โค้ด: เลือกทั้งหมด
สวัสดีปีใหม่ 2557 ผู้อ่านทุกท่านคงได้ใช้เวลาช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่สำหรับกิจกรรมที่ตนชื่นชอบอย่างมีความสุข ในโอกาสนี้ ผมขอส่งความปรารถนาดีและขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามคอลัมน์บทความการลงทุน คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ตลอดมา
ปี 2556 นับเป็นปีที่ท้าท้ายสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ดัชนี SET ค่อนข้างสดใสและปรับขึ้นสูงสุดแตะระดับ 1,643 จุดหรือเพิ่ม 18% ณ. วันที่ 20 พฤษภาคม แต่หลังจากนั้นดัชนีปรับตัวลดลงต่อเนื่องปิดที่ระดับ 1,298 จุดหรือลดลง 6.7% ณ วันทำการสุดท้ายของปีวันที่ 27 ธันวาคม 2556 โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีมากถึง 193,911 ล้านบาท
ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองและปัจจัยเสี่ยงต่างๆ คำถามคือ เราควรมีกลยุทธ์ในการลงทุนในปี 2557 อย่างไร
เป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นรวมถึงจุดต่ำสุดและจุดสูงสุด แต่หากพิจารณาภาพใหญ่แล้ว ตลาดหุ้นไทยปี 2557 ยังต้องเผชิญความผันผวนต่อไปอีกนานพอสมควร เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกที่มีนัยสำคัญที่จะทำให้ตลาดหุ้นไทยกลับขึ้นไปโดดเด่นเช่นเดิมในอนาคตอันใกล้ นักลงทุนยังต้องเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนและ ‘จัดทัพ’ หรือพอร์ตการลงทุนที่พร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนอาจเกิดขึ้น ปัจจัยเสี่ยงและกลยุทธ์เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงที่ควรพิจารณาคือ
หนึ่ง ปัจจัยเสี่ยงด้านการเมืองและของประเทศ (political risk/country risk) สถานการณ์การเมืองไทยที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบันแม้มีผลกระทบต่อผลประกอบการของแต่ละบริษัทมากน้อยแตกต่างกัน แต่ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อบรรยากาศการลงทุนโดยรวมและความมั่นใจของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดหุ้นไทย ปัจจัยเสี่ยงนี้เป็นปัจจัยที่นักลงทุนควบคุมไม่ได้ ยากต่อการคาดเดา และยังไม่มีความชัดเจนถึง “แนวทาง” ที่ทุกฝ่ายจะยอมรับและสามารถนำมา “ปฏิบัติ” ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อแก้ปัญหาของประเทศ แม้มีข้อสังเกตต่อปัจจัยการเมืองว่าจะกระทบต่อตลาดหุ้นในระยะสั้นและอาจเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นก็ตาม แต่หากสถานการณ์เลวร้ายและยืดเยื้อจนกระทบการลงทุนภาครัฐ เอกชนและการบริโภคในประเทศจนส่งผลเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจและผลประกอบการของกิจการในระยะยาวแล้ว ย่อมไม่เป็นผลดีต่อการลงทุนในตลาดหุ้นอย่างแน่นอน
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุนที่กังวลต่อปัจจัยเสี่ยงนี้คือ การกระจายพอร์ตการลงทุนไปยังหุ้นไทยที่มีสัดส่วนธุรกิจในต่างประเทศสูง หรือกองทุนรวมลงทุนหุ้นต่างประเทศ หรือลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศโดยตรง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต้องคำนึงถึงความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ภาษี นโยบายของกองทุน และศึกษาพื้นฐานของกิจการเทียบกับราคาหุ้นอย่างดีอีกด้วย
สอง ปัจจัยเสี่ยงของผลประกอบการ (Performance Risk) ความท้าทายที่บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่กำลังเผชิญในปี 2557 นี้คือ ภาวะต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้น (Cost Push Scenario) ได้แก่ ต้นทุนวัตถุดิบ พลังงาน ค่าแรง ความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น หากกิจการไม่สามารถลดค่าใช้จ่ายและปรับราคาสินค้าขึ้นมากกว่าอัตราต้นทุนที่สูงขึ้น ย่อมส่งผลต่ออัตราการทำกำไรและต้องส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นที่ซื้อขายในที่สุด นอกจากนี้ จากตัวเลขคาดการณ์จีดีพี การคาดการณ์การส่งออก การประเมินผลกระทบธุรกิจท่องเที่ยวหากการเมืองยืดเยื้อ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค บรรยากาศและการระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอย ล้วนส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคโดยรวมซึ่งส่งผลกระทบต่อการเติบโตของรายได้ของกิจการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การเลือกถือหุ้นแข็งแกร่ง มีสินค้าและผลิตภัณฑ์เป็นที่ต้องการและจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน มีอำนาจการต่อรองกับผู้ผลิตและผู้บริโภคได้อย่างเหมาะสม มีโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจและได้ประโยชน์จาก Economies of Scale คือกลยุทธ์ที่จะช่วยจำกัดความเสี่ยงขาลง ไม่ให้เกิดความเสียหายมากนักหากกิจการต้องเผชิญวิกฤติกำลังซื้อของผู้บริโภค
สาม ปัจจัยเสี่ยงของการลงทุน (Investment Risk) แม้ตลาดหุ้นให้ผลตอบแทนดีกว่าการลงทุนชนิดอื่นในระยะยาว แต่ในภาวะการเมืองไม่ชัดเจนและเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน นักลงทุนที่ต้องการความแน่นอนสูงกว่าแม้ผลตอบแทนต่ำลง อาจพิจารณาใช้กลยุทธ์บริหารจัดการพอร์ตการลงทุน (Portfolio Management) โดยกระจายการลงทุนไปยังพันธบัตร ตราสารหนี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โดยต้องศึกษานโยบายการลงทุน ความเสี่ยงและสภาพคล่องอย่างละเอียดเช่นกัน
หากติดตามกลยุทธ์การลงทุนของวอร์เรน บัฟเฟต์ นักลงทุนเอกของโลก จะพบว่า เขามักจะมี “เงินสด” ในปริมาณที่มีนัยสำคัญอยู่เสมอและมักใช้โอกาสเข้าลงทุนในกิจการยอดเยี่ยมยามเผชิญภาวะวิกฤติต่างๆ ในราคาที่มีส่วนลดนั่นเอง นี่คือสิ่งยืนยันคำพูดอมตะที่ว่า “Cash is a King” ซึ่งนักลงทุนที่ประสบความความสำเร็จล้วนเก่งในการ “ใช้วิกฤติให้เป็นโอกาส” อีกด้วย
ตลาดหุ้นไทยตกลงอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้นบ่งบอกถึงสภาวะอีกด้านหนึ่งของตลาดหุ้น ซึ่งนักลงทุนทุกคนจะต้อง “ผ่าน” บททดสอบสำคัญนี้ให้ได้ และต้องนำบทเรียนนี้มาพัฒนาให้เราแกร่งขึ้น ดีขึ้น เก่งขึ้นในการเดินทางบนเส้นทางสายนี้ต่อไป
สุดท้ายนี้ ผมขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย จงคุ้มครองให้ผู้อ่านทุกท่านประสบแต่สิ่งดีๆ ในชีวิต มีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ มีความสุขกับแนวทางการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง และมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงตลอดปี 2557 และตลอดไปครับ