GMMM
GMMM: คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3 ลดลง 4.5% q-q แต่ยังคงความน่าสนใจ
GMMM: คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3 ลดลง 4.5% q-q แต่ยังคงความน่าสนใจอยู่ (ซื้อ)
ราคาปิด: 37.75 บาท
ราคาเป้าหมายปลายปี 2547: 51.70 บาท
คาดรายได้จากธุรกิจโทรทัศน์ไตรมาส 3/46 เติบโต 3% q-q และเติบโตถึง 753% y-y
เนื่องมาจาก GMMM เริ่มดำเนินรายการใหม่ 4 รายการในไตรมาส 2/46 ส่วนรายได้จากธุรกิจวิทยุคาดว่าจะอยู่ระดับเดียวกับในไตรมาส 2/46 แต่ เพิ่มขึ้น 70% y-y เนื่องจากว่า การแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นในธุรกิจวิทยุ และการที่มีสถานีวิทยุคลื่นใหม่ ๆ ที่มีกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเดียวกันกับ GMMM จึงอาจทำให้รายได้ในส่วนของวิทยุไม่เติบโตขึ้นจากไตรมาส 2/46
โดยรวมแล้วคาดว่ารายได้ในไตรมาส 3 จะเพิ่มขึ้น 2.8% q-q และ 174.4% y-y
แต่คาดว่า กำไรสุทธิจะลดลง 4.5% จากไตรมาส 2/46 แต่เพิ่มขึ้น 116% y-y ที่ลดลงเนื่องมาจาก ต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้นจากการเปิดนิตยสารใหม่ ทำให้ GMMM มีการรับรู้ต้นทุนที่สูงขึ้น
คาดจ่ายเงินปันผลครึ่งปีหลัง 0.95 บาท/หุ้น
สำหรับงวด 2H03 โดยคิดเป็น อัตราผลตอบแทน 2.5% และเมื่อรวมกับผลตอบแทนที่จ่ายไปแล้ว 1 บาท/หุ้น ใน 1H03 คาด GMMM จ่ายเงินปันผลปี 2546 เท่ากับ 5.2% และคาดจ่ายเงินปันผล 2.1 บาท/หุ้น สำหรับปี 2547 โดยคิดเป็นอัตราผลตอบแทน 5.7%
ยังคงแนะนำซื้อสำหรับ GMMM
เนื่องจากความแข็งแกร่งทางด้านธุรกิจของบริษัท โดยเราคาดว่า บริษัทจะมีกำไรสุทธิในปี 2547 ที่ 621 ลบ. และ EPS 3.10 บาท/หุ้น GMMM มีค่า PE ปัจจุบัน 15 เท่า PBV 3.8 เท่า และ EV/EBITDA 10.2 เท่า ซึ่งยังต่ำกว่า PE ที่ควรจะเป็นที่ 17 เท่า ซึ่งคิดลดจาก GRAMMY ดังนั้นราคาพื้นฐานของ GMMM ณ สิ้นปี 2547 จะเท่ากับ 51.7 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาปัจจุบัน 37% จึงแนะนำซื้อ
ที่มา: บล.ไซรัส (14 ตุลาคม 2546)
ราคาปิด: 37.75 บาท
ราคาเป้าหมายปลายปี 2547: 51.70 บาท
คาดรายได้จากธุรกิจโทรทัศน์ไตรมาส 3/46 เติบโต 3% q-q และเติบโตถึง 753% y-y
เนื่องมาจาก GMMM เริ่มดำเนินรายการใหม่ 4 รายการในไตรมาส 2/46 ส่วนรายได้จากธุรกิจวิทยุคาดว่าจะอยู่ระดับเดียวกับในไตรมาส 2/46 แต่ เพิ่มขึ้น 70% y-y เนื่องจากว่า การแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นในธุรกิจวิทยุ และการที่มีสถานีวิทยุคลื่นใหม่ ๆ ที่มีกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเดียวกันกับ GMMM จึงอาจทำให้รายได้ในส่วนของวิทยุไม่เติบโตขึ้นจากไตรมาส 2/46
โดยรวมแล้วคาดว่ารายได้ในไตรมาส 3 จะเพิ่มขึ้น 2.8% q-q และ 174.4% y-y
แต่คาดว่า กำไรสุทธิจะลดลง 4.5% จากไตรมาส 2/46 แต่เพิ่มขึ้น 116% y-y ที่ลดลงเนื่องมาจาก ต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้นจากการเปิดนิตยสารใหม่ ทำให้ GMMM มีการรับรู้ต้นทุนที่สูงขึ้น
คาดจ่ายเงินปันผลครึ่งปีหลัง 0.95 บาท/หุ้น
สำหรับงวด 2H03 โดยคิดเป็น อัตราผลตอบแทน 2.5% และเมื่อรวมกับผลตอบแทนที่จ่ายไปแล้ว 1 บาท/หุ้น ใน 1H03 คาด GMMM จ่ายเงินปันผลปี 2546 เท่ากับ 5.2% และคาดจ่ายเงินปันผล 2.1 บาท/หุ้น สำหรับปี 2547 โดยคิดเป็นอัตราผลตอบแทน 5.7%
ยังคงแนะนำซื้อสำหรับ GMMM
เนื่องจากความแข็งแกร่งทางด้านธุรกิจของบริษัท โดยเราคาดว่า บริษัทจะมีกำไรสุทธิในปี 2547 ที่ 621 ลบ. และ EPS 3.10 บาท/หุ้น GMMM มีค่า PE ปัจจุบัน 15 เท่า PBV 3.8 เท่า และ EV/EBITDA 10.2 เท่า ซึ่งยังต่ำกว่า PE ที่ควรจะเป็นที่ 17 เท่า ซึ่งคิดลดจาก GRAMMY ดังนั้นราคาพื้นฐานของ GMMM ณ สิ้นปี 2547 จะเท่ากับ 51.7 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาปัจจุบัน 37% จึงแนะนำซื้อ
ที่มา: บล.ไซรัส (14 ตุลาคม 2546)
ปัจจัยบวกจากธุรกิจสื่อเติบโตต่อเนื่องและสายธุรกิจใหม่เติบโต
ปัจจัยบวกจากธุรกิจสื่อเติบโตต่อเนื่องและสายธุรกิจใหม่เติบโตดีกว่าคาด
การดำเนินธุรกิจของบริษัทในปัจจุบันยังคงได้รับผลดีจากการเติบโตจากเม็ดเงินโฆษณาที่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยในส่วนของธุรกิจสิ่งพิมพ์นั้นหลังจากที่ได้เปิดตัวนิตยสารใหม่และได้ออกจำหน่ายตั้งแต่ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาคือ มาดามฟิกาโร่ นั้นได้รับการตอบรับจากผู้ลงโฆษณาดีกว่าที่คาดเอาไว้ ส่งผลให้รายได้จากค่าโฆษณาในส่วนของธุรกิจสิ่งพิมพ์จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมานัยสำคัญ
ทางด้านสายธุรกิจโทรทัศน์นั้นก็ได้มีการปรับตัวดีขึ้นจากรายการใหม่ ๆ ที่เริ่มเห็นผลมาตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่สอง ซึ่งแม้ว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะไม่มีรายการโทรทัศน์ปรับเพิ่มขึ้นมาก็จะยังคงเห็นการเติบโตอย่างแน่นอน อย่างไรก็ดีทางบริษัทได้ทำสัญญากับช่องเก้า เพื่อนำภาพยนตร์วีซีดีของกล่มบริษัทเข้าฉาย และแบ่งรายได้ในลักษณะ 70:30 ในช่วงวันอาทิตย์เวลา 22.00-23.00 น. เริ่มฉายตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา
สำหรับธุรกิจสื่อวิทยุในช่วง 1H46 มีการเติบโตอย่างมากนั้นพบว่าในปัจจุบันการแข่งขัน เริ่มมีการแข่งขันที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น อาทิ FM 89 Virgin และ FM 90 คลื่นมหาชน ของ TRAF ได้เริ่มแย่งส่วนแบ่งตลาดของบริษัท ซึ่งแม้ว่าจะไม่ส่งผลลบอย่างมานัยสำคัญต่อตลาดในปัจจุบันแต่คาดว่าจะทำให้การขยายตัวลำบากยิ่งขึ้น
ทางด้านการลงทุนของ GMMM ในอนาคตนั้นคาดว่าจะใช้ในส่วนของสายธุรกิจสิ่งพิมพ์เป็นหลักหากจะมีการลงทุน ซึ่งจะเป็นไปในรูปแบบใดนั้นขึ้นกับความเหมาะสมและผลตอบแทนจากการเข้าดำเนินธุรกิจ โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 3-5 ล้านบาทต่อนิตยสาร
ความเห็น: จากแนวโน้มการขยายตัวของธุรกิจบันเทิงและสันทนาการในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีการแข่งขันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก แต่ทว่าบริษัทยังคงสามารถสร้างการเติบโตและรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีการสร้างสายธุรกิจผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อกระจายความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เราคาดการณ์กำไรสุทธิในปี 2546 ราว 505 ล้านบาท EPS 2.52 บาท PER 18 เท่า ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2546 ราว 45.36 บาท ทั้งนี้ในด้านการเติบโตในปี 2547 น่าจะมาจากสายธุรกิจสิ่งพิมพ์เป็นหลัก เนื่องจากเป็นมุมมองเดียวในปัจจุบันที่บริษัทยังคงต้องการจะลงทุนเพิ่ม เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ
ที่มา: บล.ฟิลลิป (14 ตุลาคม 2546)
การดำเนินธุรกิจของบริษัทในปัจจุบันยังคงได้รับผลดีจากการเติบโตจากเม็ดเงินโฆษณาที่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยในส่วนของธุรกิจสิ่งพิมพ์นั้นหลังจากที่ได้เปิดตัวนิตยสารใหม่และได้ออกจำหน่ายตั้งแต่ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาคือ มาดามฟิกาโร่ นั้นได้รับการตอบรับจากผู้ลงโฆษณาดีกว่าที่คาดเอาไว้ ส่งผลให้รายได้จากค่าโฆษณาในส่วนของธุรกิจสิ่งพิมพ์จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมานัยสำคัญ
ทางด้านสายธุรกิจโทรทัศน์นั้นก็ได้มีการปรับตัวดีขึ้นจากรายการใหม่ ๆ ที่เริ่มเห็นผลมาตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่สอง ซึ่งแม้ว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะไม่มีรายการโทรทัศน์ปรับเพิ่มขึ้นมาก็จะยังคงเห็นการเติบโตอย่างแน่นอน อย่างไรก็ดีทางบริษัทได้ทำสัญญากับช่องเก้า เพื่อนำภาพยนตร์วีซีดีของกล่มบริษัทเข้าฉาย และแบ่งรายได้ในลักษณะ 70:30 ในช่วงวันอาทิตย์เวลา 22.00-23.00 น. เริ่มฉายตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา
สำหรับธุรกิจสื่อวิทยุในช่วง 1H46 มีการเติบโตอย่างมากนั้นพบว่าในปัจจุบันการแข่งขัน เริ่มมีการแข่งขันที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น อาทิ FM 89 Virgin และ FM 90 คลื่นมหาชน ของ TRAF ได้เริ่มแย่งส่วนแบ่งตลาดของบริษัท ซึ่งแม้ว่าจะไม่ส่งผลลบอย่างมานัยสำคัญต่อตลาดในปัจจุบันแต่คาดว่าจะทำให้การขยายตัวลำบากยิ่งขึ้น
ทางด้านการลงทุนของ GMMM ในอนาคตนั้นคาดว่าจะใช้ในส่วนของสายธุรกิจสิ่งพิมพ์เป็นหลักหากจะมีการลงทุน ซึ่งจะเป็นไปในรูปแบบใดนั้นขึ้นกับความเหมาะสมและผลตอบแทนจากการเข้าดำเนินธุรกิจ โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 3-5 ล้านบาทต่อนิตยสาร
ความเห็น: จากแนวโน้มการขยายตัวของธุรกิจบันเทิงและสันทนาการในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีการแข่งขันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก แต่ทว่าบริษัทยังคงสามารถสร้างการเติบโตและรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีการสร้างสายธุรกิจผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อกระจายความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เราคาดการณ์กำไรสุทธิในปี 2546 ราว 505 ล้านบาท EPS 2.52 บาท PER 18 เท่า ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2546 ราว 45.36 บาท ทั้งนี้ในด้านการเติบโตในปี 2547 น่าจะมาจากสายธุรกิจสิ่งพิมพ์เป็นหลัก เนื่องจากเป็นมุมมองเดียวในปัจจุบันที่บริษัทยังคงต้องการจะลงทุนเพิ่ม เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ
ที่มา: บล.ฟิลลิป (14 ตุลาคม 2546)
ขออนุญาติคุณ Invisible Hand นำบทความจากกระทิงเขียว มาเผยแพร่ที่นี่ด้วยครับ
GMMM มีแผนที่จะเพิ่มคลื่นใหม่และท้ายที่สุดก็ได้ 94.5 มา ถ้าทำได้ GMMM อยากจะทำเพลงลูกทุ่งเพราะตลาดยังไปได้ดี แต่ resource ในองค์กรไม่เพียงพอที่จะทำได้และ GMMM ก็ไม่มีประสบการณ์มาก่อน ปกติแล้วคลื่นใหม่ที่ได้มาจะเปิดเพลงเอาไว้ก่อนจนกว่าจะมีการฟอร์มทีมงานหรือคิด concept รายการได้ว่าท้ายสุดจะเอายังไง แต่ผมคิดว่าเค้าคงทำเพลงไทยสากลครับ
ซึ่งหากทำเพลงไทยสากลจริงๆ ผมคิดว่ามันจะเริ่มมากเกินเพราะก่อนหน้านี้ นอกจาก Green wave กับ Bangkok radio แล้ว อีก 3 คลื่นคือ 88 91.5 93.5 ก็ไม่มีรูปแบบรายการหรือกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนนัก และไม่สามารถทำรายได้เป็นกอบเป็นกำนัก หากเพิ่มคลื่นเพลงไทยสากลเข้าไป ผมไม่รู้ว่าคราวนี้จะกินกันเองรึเปล่านะครับ หากจะทำจริงๆ เป็นผมอาจจะเลือกทำเพลงแนวอินดี้หรืออาศัยกระแสหนังเรื่องแฟนฉันแล้วทำเป็นเพลงไทยสากลเก่าๆ หรือเพลงร่วมสมัยมั้งครับ แต่ค่าย Grammy มักจะทำให้ผมผิดหวังในเรื่อง business strategy บ่อยเหมือนกันครับ ถ้าผมเป็นผู้บริหาร ผมจะเข็นให้ทำเพลงลูกทุ่งให้ได้ครับจะล้มลุกคลุกคลานช่วงแรกก็ยอม หวังว่าจะมีคนในบริษัทมาอ่านกระทู้นี้บ้างนะครับ : )
หาก GMMM เลือกทำเพลงไทยสากลจริง คงต้องดู concept คลื่นอีกที หากไม่มีจุดขายเหมือน 88 91.5 93.5 ก็คงไม่ช่วยเรื่อยรายได้มากนัก ผมยังไม่ทราบค่าสัมปทานนะครับ ขอ check อีกทีว่าแพงแค่ไหน แต่วินาทีนี้ก็แพงเหมือนกันสำหรับการประมูลใหม่ๆ อย่าง 98 รายใหม่ที่แย่ง rs ได้ไปรู้สึกจะจ่าย 5 ล้านต่อเดือนครับ
การแข่งขันที่เยอะขึ้นจาก virgin ในส่วนของธุรกิจวิทยุน่าจะทำให้การปรับราคาโฆษณาในปีนี้ทำได้ลำบากครับ
ปีนี้ กำไรที่เพิ่มขึ้นของ GMMM น่าจะมาจากธุรกิจโทรทัศน์ โดยเฉพาะการได้เวลา prime จากช่อง 3 แต่ยังไงคงต้องขอดูรูปแบบรายการอีกที ผมว่ารายการบางรักซอย 9 สนุกดีนะครับ ถ้าย้ายมาอยู่ช่อง 3 ได้ rating คงจะดีมาก แต่ไม่รู้จะเปลี่ยนชื่อซอยได้รึเปล่า
สรุปว่า ผมอาจจะมองกรอบการเคลื่อนไหวของ GMMM ในช่วงนี้น่าจะอยู่ระหว่าง 35-42 บาทครับ อาจจะขึ้นไม่ได้มากเท่าที่เคยคิดครับ แต่ก็มีโอกาส revise up หากรูปแบบรายการวิทยุคลื่นใหม่และ TV ออกมาดีกว่าที่คิด หรือการแข่งขันในธุรกิจวิทยุเริ่มลดลง
ผมเคยคิดว่า การเป็นผู้นำตลาดของ GMMM ทำให้ GMMM น่าจะปรับค่าโฆษณาได้เรื่อยๆ ทุกปีและค่าโฆษณาที่เพิ่มขึ้นจะลงมาที่กำไรทันทีเพราะต้นทุนเพิ่มไม่มาก และทำให้กำไรเติบโตสูง แต่ปัจจุบันการแข่งขันก็สูงขึ้นทำให้ผมต้องกลับไปย้อนคิดถึงตำราของ Michael E. Porter ที่บอกว่าธุรกิจที่ margin สูงมากๆ หาก barrier to entry ไม่แข่งพอ ก็จะทำให้เกิดการเข้ามาของรายใหม่และจะทำให้ margin ของผู้ประกอบการรายเดิมน้อยลงได้ ซึ่งเราได้เห็นแล้วจากการเข้ามาของ virgin ผมพลาดตรงนี้ไปครับ