โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 14, 2007 12:30 pm
ผมว่าถึง WORK อาจจะโตได้จากการทำหนัง
แต่รายได้ของสินค้าที่ขึ้นกับความนิยมเป็นหลักนี้ประเมินยากมากครับ
หากหนังไม่ได้รับความนิยม ที่ลงทุนไว้ก็แทบไม่เหลือใน งบดุล ให้เห็นเลย
แต่ถ้าดี กำไรดี แล้วเอาเงินไปสร้างหนังอื่นต่อ เกิดไม่ดีก็แย่อีกครับ
ถ้าเป็นหวยก็ ในนึ่งปีต้องแทงให้ถูกมากกว่า 50% ขึ้นไปน่ะครับ
ผมอยากให้ WORK ทำข่าว มากกว่าครับ ทำข่าวให้น่าดู เป็นที่น่าสนใจ
เหมือที่ ดร สมเกียรติ เคยทำให้ บริษัท PACIFIC โด่งดัง
ผมว่า RATING รายการข่าวนี่ไม่แพ้ละครนะครับ คนที่มีกำลังซื้อดูกันเยอะ
ติดที่ว่า WORK ไม่ได้เป็นเจ้าของสถานี
รายการข่าว เหมือนร้านขายน้ำใน FOOD COURT ที่ LOTUS
เพราะ LOTUS ขายน้ำเองใน FOOD COURT Margin ดีสุดยอด จะให้คนอื่น
มาขายทำไมใช่ไหมครับ
สำหรับเรื่องทำหนัง ถ้าเจ้าของโรงหนังมาแบ่งรายได้ คนละ 50/50 หรือ อะไร
ประมาณนี้ ผมว่าซื้อโรงหนังน่าจะปลอดภัยกว่าซื้อบริษัททำหนังนะครับ
แต่รายได้ของสินค้าที่ขึ้นกับความนิยมเป็นหลักนี้ประเมินยากมากครับ
หากหนังไม่ได้รับความนิยม ที่ลงทุนไว้ก็แทบไม่เหลือใน งบดุล ให้เห็นเลย
แต่ถ้าดี กำไรดี แล้วเอาเงินไปสร้างหนังอื่นต่อ เกิดไม่ดีก็แย่อีกครับ
ถ้าเป็นหวยก็ ในนึ่งปีต้องแทงให้ถูกมากกว่า 50% ขึ้นไปน่ะครับ
ผมอยากให้ WORK ทำข่าว มากกว่าครับ ทำข่าวให้น่าดู เป็นที่น่าสนใจ
เหมือที่ ดร สมเกียรติ เคยทำให้ บริษัท PACIFIC โด่งดัง
ผมว่า RATING รายการข่าวนี่ไม่แพ้ละครนะครับ คนที่มีกำลังซื้อดูกันเยอะ
ติดที่ว่า WORK ไม่ได้เป็นเจ้าของสถานี
รายการข่าว เหมือนร้านขายน้ำใน FOOD COURT ที่ LOTUS
เพราะ LOTUS ขายน้ำเองใน FOOD COURT Margin ดีสุดยอด จะให้คนอื่น
มาขายทำไมใช่ไหมครับ
สำหรับเรื่องทำหนัง ถ้าเจ้าของโรงหนังมาแบ่งรายได้ คนละ 50/50 หรือ อะไร
ประมาณนี้ ผมว่าซื้อโรงหนังน่าจะปลอดภัยกว่าซื้อบริษัททำหนังนะครับ