ดูแลเงินทองก่อนสิ้นปี/วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ

บทความต่างๆที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
ตอบกลับโพส
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
กระทู้: 1243
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 11, 2012 10:42 pm

ดูแลเงินทองก่อนสิ้นปี/วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ

โพสต์ โดย Thai VI Article » จันทร์ ธ.ค. 23, 2013 7:17 pm

โค้ด: เลือกทั้งหมด

   ดิฉันเคยเขียนหัวข้อนี้ไปแล้วเมื่อสามปีก่อน แต่พอถึงปลายปีทีไร ก็มักจะมีแฟนคอลัมน์เรียกร้องให้เขียนอีก วันนี้จึงขอเขียนถึงอีกสักครั้ง บางประเด็นอาจจะซ้ำกับปีที่ผ่านมาบ้าง แต่จะพยายามหาประเด็นต่างๆให้ครอบคลุมค่ะ
   ​เรื่องเงินเรื่องทองถ้าไม่ใส่ใจดูแลก็อาจจะเสียประโยชน์มากมาย สิ่งแรกที่อยากให้ทบทวนก่อนก็คือการเตรียมเงินเอาไว้เผื่อฉุกเฉินค่ะ ตามทฤษฎีก็บอกว่า 3-6 เท่าของรายจ่ายประจำเดือน  ถ้าท่านมีรายได้มั่นคง และการลงทุนเพื่อดูแลเงินส่วนสภาพคล่องของท่านอยู่ในตราสารที่เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่ายโดยไม่ต้องเสียค่าปรับหรือเสียประโยชน์อะไรมากมาย ท่านก็สามารถสำรองเพียง 3 เดือนได้ค่ะ
   ​เงินสำรองเผื่อฉุกเฉินนี้นำออกมาใช้ได้ในยามฉุกเฉิน และเมื่อสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติ ก็ต้องพยามยามเก็บเติมให้มีครบเท่าเดิมก่อน จึงจะเก็บออมสำหรับเรื่องอื่นๆนะคะ  หลายท่านนำออกมาใช้ในยามฉุกเฉินแล้วลืมเก็บออมเพิ่ม พอสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งที่สองเกิดขึ้น จึงเดือดร้อน
   ​ขอทำความกระจ่างไว้ ณ ที่นี้ว่า เงินสำรองเผื่อฉุกเฉินสามารถนำไปลงทุนได้ แต่ต้องมีสภาพคล่องสูง เช่น อยู่ในบัญชีออมทรัพย์ส่วนหนึ่ง กองทุนรวมตลาดเงินส่วนหนึ่ง หากต้องการฝากประจำก็ไม่ควรเกิน 3 เดือน เพราะหากกรณีฉุกเฉินต้องถอนออกมาใช้จะได้เสียผลประโยชน์น้อยหน่อยค่ะ
   ​สิ่งต่อไปคือจัดการกับหนี้สินและทบทวนรายจ่าย ว่าท่านยังมีหนี้สินค้างชำระหรือไม่ มีค่าใช้จ่ายอะไรค้างจ่ายบ้าง ควรรีบจ่ายก่อน เพราะข้ามปีอาจจะมีค่าปรับ หรือค่าสมาชิกบางแห่งจ่ายล่วงหน้ามีส่วนลด ต้องเรียนว่าส่วนลดมีความสำคัญค่ะ เพราะส่วนลดไม่ขึ้นอยู่กับระยะเวลา เช่น ลด 5% หากชำระภายในสิ้นปี เทียบเท่ากับลงทุนได้ผลตอบแทน 5% ต่อ 5-7 วันเลยทีเดียว  
   ​เมื่อทบทวนรายจ่าย อยากให้ถือโอกาสทบทวนไปด้วยเลยว่า มีค่าใช้จ่ายอะไรที่ไม่สมควรจ่ายบ้าง บางครั้งไปสมัครสมาชิกอะไรไว้ แล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์เลยสองสามปี ก็น่าจะถึงเวลายกเลิกสมาชิกนั้นแล้ว เพราะเป็นต่อก็มีโอกาสใช้ประโยชน์น้อย กลุ่มคนที่ใจอ่อนยอมซื้อสมาชิกเวลามีคนมาอ้อนวอนขอให้ซื้อ(ซึ่งรวมถึงดิฉันด้วย) ควรอย่างยิ่งที่จะถือโอกาสนี้ทบทวนนะคะ
   ​ต่อไปคือ ตรวจสอบรายรับ ว่ามีอะไรตกหล่นบ้าง ผู้ทำงานอิสระอาจจะลืมส่งบิลไปเรียกเก็บเงิน หรือบางครั้งรับเช็คเงินปันผลมาแล้วลืมเอาเข้าบัญชีจนเช็คหมดอายุไป ฯลฯ
   ​หลังจากนั้นต้องมาทบทวนสิทธิประโยชน์ มีสิทธิประโยชน์อะไรบ้างที่สามารถใช้ได้แต่ยังไม่ได้ใช้ ตั้งแต่สิทธิประโยชน์ใหญ่ๆ คือ การลดหย่อนภาษีเงินได้ เช่น การลงทุนในกองทุนรวมที่ลดหย่อนภาษีได้คือ LTF และ RMF  เบี้ยประกันชีวิตที่ลดหย่อนภาษีได้ ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมซื้อที่อยู่อาศัย เงินบริจาคต่างๆที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ เช่น บริจาคเงินผ่านองค์กรการกุศลให้พี่น้องในชนบทสู้ภัยหนาว ฯลฯ สามารถทำเพิ่มได้ค่ะ ยังพอมีเวลา
   ​ไล่ไปจนถึงสิทธิประโยชน์เล็กๆน้อยๆ เช่น ไมล์สะสมจากสายการบินที่จะหมดอายุ  แต้มสะสมจากร้านค้าที่สามารถนำไปแลกเป็นบัตรเงินสด อย่าดูหมิ่นว่าเป็นเงินน้อยนะคะ ดิฉันไปแลกได้มาตั้งหลายพันบาท ใช้คูปองแลกฟรี คูปองส่วนลดตามร้านค้า (ต้องพิจารณาด้วยว่าต้องการจะซื้ออยู่แล้ว) ไม่ใช้ก็นำไปให้คนอื่นใช้ก็ได้ค่ะ
   ​แนะนำให้นำสมุดบัญชีเงินฝากไปปรับปรุงให้ข้อมูลเป็นปัจจุบัน เนื่องจากมีช่องทางให้ท่านทำธุรกรรมมากมายหลายช่องทาง ทั้งทางอินเตอร์เน็ต ผ่านโทรศัพท์มือถือ ผ่านหน้าเคาน์เตอร์ ผ่านตู้เอทีเอ็ม และธุรกรรมที่ท่านยินยอมให้หักบัญชีหรือนำเงินเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ ควรจะนำสมุดบัญชีไปปรับปรุงข้อมูลเพื่อนำมาตรวจสอบดูว่ามีอะไรผิดปกติ หรือขาดตกไปบ้าง  ทิ้งเอาไว้นานๆ รายการอาจถูกรวบยอด ทำให้ท่านตรวจสอบลำบากค่ะ
   ​ท้ายที่สุดคือ การทบทวนพอร์ตการลงทุน ที่เอาไว้ตอนท้ายเพราะหากทบทวนไม่เสร็จ สามารถทำข้ามปีได้ ไม่เร่งด่วนอะไร สำหรับการลงทุนบางประเภทต้องอาศัยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปรับพอร์ต
   ในช่วงสิ้นปีนี้หากมีเวลาอาจจะทบทวนพอร์ตการลงทุนดูว่าเหมาะสมกับความสามารถในการรับความเสี่ยงและข้อกำหนดหรือเงื่อนไขของท่านในปัจจุบันหรือไม่ และที่สำคัญคือ เหมาะสมกับสภาพการลงทุนในสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่ ซึ่งในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนนี้ ดิฉันแนะนำให้ทบทวนบ่อยขึ้น คือให้ทบทวนทุกไตรมาส แต่ในสถานการณ์ที่ตลาดไม่ผันผวน เราสามารถทบทวนพอร์ตการลงทุนปีละหนึ่งหรือสองครั้งได้ค่ะ
   ​ต้นปีเราจะมาดูกันค่ะว่าควรจะจัดพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์การลงทุนในปัจจุบันอย่างไร
​เน้นย้ำอีกครั้งหนึ่งนะคะ ว่าพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับผู้ลงทุนระยะปานกลางถึงระยะยาว คือพอร์ตการลงทุนแบบผสม ที่มีทั้งตราสารหนี้และตราสารทุน ส่วนจะเป็นสัดส่วนเท่าใดจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับความเสี่ยงของแต่ละท่านค่ะ
   สำหรับท่านที่ยังหาของขวัญปีใหม่ถูกใจไม่ได้ อยากแนะนำหนังสือ “เงินไม่ใช่ทุกอย่าง แต่ทุกอย่างเริ่มต้นที่เงิน” ราคาเล่มละ 185 บาทค่ะ ล่าสุดมีผู้อ่านเขียนมาบอกว่า “ดีมากเลยค่ะ น่าจะมีหนังสือแบบนี้ให้อ่านเมื่อสัก 15 ปีที่แล้ว สอนทุกมุมของชีวิตเลย ตั้งแต่ออม เที่ยว ลงทุน ทำงาน ครอบครัว”
   ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเฉลิมฉลองส่งท้ายปี 2556 และต้อนรับปีใหม่ 2557 ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ มีสุขภาพแข็งแรง สมปรารถนาในสิ่งดีงามทุกประการ และขอให้ปีใหม่นี้เป็นปีที่ดียิ่งๆขึ้นของผู้อ่านทุกท่านค่ะ
[/size]



ตอบกลับโพส