โค้ด: เลือกทั้งหมด
การท่องเที่ยวต่างประเทศสำหรับคนไทยในอดีตนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะมีข้อจำกัดหลายด้าน ทั้งข้อมูลการเดินทาง แหล่งท่องเที่ยว สถานพักแรม แหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหาร และข้อจำกัดด้านภาษาในการติดต่อสื่อสาร นักท่องเที่ยวไทยส่วนใหญ่จึงใช้บริการบริษัททัวร์นำเที่ยว เพราะนอกจากสะดวกสบาย ประหยัดเวลา ยังช่วยประสานงานเรื่องที่พัก อาหาร แถมยังมีไกด์ทัวร์นำพาไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ พร้อมอธิบายข้อมูลประกอบ ตลอดจนอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทางอีกด้วย
ในยุคโลกาภิวัตน์ที่ภาษาสากลมีบทบาทมากขึ้น อินเตอร์เน็ตเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น นับว่าเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่างประเทศด้วยตนเองอย่างยิ่ง ข้อจำกัดต่างๆ ในอดีตเริ่มลดลงตามลำดับ ส่งผลดีและทำให้การเดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเองได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ผมอยู่ในกลุ่มที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเอง เพราะสามารถออกแบบการเดินทางไปยังสถานที่ที่ชื่นชอบ เลือกที่พักและร้านอาหารที่เหมาะกับตน มีความยืดหยุ่นในการจัดสรรเวลาโดยไม่ต้องรอหมู่คณะ อย่างไรก็ตาม ข้อดีดังกล่าวต้องแลกกับการทุ่มเทเวลาศึกษาแหล่งท่องเที่ยว ที่พัก วิธีการเดินทาง และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์จริงเช่นกัน
จาก “ทริปเที่ยวเอง” หลายครั้งที่ผ่านมา รวมทั้งครั้งล่าสุดคือทริปประเทศอังกฤษและสก๊อตแลนด์เมื่อเร็วๆ นี้ ผมมักออกแบบทริปอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์เพื่อให้มีเวลาเพียงพอในการเยี่ยมชมสถานที่สำคัญต่างๆ รวมทั้งได้สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่และเรียนรู้พฤติกรรมของผู้คนท้องถิ่นพอสมควร มีข้อสังเกตจาก “ทริปเที่ยวเอง” ที่ผมเห็นว่ามีความเกี่ยวข้องกับการลงทุนดังนี้
ช่วงหาข้อมูลและวางแผนการเดินทาง กูเกิ้ล (GOOG: Google) คือแหล่งค้นหาข้อมูลที่ดีที่สุด จึงมักได้ยินวลีติดปากที่ว่า “คิดอะไรไม่ออก ถามกูเกิ้ล” นั่นเอง นอกจากเป็นแหล่งค้นหาข้อมูลที่ยอดเยี่ยมแล้ว กูเกิ้ลยังมีศักยภาพด้านอื่นอีกมากมาย ส่งผลให้ทั้งรายได้และกำไรเติบโตอย่างโดดเด่น ราคาหุ้นจึงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจนมีมูลค่าตลาดถึง 338 พันล้านเหรียญสหรัฐ สูงเป็นอันดับสามของโลก เป็นรองเพียงหุ้นแอปเปิ้ล (APPL: $477B) และหุ้นน้ำมันแอกซอนโมบิล (XOM: $387B) เท่านั้น ราคาต่ำสุดของหุ้นในรอบ 12 เดือนอยู่ที่ 636 เหรียญ ขณะที่ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 1,015 เหรียญ ถือว่าให้ผลตอบแทนที่ดีเยี่ยมเลยทีเดียว
ช่วงจองที่พักและเช่ารถ ศูนย์รวมการจองห้องพักออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดได้แก่ booking.com และ agoda.com ซึ่งเป็นแหล่งรวมที่พักเกือบ 300,000 แห่งจาก 175 ประเทศทั่วโลก ส่วน rentalcars.com นั้นให้บริการเช่ารถกว่า 6,000 แห่งทั่วโลก เมื่อศึกษาเพิ่มเติมจะพบว่า กิจการทั้งสามอยู่ภายใต้บริษัท Priceline.com (PLCN) สำหรับทริปเที่ยวเองครั้งที่ผ่านมา ผมใช้บริการทั้งการจองโรงแรม ที่พักพร้อมอาหารเช้า (Bed & Breakfast) และการเช่ารถจากทั้งสามแหล่งดังกล่าว ด้วยรูปแบบธุรกิจที่ยอดเยี่ยมและผลประกอบการที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ราคาหุ้น PLCN ปัจจุบันอยู่ที่ 1,065 เหรียญจากที่เคยต่ำสุด 556 เหรียญหนึ่งปีที่ผ่านมา
ในธุรกรรมการจองที่พักและรถยนต์นั้นจำเป็นต้องผ่านบัตรเครดิตเสมอ ส่วนการชำระเงินนั้น การใช้บัตรเครดิตเป็นที่นิยมอย่างมากและพบเห็นได้ทั่วไปแม้เป็นร้านขนาดเล็กก็ตาม บริษัทวีซ่า (V) หรือบริษัทมาสเตอร์คาร์ด (MA) ต้องได้รับผลดีจากกระแสความนิยมใช้บัตรเครดิตของผู้บริโภคที่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง หุ้น V ปัจจุบันราคา 199 เหรียญจากที่เคยต่ำสุด 12 เดือนที่ 136 เหรียญ ขณะที่หุ้น MA ราคา 710 เหรียญจากที่เคยต่ำสุด 12 เดือนที่ 447 เหรียญ นับว่าเป็นผลตอบแทนที่โดดเด่นเช่นกัน
หุ้นไทยที่พอจะเกี่ยวข้องกับทริปเที่ยวเองครั้งนี้ได้แก่ บริษัทบัตรเครดิต หรือธนาคารที่ออกบัตรเครดิต ผลดีโดยตรงที่ได้รับได้แก่ ส่วนต่างของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน หากลองสังเกตดูจะพบว่า อัตราแลกเปลี่ยนยามถูกเรียกเก็บจริงนั้นจะสูงกว่าอัตราแลกเปลี่ยนทั่วไปประมาณ 2-4% แต่ผู้ถือบัตรมักยอมจ่ายส่วนต่างนี้เพื่อแลกกับความสะดวกสบาย ความปลอดภัยและการสะสมคะแนนนั่นเอง ส่วนหุ้นบริษัทมือถือไทย แม้อาจจะได้ประโยชน์จากการใช้งานในต่างประเทศ แต่ผู้ใช้ก็มีทางเลือกในการซื้อ SIM ใหม่ในต่างประเทศหรือใช้ WiFi เป็นลดค่าใช้จ่ายเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีหุ้น AOT BAFS THAI NOK AAV ที่น่าจะได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวด้วยตนเองที่เพิ่มขึ้นด้วย
ทั้งหมดที่กล่าวมา แม้ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการในตลาดหุ้นไทยโดยตรงนัก แต่ในภาวะที่ทั้งปริมาณผู้สนใจลงทุนและปริมาณเงินลงทุนจากทั้งในและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น การค้นหาและพบหุ้นที่ดีในราคาเหมาะสมย่อมมีน้อยลง การลงทุนในตลาดหุ้นไทยที่ราคาปรับสูงขึ้นจนไม่มีส่วนต่างความปลอดภัยนัก ย่อมมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นด้วย ในฐานะ Value Investor อาจต้องเริ่มพิจารณาศึกษา วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของกิจการที่ดีในต่างประเทศเพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุน การพบกิจการที่แข็งแกร่ง มีรูปแบบธุรกิจยอดเยี่ยม มีศักยภาพและโอกาสธุรกิจระดับโลกในราคายุติธรรม ก็อาจเป็นทางเลือกที่สร้างผลตอบแทนที่ยอดเยี่ยมได้เช่นกัน