โค้ด: เลือกทั้งหมด
ปรากฎการณ์หนึ่งที่ผมสังเกตเห็นและเริ่มพัฒนาอย่างช้า ๆ คือ “ความกลมกลืนกัน”ของสังคมทั้งในโลกตะวันออกและโลกตะวันตก โดยมีจุดเร่งมาตั้งแต่ยุค Internet หรือการกำเนิด Netscape ที่เติบโตอย่างมากในปลายทศวรรษที่ 90 และทวีความเร่งด้วยสังคม Social Media อย่าง Facebook ที่กลายเป็นสังคมรุ่นใหม่ตั้งแต่เราเข้าสู่ต้นศตวรรษที่ 21
ด้วยที่ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเป็นระลอก และเร่งตัวขึ้น ทำให้คนในยุคหลัง มีความพิเศษกว่ายุค Babyboomer มาก แม้ว่านักวิชาการนิยมแบ่งพฤติกรรมทางสังคมของคนแต่ละยุค ซึ่งผ่านกระบวนการความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและการเมืองออกเป็น Generation X, Y, Z แต่เท่าที่ผมสังเกตพฤติกรรม“ทางการตลาด”ของประเทศกำลังพัฒนาผ่านสื่อต่าง ๆ พบว่าเราอาจจะแบ่งคนในแต่ละรุ่นของการเปลี่ยนแปลงใหญ่ของโลกครั้งนี้เป็น“10-20-30”หรือยุค Gen 10 Gen 20 Gen 30ได้ในอีกมุมมองหนึ่ง
Gen 30คือ Generation ของผมหรือคนที่อายุสามสิบกว่าๆ ในปัจจุบัน หมายถึงคนยุคที่ Internet ยังไม่เกิดขึ้นในวัยเด็ก แต่เพิ่งมาเริ่มได้ใช้ในช่วงวัยรุ่น และได้ใช้ Social Media ในวัยทำงาน คน Gen 30 นั้นยังมีความแตกต่างกันในพื้นเพเดิม หรือมีความเคยชินกับสิ่งเดิม ๆ ที่เกิดขึ้นในวัยเด็ก เช่นคนต่างจังหวัดก็จะมีความชอบหรือวิถีชีวิตที่ยังแตกต่างจากคนเมือง ยังมีความคุ้นชินกับอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตในวัยเด็กรอบ ๆ ตัวของพวกเขา มีรสนิยมเป็นกลุ่ม ๆ เฉพาะ ขึ้นอยู่กับสังคมและสถานที่ที่อยู่ เช่นคนเมืองอาจจะชอบเสื้อผ้า ร้านอาหารแบรนด์ ๆ หนึ่ง แต่คนต่างจังหวัดจะนิยมแบรนด์อีกอย่างหนึ่งซึ่งอาจจะไม่เหมือนกันเลย ร้านอาหารโปรดหรืออาหารที่ชอบเป็นคนละประเภท คนละบรรยากาศ หรือกระทั่งและถ้ามองมาที่ระดับโลก คนในเอเชียยุคนี้อาจจะเคยชินกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นมากกว่าและจะมีวัฒนธรรมฝรั่งเจือปนอยู่น้อยมาก ในวัฒนธรรมฝรั่งก็เช่นเดียวกันยังมีความเป็นเอเชียหรือรู้จักเอเชียไม่มากนัก หรือความกลมกลืนกันอยู่ในวงจำกัด
Gen 20คือ คนรุ่นที่เด็กลงมา เป็นนักศึกษาหรือเป็นFirst Jobber ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่วัยทำงาน คนกลุ่มนี้มีอิทธิพลจาก Social Media เยอะขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่วัยเรียน สภาพสังคมและเมืองพัฒนาจนเกิดสิ่งที่มีความกลมกลืนกันในระดับประเทศ นั่นคือ ในประเทศเดียวกันรสนิยมแทบไม่ต่างกันแล้ว ชอบเดินห้าง ดูหนัง ฟังเพลงที่เดียวกันและเหมือนกัน สังคมมีความกลมกลืนขึ้นจากเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของคนทุกระดับชั้น และถ้าไปดูในจังหวัดที่ไม่ใช่เมืองหลวง ไม่ว่าจะประเทศไหน จะพบบ่อยครั้งที่พบว่าแบรนด์จากส่วนกลางหรือจากเมืองหลวง จะเป็นที่นิยมสูงกว่าแบรนด์พื้นเมืองในจังหวัดนั้น ๆ นั่นคือแนวโน้มของความกลมกลืนที่เกิดขึ้นสำหรับคนในยุคนี้
และดูเหมือนกับว่ากลุ่ม Gen 10 จะยิ่งมีความคล้ายกันมากขึ้นอีกไม่เฉพาะในระดับประเทศ แต่เป็นในระดับโลก เหตุผลอาจจะไม่ใช่เฉพาะเรื่องเศรษฐกิจอีกต่อไป แต่หมายถึง “สื่อ”อิทธิพลของโลกอินเตอร์เน็ตที่ฝังอยู่ทุกหนแห่งของคนยุคนี้นั่นหมายถึงจะไม่แปลกใจที่เห็นเด็กคนละมุมโลกเล่นของเล่นแทบจะเหมือนกัน ไม่มีตัวแบ่งว่านี้เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น อเมริกา หรือยุโรป ร้านแมคโดนัลด์แจกของเล่นตัวการ์ตูนญี่ปุ่นในยุโรป และแจกของเล่นตัวการ์ตูนฝรั่งในเอเชียเป็นสิ่งที่เห็นได้ คนในคนละมุมโลกชอบในรายการทีวี เกมโชว์ หรือกระทั่งหนังภาพยนต์คล้าย ๆ กัน ลักษณะของห้างสรรพสินค้าที่คนชอบมีหน้าตาเดียวกัน เดินร้านค้าเดียวกัน ใช้ของยี่ห้อแทบจะเหมือนกัน โดยไม่แบ่งแยกรสนิยมเหมือนอย่างในอดีต ใช้โทรศัพท์ อุปกรณ์ต่าง ๆ รุ่นเดียวกัน หรือมีพฤติกรรมตาม ๆ กันสูงมาก ไม่เว้นกระทั่งโรงเรียนที่นิยมในประเทศหนึ่งก็สามารถนิยมข้ามมาอีกประเทศหนึ่ง
อย่างไรก็ดีแม้ทุกสิ่งจะเหมือนกัน แต่มันมีความแตกต่างกันอยู่ตามความเป็นปัจเจกหรือความเป็นตัวตนของมนุษย์ทุกยุคทุกสมัย เพลงอาจจะฟังเพลงเดียวกัน แต่คนละ cover หรือ ใช้โทรศัพท์ยี่ห้อเดียวกัน แต่ขอให้มีปลอกคนละแบบ ดูรายการโชว์เดียวกัน แต่ชอบกันคนละตอน นี่คือวัฒนธรรมของ 10-20-30 ที่ผมเห็น
ผลของ“แนวโน้มของความกลมกลืน”นี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจยิ่งเพราะจะทำให้ผู้ชนะแทบจะเป็นผู้ชนะเด็ดขาดในสมรภูมิ คือมีส่วนแบ่งตลาดสูงมากจนห่างจากเบอร์สองหรือเบอร์สามอย่างสุดกู่ และที่สำคัญคือวันไหนหากผู้ชนะเพลี่ยงพล้ำ อาจจะไม่แค่เสียพื้นที่แต่หมายถึงการพ่ายแพ้อย่างหาที่ยืนไม่ได้ ความรวดเร็วของ “สื่อ”สร้างวิถีชีวิตใหม่ของคนในยุคอนาคต หมายถึงโอกาสบางอย่างจะสั้นและผ่านไปรวดเร็วมาก นี่คือความท้าทายของแข่งขันของธุรกิจในยุคมนุษย์10-20-30 ครับ