THL
ก้าวที่สอง ทีรอคอยมาแล้ว
---------------------------------
ที่ ทค. 151/178/09/2003
10 กันยายน 2546
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เกี่ยวกับการจัดทำรายงาน
(Information Memoramdum : IM) โดยบริษัทที่ปรึกษาอิสระ ในการตรวจสอบปริมาณ
และคุณภาพของสินแร่ทองคำ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ทางเทคนิค และวิธีการดำเนินการและ
จัดการในการพัฒนาสินแร่ขึ้นมาเพื่อผลทางเศรษฐกิจ เพื่อนำเสนอให้กับสถาบันการเงินในการ
พิจารณาอนุมัติสินเชื่อเพื่อการดำเนินโครงการนั้น บัดนี้ บริษัท COMO Engineers Pty. Ltd.
ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาอิสระ ได้ดำเนินการจัดทำรายงานดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
โดยผลการศึกษาเกี่ยวกับปริมาณสินแร่ทองคำได้รับการยืนยันโดย Edward Brennan, ซึ่งเป็นที่ปรึกษา
ทางเศรษฐศาสตร์ธรณีวิทยา ชาวออสเตรเลีย ผู้มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านธรณีวิทยา
เป็นอย่างดี และเป็นสมาชิกของ Australasian Institute of Mining and Metallurgy
(AIMM) มีผลงานเป็นที่ยอมรับจำนวนมาก
อนึ่ง สำหรับขอบเขตของรายงาน Information Memorandum นั้น จัดทำขึ้นเพื่อยืนยันว่า
ปริมาณสินแร่ในระดับความลึกเฉลี่ย 40 เมตร จะมีปริมาณเพียงพอที่จะชำระคืนเงินกู้ และคืนเงินลงทุน
(ทั้งนี้ จากการสำรวจ การก่อตัวของสายแร่มีความต่อเนื่องไปได้ถึงที่ระดับความลึกเฉลี่ย 300 เมตร
ซึ่งจากข้อมูลหลุมเจาะสำรวจหลุมหนึ่ง พบสายแร่มีความลึกถึงระดับ 600 เมตร ซึ่งมีระดับ
ความสมบูรณเฉลี่ย 2.9 กรัม ต่อตัน) รายงานการศึกษาดังกล่าวยืนยันความเพียงพอของปริมาณสินแร่
รวมทั้งระบุว่าการดำเนินโครงการเหมืองทองคำในระยะเริ่มต้น 4 ปี (ซึ่งเป็นการทำเหมืองแร่แบบ
"เหมืองเปิด") สามารถให้ผลตอบแทนเพื่อชำระคืนเงินกู้และคืนเงินลงทุนได้อย่างแน่นอน
Tons Grade Contained Gold
(Gram/ton Au) (Oz.)
Proven Resource 1,452,000 4.49 209,630
Indicated 822,000 5.95 157,365
Inferred 2,213,000 3.25 231,000
Total 4,487,000 597,995
ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ*:
ระยะเวลา (Stage 1) : 4 ปี
กำลังการผลิต : 365,000 ตัน ต่อปี
เงินลงทุน** : 17.8 ล้านเหรียญสหรัฐ
ปริมาณสินแร่ใน Stage 1 (ที่
ระดับความลึก 40 เมตร) : 1,452,000 ตัน
ปริมาณทองคำ : 178,671 ออนซ์
ราคาทองคำ*** : 350 เหรียญสหรัฐ ต่อออนซ์
รายได้รวม : 62.5 ล้านเหรียญสหรัฐ
เงินสดรับสุทธิ : 30.5 ล้านเหรียญสหรัฐ
อัตราผลตอบแทน : 28%
ระยะเวลาคืนทุน : 2.19 ปี
หมายเหตุ
* การศึกษาความเป็นไปได้เดิม (Pre-feasibility Study) จัดเตรียมภายใต้สมมติฐาน
ซึ่งมีปริมาณสินแร่ 3.47 ล้านตัน อายุโครงการ 10 ปี อย่างไรก็ตามรายงานความเป็นไปได้ข้างต้น
เพื่อนำเสนอต่อสถาบันการเงิน ใช้ปริมาณสินแร่ที่ 1.45 ล้านตัน (ซึ่งเป็นการทำเหมืองที่ระดับความลึก
เพียง 40 เมตร เท่านั้น) โดยไม่รวม Indicated และ Inferred Resources จำนวน 3.04 ล้านตัน
ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 4 ตารางกิโลเมตร ทั้งนี้ ประทานบัตรเหมืองแร่ทองคำและคำขอประทานบัตรของ
บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ครอบคลุมพื้นที่ 55.06 ตารางกิโลเมตร โดยประทานบัตรแต่ละใบมีอายุ 25 ปี
และสามารถต่ออายุได้ในกรณีที่ยังมีปริมาณสินแร่อยู่
** โรงงานและสาธารณูปโภคสามารถใช้ดำเนินการผลิตได้ถึง 25 ปี
*** ราคาทองคำปัจจุบัน 381เหรียญสหรัฐ ต่อ ออนซ์
ทั้งนี้ โครงการได้รับการส่งเสริมการลงทุน โดยได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้เป็นเวลา 8 ปีและร้อยละ 50
ของอัตราปกติเป็นเวลา 5ปี รวมทั้งสิทธิประโยชน์อื่นๆ
ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงินสำหรับ Project Finance รวมทั้ง
การก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน และการออกแบบทางด้านวิศวกรรมโรงงาน และคัดสรร Suppliers
ของเครื่องจักร โรงงาน และอุปกรณ์ต่างๆ โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตได้ในไตรมาส 2 ของปี 2547
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายโรนัลด์ อึ้ง วาย ชอย)
กรรมการผู้จัดการ
---------------------------------
ที่ ทค. 151/178/09/2003
10 กันยายน 2546
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เกี่ยวกับการจัดทำรายงาน
(Information Memoramdum : IM) โดยบริษัทที่ปรึกษาอิสระ ในการตรวจสอบปริมาณ
และคุณภาพของสินแร่ทองคำ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ทางเทคนิค และวิธีการดำเนินการและ
จัดการในการพัฒนาสินแร่ขึ้นมาเพื่อผลทางเศรษฐกิจ เพื่อนำเสนอให้กับสถาบันการเงินในการ
พิจารณาอนุมัติสินเชื่อเพื่อการดำเนินโครงการนั้น บัดนี้ บริษัท COMO Engineers Pty. Ltd.
ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาอิสระ ได้ดำเนินการจัดทำรายงานดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
โดยผลการศึกษาเกี่ยวกับปริมาณสินแร่ทองคำได้รับการยืนยันโดย Edward Brennan, ซึ่งเป็นที่ปรึกษา
ทางเศรษฐศาสตร์ธรณีวิทยา ชาวออสเตรเลีย ผู้มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านธรณีวิทยา
เป็นอย่างดี และเป็นสมาชิกของ Australasian Institute of Mining and Metallurgy
(AIMM) มีผลงานเป็นที่ยอมรับจำนวนมาก
อนึ่ง สำหรับขอบเขตของรายงาน Information Memorandum นั้น จัดทำขึ้นเพื่อยืนยันว่า
ปริมาณสินแร่ในระดับความลึกเฉลี่ย 40 เมตร จะมีปริมาณเพียงพอที่จะชำระคืนเงินกู้ และคืนเงินลงทุน
(ทั้งนี้ จากการสำรวจ การก่อตัวของสายแร่มีความต่อเนื่องไปได้ถึงที่ระดับความลึกเฉลี่ย 300 เมตร
ซึ่งจากข้อมูลหลุมเจาะสำรวจหลุมหนึ่ง พบสายแร่มีความลึกถึงระดับ 600 เมตร ซึ่งมีระดับ
ความสมบูรณเฉลี่ย 2.9 กรัม ต่อตัน) รายงานการศึกษาดังกล่าวยืนยันความเพียงพอของปริมาณสินแร่
รวมทั้งระบุว่าการดำเนินโครงการเหมืองทองคำในระยะเริ่มต้น 4 ปี (ซึ่งเป็นการทำเหมืองแร่แบบ
"เหมืองเปิด") สามารถให้ผลตอบแทนเพื่อชำระคืนเงินกู้และคืนเงินลงทุนได้อย่างแน่นอน
Tons Grade Contained Gold
(Gram/ton Au) (Oz.)
Proven Resource 1,452,000 4.49 209,630
Indicated 822,000 5.95 157,365
Inferred 2,213,000 3.25 231,000
Total 4,487,000 597,995
ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ*:
ระยะเวลา (Stage 1) : 4 ปี
กำลังการผลิต : 365,000 ตัน ต่อปี
เงินลงทุน** : 17.8 ล้านเหรียญสหรัฐ
ปริมาณสินแร่ใน Stage 1 (ที่
ระดับความลึก 40 เมตร) : 1,452,000 ตัน
ปริมาณทองคำ : 178,671 ออนซ์
ราคาทองคำ*** : 350 เหรียญสหรัฐ ต่อออนซ์
รายได้รวม : 62.5 ล้านเหรียญสหรัฐ
เงินสดรับสุทธิ : 30.5 ล้านเหรียญสหรัฐ
อัตราผลตอบแทน : 28%
ระยะเวลาคืนทุน : 2.19 ปี
หมายเหตุ
* การศึกษาความเป็นไปได้เดิม (Pre-feasibility Study) จัดเตรียมภายใต้สมมติฐาน
ซึ่งมีปริมาณสินแร่ 3.47 ล้านตัน อายุโครงการ 10 ปี อย่างไรก็ตามรายงานความเป็นไปได้ข้างต้น
เพื่อนำเสนอต่อสถาบันการเงิน ใช้ปริมาณสินแร่ที่ 1.45 ล้านตัน (ซึ่งเป็นการทำเหมืองที่ระดับความลึก
เพียง 40 เมตร เท่านั้น) โดยไม่รวม Indicated และ Inferred Resources จำนวน 3.04 ล้านตัน
ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 4 ตารางกิโลเมตร ทั้งนี้ ประทานบัตรเหมืองแร่ทองคำและคำขอประทานบัตรของ
บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ครอบคลุมพื้นที่ 55.06 ตารางกิโลเมตร โดยประทานบัตรแต่ละใบมีอายุ 25 ปี
และสามารถต่ออายุได้ในกรณีที่ยังมีปริมาณสินแร่อยู่
** โรงงานและสาธารณูปโภคสามารถใช้ดำเนินการผลิตได้ถึง 25 ปี
*** ราคาทองคำปัจจุบัน 381เหรียญสหรัฐ ต่อ ออนซ์
ทั้งนี้ โครงการได้รับการส่งเสริมการลงทุน โดยได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้เป็นเวลา 8 ปีและร้อยละ 50
ของอัตราปกติเป็นเวลา 5ปี รวมทั้งสิทธิประโยชน์อื่นๆ
ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงินสำหรับ Project Finance รวมทั้ง
การก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน และการออกแบบทางด้านวิศวกรรมโรงงาน และคัดสรร Suppliers
ของเครื่องจักร โรงงาน และอุปกรณ์ต่างๆ โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตได้ในไตรมาส 2 ของปี 2547
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายโรนัลด์ อึ้ง วาย ชอย)
กรรมการผู้จัดการ
สัมภาษณ์พิเศษ.
โรนัลด์ อึ้ง วาย ชอย.. เจ้านายใหญ่ THL
"หุ้น THL พุ่งแรงเพราะปัจจัยพื้นฐาน..ไม่ใช่แรงเก็งกำไร"
-ช่วงนี้หุ้น THL ปรับตัวขึ้นแรงมาก
การปรับขึ้นของหุ้น THL ไม่ใช่เพราะการเก็งกำไร แต่ขึ้นเพราะปัจจัยพื้นฐานจริงๆจากโครงการเหมืองทองคำ โดยเมื่อ 1-2 เดือนที่ผ่านมามีทั้งโบรกเกอร์และกองทุนจากไทยและต่างประเทศเข้ามา visit แทบทุกวัน หลังจากนั้นก็ขอข้อมูลตามมาอีกครั้งที่ 3 ครั้ง 4 ก็เลยทราบว่าต่างชาติไปซื้อหุ้นเยอะโดยดัชนีของกลุ่มหุ้นเราก็ไม่ได้หวือหวาเท่าไหร่
-เพราะสาเหตุอะไรหุ้นถึงขึ้นแรง
อาจเป็นเพราะ third party หรือ Edward Brennan, ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐศาสตร์ธรณีวิทยา ชาวออสเตรเลีย ผู้มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านธรณีวิทยาเป็นอย่างดี และเป็นสมาชิกของ Australasian Institute of Mining and Metallurgy (AIMM) ได้ยืนยันเกี่ยวกับปริมาณสินรทองคำ แต่ดำเนินการจัดทำโดย COMO Engineers Pty. Ltd.
-รายงานดังกล่าวมีความสำคัญขนาดไหน
ขอบเขตของรายงาน Information Memorandum นั้น จัดทำขึ้นเพื่อยืนยันความเพียงพอของปริมาณสินแร่รวมทั้งระบุว่าการดำเนินโครงการเหมืองทองคำในระยะเริ่มต้น 4 ปี สามารถให้ผลตอบแทนเพื่อชำระคืนเงินกู้และคืนเงินลงทุนได้อย่างแน่นอนเดิมที่ล่าช้าแค่ process เริ่มขึ้นแค่นั้นแต่งานสาธารณูปโภคพื้นฐานเราเริ่มไปแล้ว
-ความคืบหน้าเรื่องเงินกู้
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ไปคุยกับสถาบันการเงิน เค้ารีวิวสุดท้าย ในหลักการเชื่อน่าจะให้เรากู้อยู่แล้วอย่างช้าขั้นตอนทำงานและทำสัญญา น่าจะใช้เวลาประมาณไม่เกิน 2 เดือนนับจากนี้ คงยังไม่จบในเดือน ก.ย. และเมื่อได้รายงานจาก third party แล้วจะทำให้สถาบันการเงินเชื่อถือมากขึ้นไม่ใช่ว่าข้อมูลที่นำเสนอไปเรามุบมิบทำเอาเอง
-ได้รับเอกสารดังกล่าวมาเมื่อไหร่
สัปดาห์ที่แล้ว เมื่อ กลุ่มบุคคลนี้เป็นกลุ่มใหม่ เพราะเจ้าเก่าที่จ้างเค้าไปรับงานใหญ่ที่มองโกเลียทำให้ไม่สามารถส่งคนมาทำงานให้ทุ่งคำได้ ก็เลยต้องจ้างอีกทีมเข้ามา
-ขั้นตอนหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร
เมื่อแบงก์มั่นใจ ขั้นตอนการกู้เงินจะเดินหน้า แต่งานของเราไม่ได้หยุดที่แบงก์ ที่ผ่านมางานคืบหน้าไปเยอะแล้วเพราะเรามี bridging loan จากซิกโก้ มาซัพพอร์ตงานด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานรอไปพลางๆ
-กู้เงินมากแค่ไหนและขั้นตอนต่อจากนี้
จะกู้เงินมาใช้ประมาณ 20 ล้านเหรียญ ซึ่งจะคืนทุนได้ภายใน 10 ปี หลังจากได้งินกู้ก็คอนเฟิร์มซัพพลายเออร์เข้ามาติดตั้งโรงงานถลุงแร่ ใช้เวลา 6 เดือน ประมาณไตรมาส 2 ปี 2547ก็เริ่มผลิตได้เลย วันแรกที่ผลิตวันที่ 2 ก็ได้ทองคำเลย
-ปริมาณการทางด้านการเงินที่จะได้จากทองคำมากแค่ไหน
ตามปริมาณที่สำรวจพบ คาดว่าจะมีกำไรไม่น้อยกว่า 1 บาท/หุ้น/ปี โดยปีแรกจะเยอะหน่อย แต่ให้ตัวเลขรวมๆ ดีกว่า โปรดเจ็คนี้ 4 ปีแรก จะมี revenue ประมาณ 60 ล้านเหรียญ และเป็น net cash margin ประมาณ 35 ล้านเหรียญ แต่ปีแรกจะมีรายได้สูง เพราะเราจะขุดตรงที่ปริมาณทองมากๆ
-ประมาณการรายได้คำนวณจากราคาทองคำที่ระดับ
ราคาทองคำ 4 ปี แรกคิดที่ระดับราคาทอง 350 เหรียญ ปัจจุบันอยู่ที่ 375 เหรียญ แต่เรายังไม่ได้นับรวมถึงพื้นที่โดยรอบ เรายังประทานบัตรที่รอการอนุมัติอีก 114 แปลง ซึ่งขณะนี้เพิ่งได้อนุมัติ 6 แปลง ประมาณ 600,000 ออนซ์ พื้นที่ยังสามารถที่จะพัฒนาได้อีก
-คาดหวังกับหุ้น THL แค่ไหน
เทียบจากเหมืองอัคราไมนิ่ง ที่พิจิตร list อยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย วันแรกที่เค้าสำรวจพบ ทำรีพอร์ตขึ้นมายังไม่มีการผลิตไม่มีอะไรเลยเค้า list ที่ 25 เซนต์ขึ้นไปถึง 2 เหรียญกว่า ผลิตวันแรกขึ้นไปถึง 3.50 เหรียญ ซึ่งเหมืองของเค้าเล็กกว่าของเรามาก อายุของเหมืองก็ไม่น่าจะเกิน 10 ปี เพราะมีพื้นที่แค่ 2 ตารางกิโลเมตร เทียบกับของ THL ที่มีพื้นที่ถึง 33 ตารางกิโลเมตร
-ทองคำที่สำรวจในเหมืองอัคราไมนิ่งมีมากแค่ไหน
เฟสแรกเรามีเท่าๆ กับเค้า เพราะเค้าพยายามที่จะ proof up ทั้งหมดในพื้นที่ ที่เค้ามี แต่ของเราคิดแค่ 60 เมตรแรก ปริมาณทองของทุ่งคำ 4 ปีแรก มีประมาณ 200,000 ออนซ์ จากการประมาณการ 600,000 ออนซ์ในเวลาประมาณ 12 ปี
-ผลประกอบการไตรมาส 3/46 จะออกมาขาดทุนอีกรึเปล่า
ไตรมาส 3 ก็ยังขาดทุน แต่คงดีขึ้นนิดหน่อยจากไตรมาส 1-2 เพราะเพิ่งได้ส่งมอบหินล็อตสุดท้าย ให้การรถไฟแต่ขอให้เข้าใจ THL ไม่ได้ขาดทุนจากการดำเนินงาน แต่เราขาดทุนเพราะ hold ทุ่งคำเอาไว้ซึ่งยังไม่มีรายได้ และเป็นเงิน investment ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ย แต่ถ้าเหมืองทำคำเกิดทำกำไรให้ได้ 20-30 เท่า ขาดทุนตรงนี้ไม่มีผลเพราะมัน Cover ได้หมด ฉะนั้นขาดทุนไตรมาสละ 9 ล้านบาทไม่มีผลต่อราคาหุ้น
-แล้วทั้งปีประเมินเป็นอย่างไร
ปีนี้คงยังขาดทุนต่อเนื่อง เพราะรายได้ที่เข้า cover แค่ cash cost ซึ่งประมาณการขาดทุนทั้งปีคงจะใกล้เคียงกับปีที่แล้วน่าจะประมาณ 18-20 ล้านบาท แม้ว่ายังเหลืออีก 2 ไตรมาสซึ่งน่าจะขาดทุนมาก แต่ช่วงต้นปี ขาดทุนมากเพราะ STRD ซึ่งเป็นบริษัทคู่กับของเราตอนหลังโดนเทคโอเวอร์ เมื่อมีการตรวจสอบทรัพย์สินแล้วไม่พบก็เกิด loss ทำให้ต้องบันทึกหนี้สูญ อีกทั้งรายได้จากหินแอนดีไซท์ ลดลง เนื่องจากการรถไฟไม่ซื้อหินแล้วหลังจากสัปดาห์ที่แล้วเพิ่งมอบล็อตสุดท้ายไป 10,000 ตัน ต่อไปก็คงขายได้เดือนละประมาณ 1 ล้านบาท เป็นการขายหน้าโรงงานขายผู้รับเหมารายย่อยทั่วไป จากที่เคยขายได้ 5-6 ล้านบาท
-แผนสร้างตึก 28 ชั้นบนพื้นที่แถวรัชดา
ตัวตึกอยู่ระหว่างทำ deal diligent กับพาร์ทเนอร์อีกคน อาจจะออกมาในรูปคอนโดมิเนียมหรือเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ จุดขายคือใกล้สถานีรถใต้ดินอยู่ในโซนที่มีชาวต่างชาติอยู่เยอะพอสมควรและคิดว่าน่าจะรองรับได้เพราะตลาดพวกนี้เริ่มบูม สังเกตดูตึกที่มีพื้นที่บริเวณที่มีขนส่งมวลชน ปรากฎว่ามียอดจองซื้อที่สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็วที่ดินตรงนี้ศักยภาพสูงและมีข้อได้เปรียบอีกอย่างคือใบอนุญาติที่ขอไว้ทำให้มีสิทธิทำตึกสูงขณะที่กฎใหม่ทำไม่ได้แล้วจะทำได้แค่ 8 ชั้น
-ทำไมต้องมีพาร์ทเนอร์
เรายังต้องการเน้นธุรกิจทองคำเป็นหลัก ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่มีความเชี่ยวชาญมากนัก พาร์ทเนอร์ที่เจรจาเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในหมวดอสังหาริมทรัพย์ ดีลคงใกล้ตกลงแล้ว เพราะทางเค้ารอเข้าบอร์ดอนุมัติ
-รูปแบบการร่วมทุนเป็นอย่างไร
ที่ดินตรงนี้ถือในนามสกายคลิฟ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ทุ่งคาฯ คิดว่าอาจจะขายหุ้นบางส่วนของเราออกไปให้เค้าเพื่อถือคนละ 50:50 บริหารร่วมกัน
-โปรเจ็คนี้ใช้เงินลงทุนมากแค่ไหน
ใช้เงินลงทุนประมาณ 800 ล้านบาท ส่วนมูลค่าโครงการถ้าดูจากตลาดปัจจุบัน พื้นที่ขายประมาณ 30,000 บาท/ตารางเมตร ถ้าเราขาย 60,000 บาท/ตารางเมตร น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,500-1,800 ล้านบาท
-เอาเงินมาจากไหน
ถ้าจะทำก็เอาที่ดินไปเข้าแบงก์แล้วเอาเงินออกมา ซึ่งที่ดินตรงนี้ประมาณ 3.4 ไร่ มูลค่าประมาณ 420 ล้านบาท น่าจะได้ประมาณ 500 ล้านบาท เหลือ 300 ล้านบาท ก็ค่อยควักเงินคนละครึ่ง แต่อาจจะไม่จ่ายเลยก็ได้ เพราะเราจะเปิดพรีเซลก่อน คือเปิดขายก่อนสร้างก็ได้เงินเข้ามา
-จะมีปัญหาเรื่องการปล่อยกู้รึเปล่า
เดี๋ยวนี้แบงก์เน้นการปล่อยมาก ถ้าสร้างเซอร์วิท อพาร์ทม้นท์จะชอบมาก เพราะมอง 2 สเต็ป สเต็ปแรกปล่อยกู้ได้เงินไปแล้ว 1 ก้อน สเต็ปที่ 2 หลังจากที่คนมาซื้อก็ให้ไฟแนนซ์ต่อด้วย
-ความคืบหน้าของแผนพัฒนาพื้นที่ภูเก็ต
พื้นที่ภูเก็ต ก็ใกล้เหมือนกัน แต่ไม่สามารถสรุปได้ เพราะอยู่นอกเหนือความสามารถของบริษัท เพราะอยู่ในมือรัฐบาล แต่ถ้าไฟเขียวเมื่อไหร่ก็เดินหน้าได้เลย เราเข้าไปพรีเซนมา 3 ครั้งแล้ว ที่ผ่านมาก็ request เพิ่ม แต่ impact ค่อนข้างดี
-วางแผนจะทำอะไรบ้าง
โครงการที่จะทำหลักคือรัฐบาลต้องการมีศูนย์ประชุมก่อน แต่ถ้ามีศูนย์ประชุมอย่างเดียว ก็ถูก comment ว่าถ้าบินมาเพื่อประชุมแล้วบินกลับก็ไม่คุ้ม เพราะเหนื่อยและส่วนใหญ่ผู้ที่มาประชุมจะขนครบครัวมาด้วย ดังนั้นนอกจากคิดจะทำท่าเรือท่องเที่ยว แล้วต้องหากิจกรรมเพิ่มทั้งช้อปปิ้ง,สวนสนุก,ดิวตี้ฟรี
-โปรเจ็คนี้จะใช้เงินลงทุนมากแค่ไหน
คิดแค่เฟสแรกทำพื้นที่ขึ้นมาและวางระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานใช้เงินลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท จากนั้นก็จัดสรรขอเช่าพื้นที่จากรัฐบาลเพื่อบริหารท่าเรือต่อ
ณัฐสินี ระเบียบนาวีนุรักษ์
www.eFinanceThai.com
โรนัลด์ อึ้ง วาย ชอย.. เจ้านายใหญ่ THL
"หุ้น THL พุ่งแรงเพราะปัจจัยพื้นฐาน..ไม่ใช่แรงเก็งกำไร"
-ช่วงนี้หุ้น THL ปรับตัวขึ้นแรงมาก
การปรับขึ้นของหุ้น THL ไม่ใช่เพราะการเก็งกำไร แต่ขึ้นเพราะปัจจัยพื้นฐานจริงๆจากโครงการเหมืองทองคำ โดยเมื่อ 1-2 เดือนที่ผ่านมามีทั้งโบรกเกอร์และกองทุนจากไทยและต่างประเทศเข้ามา visit แทบทุกวัน หลังจากนั้นก็ขอข้อมูลตามมาอีกครั้งที่ 3 ครั้ง 4 ก็เลยทราบว่าต่างชาติไปซื้อหุ้นเยอะโดยดัชนีของกลุ่มหุ้นเราก็ไม่ได้หวือหวาเท่าไหร่
-เพราะสาเหตุอะไรหุ้นถึงขึ้นแรง
อาจเป็นเพราะ third party หรือ Edward Brennan, ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐศาสตร์ธรณีวิทยา ชาวออสเตรเลีย ผู้มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านธรณีวิทยาเป็นอย่างดี และเป็นสมาชิกของ Australasian Institute of Mining and Metallurgy (AIMM) ได้ยืนยันเกี่ยวกับปริมาณสินรทองคำ แต่ดำเนินการจัดทำโดย COMO Engineers Pty. Ltd.
-รายงานดังกล่าวมีความสำคัญขนาดไหน
ขอบเขตของรายงาน Information Memorandum นั้น จัดทำขึ้นเพื่อยืนยันความเพียงพอของปริมาณสินแร่รวมทั้งระบุว่าการดำเนินโครงการเหมืองทองคำในระยะเริ่มต้น 4 ปี สามารถให้ผลตอบแทนเพื่อชำระคืนเงินกู้และคืนเงินลงทุนได้อย่างแน่นอนเดิมที่ล่าช้าแค่ process เริ่มขึ้นแค่นั้นแต่งานสาธารณูปโภคพื้นฐานเราเริ่มไปแล้ว
-ความคืบหน้าเรื่องเงินกู้
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ไปคุยกับสถาบันการเงิน เค้ารีวิวสุดท้าย ในหลักการเชื่อน่าจะให้เรากู้อยู่แล้วอย่างช้าขั้นตอนทำงานและทำสัญญา น่าจะใช้เวลาประมาณไม่เกิน 2 เดือนนับจากนี้ คงยังไม่จบในเดือน ก.ย. และเมื่อได้รายงานจาก third party แล้วจะทำให้สถาบันการเงินเชื่อถือมากขึ้นไม่ใช่ว่าข้อมูลที่นำเสนอไปเรามุบมิบทำเอาเอง
-ได้รับเอกสารดังกล่าวมาเมื่อไหร่
สัปดาห์ที่แล้ว เมื่อ กลุ่มบุคคลนี้เป็นกลุ่มใหม่ เพราะเจ้าเก่าที่จ้างเค้าไปรับงานใหญ่ที่มองโกเลียทำให้ไม่สามารถส่งคนมาทำงานให้ทุ่งคำได้ ก็เลยต้องจ้างอีกทีมเข้ามา
-ขั้นตอนหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร
เมื่อแบงก์มั่นใจ ขั้นตอนการกู้เงินจะเดินหน้า แต่งานของเราไม่ได้หยุดที่แบงก์ ที่ผ่านมางานคืบหน้าไปเยอะแล้วเพราะเรามี bridging loan จากซิกโก้ มาซัพพอร์ตงานด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานรอไปพลางๆ
-กู้เงินมากแค่ไหนและขั้นตอนต่อจากนี้
จะกู้เงินมาใช้ประมาณ 20 ล้านเหรียญ ซึ่งจะคืนทุนได้ภายใน 10 ปี หลังจากได้งินกู้ก็คอนเฟิร์มซัพพลายเออร์เข้ามาติดตั้งโรงงานถลุงแร่ ใช้เวลา 6 เดือน ประมาณไตรมาส 2 ปี 2547ก็เริ่มผลิตได้เลย วันแรกที่ผลิตวันที่ 2 ก็ได้ทองคำเลย
-ปริมาณการทางด้านการเงินที่จะได้จากทองคำมากแค่ไหน
ตามปริมาณที่สำรวจพบ คาดว่าจะมีกำไรไม่น้อยกว่า 1 บาท/หุ้น/ปี โดยปีแรกจะเยอะหน่อย แต่ให้ตัวเลขรวมๆ ดีกว่า โปรดเจ็คนี้ 4 ปีแรก จะมี revenue ประมาณ 60 ล้านเหรียญ และเป็น net cash margin ประมาณ 35 ล้านเหรียญ แต่ปีแรกจะมีรายได้สูง เพราะเราจะขุดตรงที่ปริมาณทองมากๆ
-ประมาณการรายได้คำนวณจากราคาทองคำที่ระดับ
ราคาทองคำ 4 ปี แรกคิดที่ระดับราคาทอง 350 เหรียญ ปัจจุบันอยู่ที่ 375 เหรียญ แต่เรายังไม่ได้นับรวมถึงพื้นที่โดยรอบ เรายังประทานบัตรที่รอการอนุมัติอีก 114 แปลง ซึ่งขณะนี้เพิ่งได้อนุมัติ 6 แปลง ประมาณ 600,000 ออนซ์ พื้นที่ยังสามารถที่จะพัฒนาได้อีก
-คาดหวังกับหุ้น THL แค่ไหน
เทียบจากเหมืองอัคราไมนิ่ง ที่พิจิตร list อยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย วันแรกที่เค้าสำรวจพบ ทำรีพอร์ตขึ้นมายังไม่มีการผลิตไม่มีอะไรเลยเค้า list ที่ 25 เซนต์ขึ้นไปถึง 2 เหรียญกว่า ผลิตวันแรกขึ้นไปถึง 3.50 เหรียญ ซึ่งเหมืองของเค้าเล็กกว่าของเรามาก อายุของเหมืองก็ไม่น่าจะเกิน 10 ปี เพราะมีพื้นที่แค่ 2 ตารางกิโลเมตร เทียบกับของ THL ที่มีพื้นที่ถึง 33 ตารางกิโลเมตร
-ทองคำที่สำรวจในเหมืองอัคราไมนิ่งมีมากแค่ไหน
เฟสแรกเรามีเท่าๆ กับเค้า เพราะเค้าพยายามที่จะ proof up ทั้งหมดในพื้นที่ ที่เค้ามี แต่ของเราคิดแค่ 60 เมตรแรก ปริมาณทองของทุ่งคำ 4 ปีแรก มีประมาณ 200,000 ออนซ์ จากการประมาณการ 600,000 ออนซ์ในเวลาประมาณ 12 ปี
-ผลประกอบการไตรมาส 3/46 จะออกมาขาดทุนอีกรึเปล่า
ไตรมาส 3 ก็ยังขาดทุน แต่คงดีขึ้นนิดหน่อยจากไตรมาส 1-2 เพราะเพิ่งได้ส่งมอบหินล็อตสุดท้าย ให้การรถไฟแต่ขอให้เข้าใจ THL ไม่ได้ขาดทุนจากการดำเนินงาน แต่เราขาดทุนเพราะ hold ทุ่งคำเอาไว้ซึ่งยังไม่มีรายได้ และเป็นเงิน investment ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ย แต่ถ้าเหมืองทำคำเกิดทำกำไรให้ได้ 20-30 เท่า ขาดทุนตรงนี้ไม่มีผลเพราะมัน Cover ได้หมด ฉะนั้นขาดทุนไตรมาสละ 9 ล้านบาทไม่มีผลต่อราคาหุ้น
-แล้วทั้งปีประเมินเป็นอย่างไร
ปีนี้คงยังขาดทุนต่อเนื่อง เพราะรายได้ที่เข้า cover แค่ cash cost ซึ่งประมาณการขาดทุนทั้งปีคงจะใกล้เคียงกับปีที่แล้วน่าจะประมาณ 18-20 ล้านบาท แม้ว่ายังเหลืออีก 2 ไตรมาสซึ่งน่าจะขาดทุนมาก แต่ช่วงต้นปี ขาดทุนมากเพราะ STRD ซึ่งเป็นบริษัทคู่กับของเราตอนหลังโดนเทคโอเวอร์ เมื่อมีการตรวจสอบทรัพย์สินแล้วไม่พบก็เกิด loss ทำให้ต้องบันทึกหนี้สูญ อีกทั้งรายได้จากหินแอนดีไซท์ ลดลง เนื่องจากการรถไฟไม่ซื้อหินแล้วหลังจากสัปดาห์ที่แล้วเพิ่งมอบล็อตสุดท้ายไป 10,000 ตัน ต่อไปก็คงขายได้เดือนละประมาณ 1 ล้านบาท เป็นการขายหน้าโรงงานขายผู้รับเหมารายย่อยทั่วไป จากที่เคยขายได้ 5-6 ล้านบาท
-แผนสร้างตึก 28 ชั้นบนพื้นที่แถวรัชดา
ตัวตึกอยู่ระหว่างทำ deal diligent กับพาร์ทเนอร์อีกคน อาจจะออกมาในรูปคอนโดมิเนียมหรือเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ จุดขายคือใกล้สถานีรถใต้ดินอยู่ในโซนที่มีชาวต่างชาติอยู่เยอะพอสมควรและคิดว่าน่าจะรองรับได้เพราะตลาดพวกนี้เริ่มบูม สังเกตดูตึกที่มีพื้นที่บริเวณที่มีขนส่งมวลชน ปรากฎว่ามียอดจองซื้อที่สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็วที่ดินตรงนี้ศักยภาพสูงและมีข้อได้เปรียบอีกอย่างคือใบอนุญาติที่ขอไว้ทำให้มีสิทธิทำตึกสูงขณะที่กฎใหม่ทำไม่ได้แล้วจะทำได้แค่ 8 ชั้น
-ทำไมต้องมีพาร์ทเนอร์
เรายังต้องการเน้นธุรกิจทองคำเป็นหลัก ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่มีความเชี่ยวชาญมากนัก พาร์ทเนอร์ที่เจรจาเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในหมวดอสังหาริมทรัพย์ ดีลคงใกล้ตกลงแล้ว เพราะทางเค้ารอเข้าบอร์ดอนุมัติ
-รูปแบบการร่วมทุนเป็นอย่างไร
ที่ดินตรงนี้ถือในนามสกายคลิฟ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ทุ่งคาฯ คิดว่าอาจจะขายหุ้นบางส่วนของเราออกไปให้เค้าเพื่อถือคนละ 50:50 บริหารร่วมกัน
-โปรเจ็คนี้ใช้เงินลงทุนมากแค่ไหน
ใช้เงินลงทุนประมาณ 800 ล้านบาท ส่วนมูลค่าโครงการถ้าดูจากตลาดปัจจุบัน พื้นที่ขายประมาณ 30,000 บาท/ตารางเมตร ถ้าเราขาย 60,000 บาท/ตารางเมตร น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,500-1,800 ล้านบาท
-เอาเงินมาจากไหน
ถ้าจะทำก็เอาที่ดินไปเข้าแบงก์แล้วเอาเงินออกมา ซึ่งที่ดินตรงนี้ประมาณ 3.4 ไร่ มูลค่าประมาณ 420 ล้านบาท น่าจะได้ประมาณ 500 ล้านบาท เหลือ 300 ล้านบาท ก็ค่อยควักเงินคนละครึ่ง แต่อาจจะไม่จ่ายเลยก็ได้ เพราะเราจะเปิดพรีเซลก่อน คือเปิดขายก่อนสร้างก็ได้เงินเข้ามา
-จะมีปัญหาเรื่องการปล่อยกู้รึเปล่า
เดี๋ยวนี้แบงก์เน้นการปล่อยมาก ถ้าสร้างเซอร์วิท อพาร์ทม้นท์จะชอบมาก เพราะมอง 2 สเต็ป สเต็ปแรกปล่อยกู้ได้เงินไปแล้ว 1 ก้อน สเต็ปที่ 2 หลังจากที่คนมาซื้อก็ให้ไฟแนนซ์ต่อด้วย
-ความคืบหน้าของแผนพัฒนาพื้นที่ภูเก็ต
พื้นที่ภูเก็ต ก็ใกล้เหมือนกัน แต่ไม่สามารถสรุปได้ เพราะอยู่นอกเหนือความสามารถของบริษัท เพราะอยู่ในมือรัฐบาล แต่ถ้าไฟเขียวเมื่อไหร่ก็เดินหน้าได้เลย เราเข้าไปพรีเซนมา 3 ครั้งแล้ว ที่ผ่านมาก็ request เพิ่ม แต่ impact ค่อนข้างดี
-วางแผนจะทำอะไรบ้าง
โครงการที่จะทำหลักคือรัฐบาลต้องการมีศูนย์ประชุมก่อน แต่ถ้ามีศูนย์ประชุมอย่างเดียว ก็ถูก comment ว่าถ้าบินมาเพื่อประชุมแล้วบินกลับก็ไม่คุ้ม เพราะเหนื่อยและส่วนใหญ่ผู้ที่มาประชุมจะขนครบครัวมาด้วย ดังนั้นนอกจากคิดจะทำท่าเรือท่องเที่ยว แล้วต้องหากิจกรรมเพิ่มทั้งช้อปปิ้ง,สวนสนุก,ดิวตี้ฟรี
-โปรเจ็คนี้จะใช้เงินลงทุนมากแค่ไหน
คิดแค่เฟสแรกทำพื้นที่ขึ้นมาและวางระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานใช้เงินลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท จากนั้นก็จัดสรรขอเช่าพื้นที่จากรัฐบาลเพื่อบริหารท่าเรือต่อ
ณัฐสินี ระเบียบนาวีนุรักษ์
www.eFinanceThai.com