โดย กระแสหุ้น
"การบินไทย" เตรียมจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ชุด THAI 08OA และ THAI10OA ในวันที่ 8 ตุลาคมนี้ โบรกฯเชื่อค่าใช้จ่ายลดลง จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น
นางอรุณี ภิญญาวัธน์ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการเงิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า บริษัทขอแจ้งกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อชำระดอกเบี้ยสำหรับหุ้นกู้ของบริษัทฯ ชุดTHAI 08OA และ THAI 10OA ซึ่งเป็นหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2546 ชุดที่ 1 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2551 (THAI08OA) มูลค่า 5,500 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 5,500,000 หน่วย และ หุ้นกู้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2546 ชุดที่ 2 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2553 (THAI10OA) มูลค่า 4,500 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 4,500,000 หน่วย โดยชำระดอกเบี้ยปีละ 2 ครั้ง คือ ทุกวันที่ 8 เมษายน และ 8 ตุลาคม ของแต่ละปีนั้น
ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK)ในฐานะนายทะเบียนหุ้นกู้และตัวแทนการชำระเงิน ใคร่ขอแจ้งกำหนดการชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ครั้งที่ 2 ในวันที่ 8 ตุลาคม 2547 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 1. หุ้นกู้ ชุดที่ 1 (THAI08OA) อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.00 ต่อปี คำนวณดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2547 ถึง 7 ตุลาคม 2547 รวมระยะเวลาคำนวณ 183 วัน
2. หุ้นกู้ ชุดที่ 2 (THA10OA) อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.70 ต่อปี คำนวณดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2547 ถึง 7 ตุลาคม 2547 รวมระยะเวลาคำนวณ 183 วันโดยมีกำหนดการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนกรรมสิทธิ์หุ้นกู้ เพื่อสิทธิ์ในการรับชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ ดังกล่าว ณ วันที่ 24 กันยายน 2547 เวลา 12.00 น.
อนึ่ง สำหรับแผนการซื้อเครื่องบินใหม่ของTHAI ซึ่งกระทรวงการคลังขอให้บริษัท กลับไปจัดทำรายละเอียดแผนการจัดซื้อ เครื่องบินแอร์บัสแบบ A340-600 เพิ่มเติม เนื่องจากวงเงินกู้สำหรับเครื่องบิน 1 ลำ สูงเกินไปนั้น ทั้งนี้บริษัทได้ชี้แจงว่า บริษัทฯ ได้สั่งซื้อเครื่องบิน A340-600 จำนวน 5 ลำ จากบริษัท แอร์บัส โดยทางบริษัท แอร์บัส ได้ให้สิทธิประโยชน์ (Concession) แก่บริษัทฯ เพื่อใช้เป็นส่วนลดราคาเครื่องบินแต่ละลำในจำนวนที่เท่าๆ กันเมื่อบริษัทฯ ทำการรับมอบเครื่องบินลำนั้นๆ
และเนื่องจากบริษัท แอร์บัส ได้ให้สิทธิประโยชน์ "A340-600 Special Introductory Credit" เพื่อสนับสนุนบริษัทฯ ในการนำเครื่องบินแบบ A340-600 เข้าฝูงบิน โดยได้ระบุเงื่อนไขการรับสิทธิประโยชน์ไว้ว่า บริษัทฯ จะได้รับสิทธิประโยชน์ของเครื่องบิน A340-600 ลำที่ 1 และลำที่ 2 เมื่อบริษัทฯ ทำการรับมอบเครื่องบิน A340-600 ลำที่ 1 ดังนั้น วงเงินกู้สำหรับเครื่องบิน A340-600 ลำที่ 1 จึงต่ำกว่าลำที่ 2 เนื่องจากมีการนำสิทธิประโยชน์ของเครื่องบินทั้ง 2 ลำมาหักลด ในขณะที่เครื่องบิน A340-600 ลำที่ 2 ไม่มีสิทธิประโยชน์มาหักลด
ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการปรับประมาณการกำไร THAI ในปี 2547 ลดลงเหลือ 12,038 ล้านบาท จากเดิมที่ 17,696 ล้านบาท เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ และคาดว่าในครึ่งปีหลังนี้ การบินไทย จะสามารถจ่ายเงินปันผล เหลือ 0.50 บาท /หุ้น โดยในไตรมาส3/257 สิ้นสุดเดือนมิ.ย 47 THAI มีรายได้ 27,102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57% จากงวดเดียวกันปี 2546 เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ซึ่งบริษัทได้รับผลกระทบจากโรคซาร์ส
สำหรับในปี 2548 THAI มีกำไรจำนวน 18,954 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.45% จากปี 2547 เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านการซ่อมบำรุงด้านการตลาดและค่าน้ำมันแต่บริษัทคาดว่าราคาน้ำมันเฉลี่ยและค่าใช้จ่ายการบริการ
THAI
-
Linzhichange
- User
- กระทู้: 1160
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 10, 2005 9:21 pm
เห็นมีคุยเรื่องสิทธิประโยชน์
ผมคนนอกไม่มีทั้งหุ้นไม่เกี่ยวกับองค์กร แต่คิดว่าไม่ควรลดสิทธิประโยชน์นะครับ
มันจะทำลายขวัญและกำลังใจมากกว่า
ที่ต้องทำคือต้องลดพนักงานครับ ตั้งเป้าไปเลยปีละ 5%, 10% เอาแต่ครีม ๆ ไว้ (แต่ต้องแน่ใจนะว่าเลือกแต่ครีมเอาไว้)
ถ้าวิธีนี้การบินไทยได้ซักเกินครึ่งของสิงค์โปร์แอร์ สำหรับ NPM
กำไรซัก 6 บาทต่อหุ้นคงไม่ยาก PE 5 เท่า ราคา 30 บาท
upside 300% ....
แต่สงสัยผมคงต้องรอต่อไป
ผมคนนอกไม่มีทั้งหุ้นไม่เกี่ยวกับองค์กร แต่คิดว่าไม่ควรลดสิทธิประโยชน์นะครับ
มันจะทำลายขวัญและกำลังใจมากกว่า
ที่ต้องทำคือต้องลดพนักงานครับ ตั้งเป้าไปเลยปีละ 5%, 10% เอาแต่ครีม ๆ ไว้ (แต่ต้องแน่ใจนะว่าเลือกแต่ครีมเอาไว้)
ถ้าวิธีนี้การบินไทยได้ซักเกินครึ่งของสิงค์โปร์แอร์ สำหรับ NPM
กำไรซัก 6 บาทต่อหุ้นคงไม่ยาก PE 5 เท่า ราคา 30 บาท
upside 300% ....
แต่สงสัยผมคงต้องรอต่อไป
