โค้ด: เลือกทั้งหมด
วันศุกร์ที่แล้วนอกจากจะเป็นวันมาฆบูชาแล้วยังเป็นวันวันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรักอีกด้วย ปกติในสัปดาห์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ ดิฉันมักจะเขียนถึงการเงินกับความรัก การบริหารเงินของครอบครัวเพื่อรักษาชีวิตรักให้ยืนยาว ฯลฯ
วันนี้จะขอมาแปลกหน่อยคือ ขอเขียนถึงความรักที่เกี่ยวข้องกับชีวิต โดยไม่เน้นชีวิตการเงินอย่างเดียวค่ะ
ความรักเป็นเรื่องที่แปลก นอกจากจะเป็นสิ่งที่ให้ได้ไม่มีวันหมดแล้ว ยังเป็นสิ่งที่ยิ่งให้ยิ่งได้รับกลับมา ครอบครัวหนึ่งมีพี่น้องที่รักกันมาก เมื่อพี่สาวที่เป็นวัยรุ่นเริ่มมีคนรัก น้องสาวซึ่งยังเด็กร้องไห้ คิดว่าเมื่อพี่สาวมีคนรัก ความรักที่เคยให้กับเธอก็จะถูกนำไปให้กับคนรักแทน พี่สาวตอบว่า พี่สามารถรักได้ทั้งสองคน และรักได้มากเท่าๆกันด้วย โดยไม่จำเป็นต้องต้องลดส่วนใดส่วนหนึ่งลงไป นอกจากนี้ น้องสาวควรจะดีใจที่จะมีพี่ชายเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน มีคนมารักเธอมากขึ้นอีกหนึ่งคน
เมื่อเราอยู่ในโลกของรูปธรรมที่ทรัพยากรมีจำกัด คนทั่วไปมักจะคิดว่าต้องจัดสรรให้สามารถใช้ประโยชน์ได้โดยทั่วถึง และวิชาเศรษฐศาสตร์ก็คือวิชาที่ว่าด้วยทฤษฎีและหลักการที่ใช้ในการจัดสรรทรัพยากร
แต่ในโลกของนามธรรม เราจะพบว่าทรัพยากรมีได้ไม่จำกัด ความรัก ความดีงาม ความสามัคคี สามารถมีให้กันและกันได้อย่างไม่มีขอบเขตจำกัด และตามที่ดิฉันเกริ่นไปแล้วว่า บางอย่างยิ่งให้ก็ยิ่งได้รับกลับมา
ท่านอาจจะเคยได้อ่านเรื่องในไลน์หรือในเฟซบุ้ค หรืออีเมล์ที่ส่งให้กันเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่ต้องการระลึกถึงลูกสาวที่เสียชีวิตไปด้วยการซื้อกาแฟเลี้ยงคนที่มาร้านกาแฟในวันนั้น 50 แก้ว โดยไม่จำเป็นต้องรู้จักกันมาก่อน ปรากฏว่าผู้รับก็รู้สึกดีและมีความอยากที่จะซื้อกาแฟหรือเครื่องดื่มให้กับคนอื่นต่อๆไป กลายเป็นสังคมที่น่าอยู่ เป็นวันที่คนจำนวนหลายร้อยคนมีความสุขที่จะได้ซื้อกาแฟให้กับคนที่เข้าแถวต่อจากตัวเอง หลังจากที่ตัวเองได้รับกาแฟฟรีจากคนอื่น
ทำอะไรก็ต้องมีหลักการ จริงๆคำว่าหลักก็คือสิ่งยึดเกาะ ชีวิตที่ไม่มีหลักยึดเกาะก็คือชีวิตที่ลอยไปลอยมา หากเรายืนบนรถที่เคลื่อนที่ เช่น บนรถประจำทาง หรือบนรถไฟ หรือรถราง หากเราไมีมีหลักยึดเกาะ เราก็อาจล้มได้ฉันใด การใช้ชีวิตหรือการทำงานที่ไม่มีหลักยึดเกาะ ก็อาจล้มไปได้ฉันนั้น
หลักที่ใช้ในการดำเนินชีวิตในลักษณะนามธรรมเหล่านี้ เราเรียกว่า "หลักการ" และในศาสนาพุทธ มีธรรมะที่เหมาะสมที่สุดในการอยู่ร่วมกันคือ สังคหวัตถุ 4 ซึ่งเป็นหลักธรรมสำหรัยยึดเหนี่ยวจิตใจคนในสังคมให้มีความรักใคร่กลมเกลียว บางครั้งก็เรียกว่าหลักธรรมในการครองใจคน ทำให้คนรัก ประกอบด้วย
ทาน คือ การให้ การเสียสละ เอื้อเฟื้อแบ่งปันของตนให้ผู้อื่น ไม่ตระหนี่ถี่เหนียว ไม่เห็นแก่ตัว เมื่อเราไม่เห็นแก่ตัวและเอื้อเฟื้อ เราก็จะเป็นที่รักของคนอื่นๆ
ปิยวาจา การพูดจาอ่อนหวาน ไพเราะ พูดด้วยความจริงใจ ไม่ก้าวร้าว ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อ
อัตถจริยา คือ การสงเคราะห์หรือทำตัวให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น เมื่อเราทำตัวเป็นประโยชน์ ก็จะมีคนชื่นชม
สมานัตตา คือเป็นผู้มีความสม่ำเเสมอ ทำตัวเสมอต้นเสมอปลาย ซึ่งเมื่อเรามีความสม่ำเสมอ เราจะหนักแน่นไม่โลเล ทำให้คนอื่นรู้ว่าไว้วางใจเราได้
จะเห็นว่า การทำตัวให้เป็นที่รักของคนอื่น เป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก ในธรรมะสี่ข้อนั้น ข้อที่ยากที่สุด คือ ข้อสุดท้าย คือการทำสิ่งต่างๆด้วยความสม่ำเสมอนั่นเอง แต่สิ่งเหล่านี้ ยิ่งทำ ยิ่งเคยชิน และจะเป็นนิสัย กลายเป็นเรื่องไม่ยาก
เนื่องในวันมาฆบูชาและวันแห่งความรัก ดิฉันขอมอบบทความที่เล่าถึงธรรมะเกี่ยวกับความรักมาโดยสังเขปเพียงเท่านี้
ขอให้คนในครอบครัวรักกันมากๆ ช่วยเหลือ แบ่งปัน ดูแลกันและกันทั้งในยามสุขและยามทุกข์
ขอให้คนในหมู่บ้านและชุมชนมีความรัก ความสามัคคี รู้จักแบ่งปันและมีน้ำใจให้กันและกัน
ขอให้คนในชาติรักและสามัคคีกัน เคารพในสิทธิของกันและกัน มีความเห็นอกเห้นใจกัน เผื่อแผ่และแบ่งปัน อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขแม้จะมีความแตกต่างของเชื้อชาติ ศาสนา สถานะ ความคิด และหลักการ
ขอให้มวลมนุษยชาติรักโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ให้มาก แบ่งปันกันใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ไม่เห็นแก่ตัว รักสันติ
ท้ายที่สุดนี้อยากจะฝากว่า ความมุ่งมั่นที่จะทำในสิ่งที่ดีๆ และเชื่อมั่นว่าความดีย่อมมีชัยชนะเหนือสิ่งใด เป็นกำลังใจที่ดีที่ทำให้คนที่อยู่ร่วมกันในสังคมมีความอดทน อดกลั้น เสียสละ และบรรลุเป้าหมายแห่งความดีได้
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าค่ะ