โค้ด: เลือกทั้งหมด
ปีใหม่ของจีนเริ่มแล้วเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปีนี้เป็นปีนักษัตรมะแม หรือ แพะ ค่ะ โดยมีนี้เป็นปีแพะธาตุไม้
ดิฉันค้นคว้าข้อมูลมาจาก chinahighlights.com พบว่า ผู้เกิดในปีแพะมักมีอุปนิสัยอ่อนโยน มีความเห็นอกเห็นใจ จริงใจ ซื่อสัตย์ มีความกตัญญูกตเวที ความคิดสร้างสรรค์สูง เรียนรู้ทักษะวิชาชีพได้ดี ชอบของสวยงาม อย่างไรก็ดี แม้จะมีความอ่อนโยนภายนอก แต่ผู้เกิดปีแพะก็จะมีจุดยืนของตัวเอง ชอบการสมาคมในกลุ่มแต่ไม่ชอบเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจ และเป็นนักคิด มักจะชอบใช้เวลาอยู่กับความคิดของตนเอง
ผู้เกิดปีแพะไม่ฝักใฝ่อำนาจ จะไม่อาสาเป็นผู้นำเลย หากไม่มีคนขอร้อง
เมื่อดูอุปนิสัยของผู้เกิดปีแพะแล้ว อาจจะอนุมานได้ว่าปีนี้อาจจะค่อนข้างราบรื่น แต่ดูๆไปไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นค่ะ จากรายงาน Global Risk Report 2015 ของ World Economic Forum ความเสี่ยงต่างๆในโลกนี้ก็ยังไม่ลดลง ในปีนี้ความเสี่ยงที่ดูชัดขึ้นคือ ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ หรือ Geopolitical Risk โดยที่เด่นๆคือ ความขัดแย้งระหว่างรัฐ รวมถึงกลุ่มที่ไม่ได้เป็นรัฐ ความล้มเหลวของรัฐ และวิกฤติของประเทศ (บางประเทศ)
ถัดไปเป็นเรื่องสังคม ซึ่งประกอบด้วย วิกฤติน้ำ สภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนอย่างรุนแรง และการแพร่ของโรคระบาด
ส่วนความเสี่ยงที่ดูจะลดลงไปในปีนี้คือความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ ซึ่งมีที่โดดเด่นคือ ปัญหาการว่างงาน และประเด็นเรื่องฟองสบู่ของสินทรัพย์ เป็นหลัก ส่วนประเด็นเรื่องราคาพลังงานที่เพิ่มสูงนั้น ดูจะไม่เป็นปัญหาในปีนี้
และความเสี่ยงในด้านเทคโนโลยี คือ ความเสี่ยงในการถูกโจมตีทางโลกไซเบอร์
อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงเหล่านี้เชื่อมโยงกัน หากเกิดปัญหาขัดแย้งระหว่างประเทศใหญ่ๆ ย่อมต้องกระทบต่อการลงทุนและเศรษฐกิจด้วยแน่นอน
เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงทำให้เกิดการฟันธงลงไปได้เลยว่า แม้ว่าภาวะโดยรวมของเศรษฐกิจปี 2015 จะดูดีกว่าปี 2014 เล็กน้อย แต่ ภาวะการลงทุนในปีนี้จะมีความผันผวน และประเด็นความเสี่ยงต่างๆจะผุดขึ้นรบกวนการลงทุนเป็นระยะๆ และสิ่งที่ไม่สามารถมองข้ามไปได้เลยก็คือ เรื่องฟองสบู่ของสินทรัพย์นี่แหละค่ะ เมื่อรัฐบาลของประเทศใหญ่ๆพากันอัดฉีดสภาพคล่องเข้าไปในระบบ อัตราดอกเบี้ยก็จะคงอยู่ต่ำเตี้ยต่อไป ราคาสินทรัพย์บางอย่างก็อาจจะไม่สมเหตุสมผล เพราะผู้ลงทุนตัดสินใจลงทุนโดยคำนึงถึงต้นทุนทางการเงิน (ซึ่งต่ำมาก)
ผู้ลงทุนจึงต้องเพิ่มความระมัดระวังและรอบคอบในการลงทุน
ข่าวดีของตลาดทุนทั่วโลกก็คือ อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำ อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ และสำหรับของไทย อัตราดอกเบี้ยของไทยคงจะยังไม่ปรับเพิ่มขึ้นในปีนี้ และยังมีโอกาสปรับตัวลงได้อีกเล็กน้อย ส่วนอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐก็น่าจะเลื่อนเวลาปรับขึ้นไปในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้เป็นอย่างเร็ว
คำแนะนำในการจัดพอร์ตการลงทุนในปี 2558 คือ ลงทุนแบบ Trading ซื้อเมื่ออ่อนตัว และขายเมื่อราคาปรับสูงขึ้น และแนะนำให้คัดเลือกหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี เพื่อที่จะสามารถทนต่อความผันผวนได้
สำหรับการลงทุนในหุ้นของตลาดที่พัฒนาแล้ว ดิฉันชอบเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีและอุปโภคบริโภคของสหรัฐอเมริกา และหุ้นญี่ปุ่น
สำหรับการลงทุนในหุ้นของตลาดเกิดใหม่ ส่วนตัวดิฉันชอบตลาดเอเชียเหนือคือ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงตลาดของไทยเรา
ควรหลีกเลี่ยงหุ้นของรัสเซีย ตลาดเกิดใหม่ในยุโรป และประเทศที่มีรายได้หลักจากน้ำมัน
สำหรับการลงทุนในพันธบัตรและตราสารหนี้ คาดว่า อาจจะกลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง หากมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย แต่โดยรวมแล้วในปีนี้ การลงทุนในหุ้นทุนมีความน่าสนใจกว่าค่ะ
การลงทุนที่ไม่แนะนำในปีนี้ คือ การลงทุนในโภคภัณฑ์ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทองคำ น้ำมัน เหล็ก หรือโภคภัณฑ์อาหารและพืชน้ำมัน แม้ว่าราคาจะตกลงมามาก แต่ยังมีความผันผวนสูง ผู้ลงทุนทั่วๆไปจึงยากที่จะเอาชนะ หากท่านไม่ใช่เซียน อยากแนะนำให้หลีกเลี่ยงค่ะ
กลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจของไทยคือ หุ้นที่มีขนาดใหญ่ กลุ่มอุปโภคบริโภค ก่อสร้าง และท่องเที่ยว
อสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศที่น่าสนใจคือ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และญี่ปุ่น
สำหรับสกุลเงินที่น่าสนใจ แน่นอนว่าต้องเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ เพราะยังอยู่ในช่วง Dollar Play แต่เงินดอลลาร์ได้แข็งค่าไปพอสมควรแล้ว อาจจะแข็งขึ้นได้อีกเพียงเล็กน้อย ดิฉันชอบเงินปอนด์ของอังกฤษ และจากการที่จีนพยายามเพิ่มบทบาทของเงินหยวนมากขึ้นในตลาดโลก เงินหยวนของจีน จึงน่าสนใจด้วยค่ะ ในปีนี้
และท้ายนี้ก็ต้องขอกล่าวเตือนว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง”
ขอให้ท่านผู้อ่านโชคดีในการลงทุนตลอดปีมะแม 2558 นี้ค่ะ