการผลิตจากโรงงานยางแท่งที่เพิ่งซื้อเข้ามา มาเพิ่มเข้าอีกด้วย ไตรมาส 3 นี้ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นไตรมาสที่มีผลประกอบการที่ต่ำกว่าไตรมาสอื่นๆของปีโดยเฉลี่ย ในรอบหลายปีที่ผ่านมา แต่ในปีนี้ไตรมาส 2 ก็ทำได้ดีมากกว่าทุกปีเช่นกันและทำกำไรได้ดีมากๆ อีกด้วย
ราคายางในไตรมาส 3 นี้หลังจากปรับตัวลงมาก็มายืนในบริเวณ 50 บาทต่อกก. เป็นระยะเดือนแล้ว ณ.ราคาปัจจุบันน่าจะเกิดเสถียรได้ระหว่างความต้องกับปริมาณยางในขณะนี้ และในไม่ช้าราคายางน่าจะขยับตัวในเชิงบวกได้อีกครั้งในไตรมาส 4นี้ เนื่องจากปริมาณความต้องการใช้ยางในโลก ยังมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนืองจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์โลก
บทวิเคราะห์ล่าสุดของ asp และ tisco ให้ราคาพื้นฐานที่ 67-69.90 บาทต่อหุ้น แต่ถ้าในปีนี้ sta ทำกำไรได้เกิน 10 บาทต่อหุ้นคงต้องมาปรับกันใหม่
ที่ผมอยากเห็นตอนนี้คือถ้า sta ไม่มีความจำเป็นที่ต้องการเงินสดเข้ามาเพิ่มในกิจการ น่าจะยกเลิกหุ้น pp ที่เหลืออยู่ไป และถ้าจะให้ดีน่าจะเอาส่วนนั้นมาปันผลเป็นหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดิมจะดูแฟร์กว่าครับ เนื่องจากเวลาบริษัทเกิดปัญหาต้องการเงินเพิ่ม ได้เพิ่มทุนโดยผู้ถือหุ้นเดิมได้ร่วมกันซื้อหุ้นนั้นด้วยเท่ากับร่วมกันช่วยบริษัทขณะที่มีปัญหา แต่ตอนนี้เมื่อบริษัทมีผลประกอบการที่ดีมากๆ ก็ควรให้ผู้ถือหุ้นได้รับประโยชน์นั้นกลับคืนบ้างจริงมั้ยครับ
37 - 42 บาท สร้างฐานราคาบริเวณนี้มา 3 เดือนแล้ว
พบว่าสร้างความประหลาดใจให้พอสมควรหลังจากขาย pp ไป 2 ล้านหุ้นที่
40 บาท และผลประกอบการดีขึ้นแบบต่อเนื่อง 3 ไตรมาส ผู้บริหารยังคงเดินหน้าสะสมหุ้นของตัวเองต่อไป พร้อมๆกับ nvdr มียอดของการสะสมหุ้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ราคาหุ้นไม่ตอบรับกับปัจจัยบวกที่เกิดขึ้นมากนัก
คงต้องติดตามกันต่อไปครับว่าไตรมาสที่เหลือของปีจะทำได้ดีเพียงใด โดยเฉพาะไตรมาส 3 นี้ถ้าทำได้ซัก 2 - 2.50 บาทต่อหุ้นคงจะยืนยันการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ใช่แบบชั่วคราวของ sta ในอุตสาหกรรมยางได้อย่างแท้จริง อีกทั้งในไตรมาส 3 นี้จะมียอดกำลังการผลิตจากโรงงานยางแท่งที่เพิ่งซื้อเข้ามา มาเพิ่มเข้าอีกด้วย ไตรมาส 3 นี้ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นไตรมาสที่มีผลประกอบการที่ต่ำกว่าไตรมาสอื่นๆของปีโดยเฉลี่ย ในรอบหลายปีที่ผ่านมา แต่ในปีนี้ไตรมาส 2 ก็ทำได้ดีมากกว่าทุกปีเช่นกันและทำกำไรได้ดีมากๆ อีกด้วย
ราคายางในไตรมาส 3 นี้หลังจากปรับตัวลงมาก็มายืนในบริเวณ 50 บาทต่อกก. เป็นระยะเดือนแล้ว ณ.ราคาปัจจุบันน่าจะเกิดเสถียรได้ระหว่างความต้องกับปริมาณยางในขณะนี้ และในไม่ช้าราคายางน่าจะขยับตัวในเชิงบวกได้อีกครั้งในไตรมาส 4นี้ เนื่องจากปริมาณความต้องการใช้ยางในโลก ยังมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนืองจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์โลก
บทวิเคราะห์ล่าสุดของ asp และ tisco ให้ราคาพื้นฐานที่ 67-69.90 บาทต่อหุ้น แต่ถ้าในปีนี้ sta ทำกำไรได้เกิน 10 บาทต่อหุ้นคงต้องมาปรับกันใหม่
ที่ผมอยากเห็นตอนนี้คือถ้า sta ไม่มีความจำเป็นที่ต้องการเงินสดเข้ามาเพิ่มในกิจการ น่าจะยกเลิกหุ้น pp ที่เหลืออยู่ไป และถ้าจะให้ดีน่าจะเอาส่วนนั้นมาปันผลเป็นหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดิมจะดูแฟร์กว่าครับ เนื่องจากเวลาบริษัทเกิดปัญหาต้องการเงินเพิ่ม ได้เพิ่มทุนโดยผู้ถือหุ้นเดิมได้ร่วมกันซื้อหุ้นนั้นด้วยเท่ากับร่วมกันช่วยบริษัทขณะที่มีปัญหา แต่ตอนนี้เมื่อบริษัทมีผลประกอบการที่ดีมากๆ ก็ควรให้ผู้ถือหุ้นได้รับประโยชน์นั้นกลับคืนบ้างจริงมั้ยครับ
- Linzhichange
- User
- กระทู้: 1160
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 10, 2005 9:21 pm