รายได้ค้างรับMindTrick เขียน:chatchai เขียน:nuttachk เขียน:น่าจะเป็นรายได้ค้างรับจากลูกค้าที่เป็น Bank จึงไม่น่ามีปัญหาเรื่องเงินครับGoal เขียน:เห็นใน q4 นี้มีรายการรายได้ค้างรับตั้ง -40 ล้าน อืม อย่างนี้ดี หรือไม่ดีครับ (q3 มีรายได้ค้างรับแค่ 1.45 ล้านเอง)
BOL
Re: รายได้ค้างรับ 40 ล้าน
ไม่ได้ถือหุ้น แต่อยากช่วยครับ (อยากจะศึกษาเหมือนกัน :lol:)Frankie เขียน:ผมอยาก save คลิปเหล่านี้มาเก็บในคอมพ์ ต้องทำอย่างไรครับมี clip มาฝากก่อนงบออก แต่ไม่ใช่ clip แอบถ่ายนะครับ :lol:
เป็นตอนที่คุณชัยพรไปออกรายการ Stock in focus
http://www.moneychannel.co.th/images/Pl ... =320&h=240
http://www.moneychannel.co.th/images/Pl ... =320&h=240
http://www.moneychannel.co.th/images/Pl ... =320&h=240
http://www.moneychannel.co.th/images/Pl ... =320&h=240
http://www.moneychannel.co.th/Portals/0 ... _part1.wmv
http://www.moneychannel.co.th/Portals/0 ... _part2.wmv
http://www.moneychannel.co.th/Portals/0 ... _part3.wmv
http://www.moneychannel.co.th/Portals/0 ... _part4.wmv
ของแท้ครับinvestment biker เขียน:คำตอบอยู่ที่ 3 คำสั้น ๆ ครับ "Durable Competitive Advantage"
3 ทหารเสือแค่สามารถทะลวงลึกเข้าไปในแดนข้าศึก แต่กำลังโดนล้อมอยู่ :lol:
แต่ BOL สร้างผลิตภัณฑ์ต่อยอดไปเรื่อยๆ ทั้งตามความต้องการของตลาด และวิสัยทัศน์ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่คิดว่าตลาดต้องการ :cheers: :cheers:
ผมกังวลอยู่อย่างเดียว แต่ถ้าปี 2559 เกิดไม่ได้ต่อสัญญากับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือแก้สัญญาเป็นสามารถให้ข้อมูลกับผู้บริการมากกว่า 1 เจ้าได้จะเป็นไงหนอ
โห... คุณ MR.TIGERWOOD ยอผมเกินไปแล้วMR.TIGERWOOD เขียน:นับถือครับคุณ sorawut วิเคราะได้ดี มีจังวะเข้า ถอย ถ้าเป็นนักมวยคง เป็นแชมป์ คลายๆๆ มูอามัดอาลี แน่เลย.. ผมถือหาง หมายถึง เดิมพันข้างคุณ sorawut ....เป็นแชมป์นานๆๆนะพี่ ..
ผมยังไม่ได้เสี้ยวของพี่ๆที่นี่เลย
งั้นผมถือหางคุณ investment biker ต่ออีกทีแล้วกัน ลดแรงกดดัน :lol:
ใช่ครับ คุณอาจจะไม่ต้องการข้อมูลงบการเงินของลูกค้าคนนั้นอีก แต่คุณอาจจะต้องการข้อมูลนี้แทนครับMR.TIGERWOOD เขียน:sale manager มาถามผมว่าขายไหมครับ ลูกค้าใหม่รายนี้ เขาเอา ข้อมูล งบการเงินซึ่ง ซื้อมาจาก BOL ผมก็บอกเขาไป ขาย ขาย ชม.นี้ต้องขาย sale manager บอกว่า หนี้เยอะนะพี่ ผมบอกว่าไม่เป็นไร ขาย 2 เดือนต่อมา ลูกค้ารายนี้จ่ายค่าสินค้ามา ผมก็เลยบอก sale manager ว่าที่หลังไม่ต้องซื้อมูลนะ เสียสตางค์เปล่า ปัจจุบันก็ค้าขายกันดีกับลูกค้ารายนี้
http://www.bol.co.th/th/products_services/par.aspx
ผมไม่แน่ใจว่า BOL จะรุ่งหรือจะ so so ขึ้นอยู่กับ GDP หรือเปล่า แต่ผมคิดว่าน่าจะเกี่ยวกับวินัยในการบริหารความเสี่ยงมากกว่าMR.TIGERWOOD เขียน:มองดูว่า ถ้าประเทศไทย GDP ต่ำ BOL ขับเคลื่อนได้ดี แต่ถ้าGDP สูงๆๆ ดูความสำคัญของ BOL ลดน้อยลง ถามว่าใครตอบได้ว่า ปีหน้า GDP ของประเทศไทยมีค่าเท่าไร..ดังนั้น BOL vอยู่ในภาวะออกหัวหรือก้อย
ถ้าช่วงนั้น ทุกบริษัท (ไม่นับธนาคาร) มองโลกในแง่ดี ซื้อง่ายขายคล่อง ลูกค้าดูน่าเชื่อถือไปหมด ไม่ต้องคิดมาก ซื้อสดครั้ง 2 ครั้งก็ขายเชื่อได้เลย
แน่นอนว่าบริการของ BOL คงลดบทบาทลงไป แต่เรารู้ได้ไงว่าลูกค้าที่ดูน่าเชื่อถือตอนนี้ อาจจะกำลังเบี้ยวหนี้คู่ค้ารายอื่น และมีแนวโน้มว่าจะเบี้ยวเราในอนาคต
ฉะนั้นจุดขายของ BOL คือนำเสนอให้ผู้ประกอบการเห็นความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงด้วยบริการต่างๆของ BOL
การเสริมสร้างวินัยให้กับผู้ประกอบการน่าจะสร้างฐานลูกค้าถาวรให้เพิ่มมากขึ้นได้เรื่อยๆนะครับ :lol:
มีครับ แต่บังคับใช้ไม่เท่ากันMR.TIGERWOOD เขียน:มองดูลูกค้า ต่างประเทศ น่าจะจำกัดเหมือนกัน ทำได้ดีหรือเปล่า อันนี้ไม่รู้ และไม่แน่ใจ การทำงบการเงินมี way or standard เหมือนกันหรือเปล่า ไมรู้
ผมก็ตระหนักข้อนี้ครับ แต่ก็กลับมาที่ผมพูด "key ที่สำคัญที่ทำให้บริษัทมี DCA คือข้อมูลที่มันจำกัดคนเข้าถึงนี่แหละ"MR.TIGERWOOD เขียน:BOL กำลังเล่นกับ technology มันเปลี่ยนเร็วมาก ตามทันหรือเปล่าในอนาคต หรือ ลูกค้าอื่นไปไกลแล้ว ในปี 2559 หมายถึงลูกค้าที่จะแย่งชิงเค็กก้อนนี้ มีมากมายแน่เลย เดานะครับพี่ sorawut
คุณมีเงิน มี techology มี know-how มีคน แต่ไม่มี data คุณจะนำเสนออะไรแข่งกับ BOL ล่ะครับ :lol:
Key อีกอย่างนึงที่ยังไม่ได้เอ่ยถึงคือ Switching cost ครับ
สมมติว่าปี 2559 สัญญากับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเกิดเปลี่ยนไป ทำให้เจ้าอื่นสามารถใช้ข้อมูลเดียวกันกับ BOL ได้
ลูกค้าบริษัทคงไม่เปลี่ยนไปใช้ของเจ้าอื่นง่ายๆ เพียงเพราะว่าเสนอราคาถูกกว่าเล็กน้อย
เพราะมันไม่คุ้มที่จะให้พนักงานบริษัทที่เกี่ยวข้อง เรียนรู้ software ใหม่ๆ
feature บางอย่างอาจจะมีไม่เท่ากัน และมี setting บางส่วนที่ไม่สามารถ port ไปที่ software ตัวใหม่ได้
ยิ่ง BOL ทำให้ผู้ใช้สะดวกมากเท่าไร Switching cost ยิ่งสูงมากเท่านั้นครับ
สมมติว่าปี 2559 สัญญากับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเกิดเปลี่ยนไป ทำให้เจ้าอื่นสามารถใช้ข้อมูลเดียวกันกับ BOL ได้
ลูกค้าบริษัทคงไม่เปลี่ยนไปใช้ของเจ้าอื่นง่ายๆ เพียงเพราะว่าเสนอราคาถูกกว่าเล็กน้อย
เพราะมันไม่คุ้มที่จะให้พนักงานบริษัทที่เกี่ยวข้อง เรียนรู้ software ใหม่ๆ
feature บางอย่างอาจจะมีไม่เท่ากัน และมี setting บางส่วนที่ไม่สามารถ port ไปที่ software ตัวใหม่ได้
ยิ่ง BOL ทำให้ผู้ใช้สะดวกมากเท่าไร Switching cost ยิ่งสูงมากเท่านั้นครับ
มันก็ไม่ได้ห้ามเจ้าอื่นอยู่แล้วนี่หน่าsorawut เขียน:ผมกังวลอยู่อย่างเดียว แต่ถ้าปี 2559 เกิดไม่ได้ต่อสัญญากับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือแก้สัญญาเป็นสามารถให้ข้อมูลกับผู้บริการมากกว่า 1 เจ้าได้จะเป็นไงหนอ
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... &start=570
mario เขียน:รายละเอียด
1.BOL จะได้รับการสนับสนุนในการจัดทําข้อมูลสถานภาพของนิติบุคคลและงบการเงิน ทั้งในรูปแบบเอกสาร ไมโครฟิลม์ รวมถึงข้อมูลนิติบุคคลที่บันทึกอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์
2.ข้อมูลข่าวสารธุรกิจที่จะนํามาให้บริการโดยระบบออนไลน์ เป็นข้อมูลที่ BOL ได้จัดทําขึ้นจากการวิเคราะห์ ประยุกต์ ปรับปรุงและจําแนกข้อมูลสถานภาพของนิติบุคคลและงบการเงินประจําปีของ นิติบุคคลที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจัดเก็บไว้ เพื่อให้บริการเผยแพร่แก่ประชาชนโดยระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์ ซึ่งจะใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงทางกฎหมายไม่ได้ และไม่ถือว่าเป็นข้อมลูที่เป็นความลับของทางราชการ
3.กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สามารถดําเนินการให้บริการด้า้นข้อมูลข่าวสารใดๆ แก่ประชาชนได้ตามปกติ และการดําเนินการให้บริการข้อมูลข่าวสารธุรกิจกับ BOL ตามสัญญานี้ไม่ถือเป็นการผูกขาดตัดตอน
tatandchin เขียน:แล้วถ้าต่อไป การส่งข้อมูลให้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็น e file ล่ะครับ จะเป็นยังไง เพราะในงานวันเสาร์ที่ 3 ดร. บอกว่าการเพิ่มมูลค่าให้ข้อมูลด้วยการใส่ model เข้าไปไม่ใช่เรื่องยาก ที่ยากคือการที่ต้องเขาไฟล์ข้อมูลที่เป็น hard file มาแปลงเป็น soft file ครับ ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงของธุรกิจ bol ครับ
ความสำคัญของสัญญานี้น้อยกว่าที่ผมคิดตอนแรกinvestment biker เขียน:ถ้าข้อมูลถูก input เป็น e-file ทำให้ไม่ต้องแปลงข้อมูลจาก hard copy เป็น e-file ผลกระทบน่าจะเป็น....
ต้นทุนการดำเนินธุรกิจน่าจะต่ำลง แต่ว่าคู่แข่งน่าจะเข้ามาแข่งได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม คู่แข่งยังต้องลงทุน convert ข้อมูลเก่า ๆ เข้าระบบซึ่งน่าจะใช้เวลาและเงินทุนจำนวนมากในการconvert ข้อมูลเก่า ๆ เข้าระบบ
แต่ดีที่มีข้อนี้
mario เขียน:Q : ถ้ามีคู่แข่งที่ใหญ่กว่ามากๆ มาแข่งด้วย BOL จะสู้ได้หรือไม่
A : คู่แข่งที่ว่า ก็กลายมาเป็น ผู้ถือหุ้นที่มีชื่อว่า DUN & BRADSTREET INTERNATIONAL, LTD. ซึ่งเป็น Partner ที่มีความเชี่ยวชาญอยู่ในธุรกิจบริการข้อมูลนิติบุคคลมากว่า 160 ปี ถือได้ว่าเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก สำหรับธุรกิจประเภทนี้ ใน The New Buffettology มีกล่าวถึง DNB ไว้ด้วยว่า Buffett เคยซื้อหุ้นตัวนี้เมื่อ 1998 เนื่องจากเป็นบริษัทที่ดีเยี่ยม และกำลังจะแยก Moody’s Investors Services ออกเป็นอีกบริษัท
นอกจากนี้ BOL ยังได้รับสิทธิ ให้เป็นตัวแทน DNB ในประเทศเวียดนามอีกด้วย
สัญญาสัมปทานปัจจุบันไม่ได้ผูกขาดตัดตอน คือไม่ได้ห้ามคนอื่นมาทำแต่ที่ยังไม่่มีคนมาทำแข่ง ผมเข้าใจว่าเพราะ
ตลาดการขายข้อมูลในเมืองไทยยังมีขนาดไม่ใหญ่มาก เหมือนแ่อ่งน้ำเล็กๆ ที่อาจจะไม่ใหญ่พอจะให้มีปลาใหญ่มากกว่า 1 ตัว ดังนั้นการเริ่มต้นธุรกิจจากศูนย์ แล้วต้องสร้างฐานลูกค้าใหม่สะสมไปเืรื่อยๆ ต้องใช้เวลากี่ปีจะไม่ขาดทุน ขนาด BOL เริ่มตอนที่ไม่มีคู่แข่งยังต้องใช้เวลากว่า 5-6 ปี ถึงจะกำไร
จากหมายเหตุประกอบงบการเงินครับinvestment biker เขียน:1.รายได้ค้างรับของBOL มีรายละเอียดอย่างไรครับ เช่นเปรียบเทียบปี 50และ51 ลดลง45.47% (ทำไมต้องค้างรับ)
ผมไม่เคยถามบริษัทว่าคืออะไร แต่เท่าที่ผมเข้าใจ รายได้ค้างรับที่อยู่ในฝั่ง assets ใน balance sheet โดยปกติน่าจะเป็นรายได้ในส่วนงานที่ทำเสร็จแล้ว (จึงบันทึกเป็นรายได้ได้) แต่ว่าในสัญญาอาจจะยังไม่ถึงเวลาที่เรียกเก็บเงินได้ เลยยังไม่ได้ออก invoice และยังไม่เป็น accounts receivalbe
น่าจะมาจากงานประเภท project ครับ ถ้าดูในงบบริษัทที่ส่งงานเป็น project น่าจะมีรายการแบบนี้เหมือนกัน เช่น ilink mfec
3.1 การรับรู้รายได้
รายได้จากการที่ลูกค้าซื้อสิทธิการใช้บริการข้อมูลออนไลน์ของบริษัทแบบจำกัดชั่วโมง ซึ่งลูกค้าสามารถใช้บริการข้อมูลนิติบุคคล ข่าวธุรกิจ ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลล้มละลายและนิติบุคคลล้มละลายและข้อมูลการขายทอดตลาด จะรับรู้เป็นรายได้ด้วยวิธีเส้นตรงตลอดช่วงระยะเวลาการใช้งานตามที่ระบุในข้อตกลง ทั้งนี้เนื่องจากรายได้ดังกล่าวเกิดจากการขายบริการโดยตรงแก่ลูกค้าโดยไม่ผ่านตัวแทนจำหน่ายหรือนายหน้า และเป็นการให้บริการหลายอย่างแก่ลูกค้าในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งมีกำหนดระยะเวลาหมดอายุแน่นอน บริษัทเชื่อว่าความแตกต่างของรายได้ที่รับรู้โดยวิธีเส้นตรงจะไม่แตกต่างอย่างมีสาระสำคัญจากวิธีการรับรู้รายได้เมื่อได้มีการใช้บริการข้อมูลตามชั่วโมงจริง
รายได้จากการให้บริการตามสัญญาระยะยาว จะรับรู้เป็นรายได้ตามขั้นความสำเร็จของงานบริการ ซึ่งกำหนดจากอัตราส่วนของบริการที่ให้จนถึงปัจจุบันเทียบกับบริการทั้งสิ้นที่ต้องให้
มีคนมาเล่นอะไรอีกแล้วครับ :lol: :lol: :lol:miracle เขียน:อืมๆๆๆnanakorn เขียน:มีคนมาเล่นอะไรที่ [email protected]
แปลกๆๆ แสดงว่า IT ดีกันหมดหรือเนี่ย