สมรภูมิการลงทุน (2)/ประภาคาร ภราดรภิบาล

บทความต่างๆที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
ตอบกลับโพส
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
กระทู้: 1243
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 11, 2012 10:42 pm

สมรภูมิการลงทุน (2)/ประภาคาร ภราดรภิบาล

โพสต์ โดย Thai VI Article » ศุกร์ ธ.ค. 20, 2013 10:45 am

โค้ด: เลือกทั้งหมด

บทความ Value Way กรุงเทพธุรกิจ Bizweek ฉบับวันที่ 23 ธันวาคม 2556
โดย ประภาคาร ภราดรภิบาล
สมรภูมิการลงทุน (2)
   ถ้าเปรียบตลาดหุ้นเหมือนกับสมรภูมิหรือสนามรบ นักลงทุนเป็นดั่งแม่ทัพผู้บัญชาการรบ การลงทุนก็ย่อมจะต้องมี “ยุทธศาสตร์” เพื่อให้สามารถพิชิตชัยชนะใน “สมรภูมิการลงทุน” 
   รู้จักรอจังหวะ ไม่โจมตีพร่ำเพรื่อ : มุ่งเน้นแต่การรบที่มีโอกาสชนะมากกว่าแพ้ “วอร์เรน บัฟเฟตต์” จะไม่ลงทุนบ่อย แต่ทุกครั้งที่ลงทุน เขาจะลงทุนค่อนข้างมากในกิจการที่มี “ความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยั่งยืน” (Durable Competitive Advantage) เพราะกิจการดังกล่าวจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่งดงามได้ในระยะยาว เขากล่าวว่า “โอกาสการลงทุนอันยอดเยี่ยมเกิดขึ้นไม่บ่อย และเมื่อคุณพบโอกาสเหล่านี้ คุณควรจะลงทุนด้วยเงินในสัดส่วนที่สูง” 
   เช่นเดียวกับความเห็นของ “ชาร์ลี มังเกอร์” คู่หูของ “บัฟเฟตต์” ที่กล่าวไว้ว่า “คนฉลาดจะเดิมพันหนักๆ เมื่อโอกาสอยู่ตรงหน้า พวกเขาจะเดิมพันหนักมือเมื่อมีแต้มต่อ แต่จะนิ่งเฉยในเวลาอื่นๆ” สอดคล้องกับหลักการซึ่ง “โมห์นิช พาไบร” กล่าวถึงในหนังสือ “นักลงทุนดันโด” ที่ว่า “เดิมพันน้อยอย่าง เดิมพันหนักๆ ไม่เดิมพันบ่อย” 
   รู้จักหาทางหนีทีไล่ : ในการรบนั้นจะต้องมีทั้ง “รุกและรับ” ไม่ใช่มุ่งแต่จะบุกเข้าโจมตีเพียงอย่างเดียว แต่ต้องรู้จัก การตั้งรับและมองหาทางหนีทีไล่เอาไว้ด้วย ในการลงทุนก็เช่นเดียวกัน “เบนจามิน เกรแฮม” แนะนำว่า ทุกครั้งที่ลงทุนจะต้องมีการเผื่อ “ส่วนต่างของความปลอดภัย” หรือ “Margin of Safety” ไว้ด้วยเสมอ นั่นก็คือการซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงพอสมควร เพราะถ้าหากมีความผิดพลาดหรือมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น นักลงทุนก็จะไม่เสียหาย หรือเสียหายเพียงเล็กน้อย
   ถ้าเพลี่ยงพล้ำ ต้องรีบถอนกำลังพล : แม่ทัพการลงทุนอย่าง “ปีเตอร์ ลินซ์” กล่าวไว้ว่า นักลงทุนหลายๆ คนมักจะกอดหุ้นที่แย่ๆ หรือหุ้นที่ขาดทุนเอาไว้อย่างเหนียวแน่น เปรียบเหมือนกับการ “รดน้ำวัชพืช” ซึ่งไม่มีประโยชน์ ควรจะยอมรับความผิดพลาด แล้วตัดขายหุ้นที่ขาดทุนนั้นทิ้งไปจะดีกว่า
   ไม่เปิดศึกหลายด้าน : การกระจายกำลังพลออกไปรบในหลายๆ จุด ทำให้ยากแก่การบัญชาการรบ ไม่ต่างกับการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นหลายตัวจนเกินไป ซึ่งทำให้นักลงทุนไม่สามารถดูแลหุ้นทั้งหมดได้อย่างทั่วถึง ปรมาจารย์ด้านการลงทุนอย่าง “ฟิลลิป ฟิชเชอร์” กล่าวเตือนไว้ว่า “อย่าเน้นการกระจายความเสี่ยงโดยกระจายการถือหุ้นมากเกินไป” 
   “วอร์เรน บัฟเฟตต์” แนะนำว่า ควรจะลงทุนแบบมุ่งเน้น คือเลือกลงทุนในหุ้นคุณภาพยอดเยี่ยมเพียงไม่กี่ตัว การกระจายความเสี่ยงในหุ้นจำนวนมากเกินไปนั้นกลับจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงโดยไม่จำเป็น “ความมั่งคั่งมหาศาลบนโลกใบนี้มักเกิดจากการเป็นเจ้าของธุรกิจชั้นเยี่ยมเพียงอย่างเดียว ถ้าคุณเข้าใจธุรกิจ คุณไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของธุรกิจมากมายหลายอย่าง” เช่นเดียวกับ “ปีเตอร์ ลินซ์” ที่แนะนำว่า “การถือหุ้นในจำนวนที่มากตัวเกินไปจะทำให้คุณสูญเสียประโยชน์ที่เกิดจากการมุ่งเน้น คุณค่าของการลงทุนทั้งชีวิตจะอาศัยหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงมากๆเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น
   ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น คือ “ยุทธศาสตร์” ที่สำคัญส่วนหนึ่งซึ่งบรรดาแม่ทัพใหญ่ด้านการลงทุนระดับโลกนำมาใช้จนประสบความสำเร็จ หน้าที่ของเราในฐานะผู้เดินตามรอยทางแห่งความสำเร็จของบรรดาปรมาจารย์เหล่านั้นก็คือ การนำยุทธศาสตร์ต่างๆ ข้างต้นมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ เพื่อนำทัพของตนให้รอดพ้นจากภยันตราย และพิชิตชัยชนะใน “สมรภูมิการลงทุน” ให้ได้ในที่สุด
[/size]



ตอบกลับโพส