โค้ด: เลือกทั้งหมด
สัปดาห์นี้จะขอเล่าเกร็ดการแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลมบนคอร์ตหญ้าแห่งเดียว คือ การแข่งขันเทนนิสที่จัดโดย All England Lawn Tennis Club (AELTC) ซึ่งจัดประมาณต้นเดือนกรกฎาคมของทุกปี ที่เมืองวิลเบิลดัน โดยในปีนี้จัดระหว่าง 3-16 กรกฎาคม
เทนนิสวิมเบิลดัน ขึ้นชื่อว่าเป็นรายการแข่งขันเทนนิสที่หาบัตรเข้าชมได้ยากที่สุด สาเหตุคือพื้นที่จัดการแข่งขันไม่ใหญ่มาก จึงต้องจำกัดคนเข้าชมทั้งในคอร์ตและที่ชมจากจอที่ฉายภาพการแข่งขันสดนอกคอร์ต แต่อยู่ในบริเวณ ไว้ที่ 39,000 คน การหาซื้อตั๋วเข้าชมจึงต้องมีการกระจายการจัดสรร เพื่อให้ยุติธรรม ในขณะเดียวกันก็ต้องสร้างรายได้เพื่อให้การจัดการแข่งขันไม่ขาดทุน
การซื้อตั๋วทำได้ 4 วิธี คือ การจับสลาก การเข้าคิว การซื้อตั๋วสนับสนุน และการซื้อผ่านออนไลน์
วิธีที่หนึ่ง การซื้อตั๋วผ่านการจับสลาก มี 4 กรณีคือ โรงเรียนเทนนิส กรณีเป็นโค้ชสอนเทนนิส สมาชิกเทนนิสของสหราชอาณาจักร และกรณีสุดท้ายคือ บุคคลทั่วไป โดยสำหรับบุคคลทั่วไปนั้น จะให้ส่งแบบฟอร์มพร้อมซองเปล่าจ่าหน้าซองถึงตัวเอง โดยรับสมัครในช่วงเดือนกันยายนถึงธันวาคมของปีก่อนหน้า ทราบผลประมาณเดือนกุมภาพันธ์ และส่งบัตรให้ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน ซื้อได้ครอบครัวละ 2 ใบ และบัตรนี้เปลี่ยนมือไม่ได้
วิธีที่สองคือการเข้าคิว ซึ่งเขาเรียกกันว่า “The Queue” จะมีการจัดสรรบัตรเข้าชมคอร์ตกลาง คอร์ตที่หนึ่ง และคอร์ตที่สอง ให้วันละ 500 ใบต่อคอร์ต และหลังจากนั้นจะจัดสรร บัตรผ่านเข้างาน หรือ Ground Pass ที่เหลือให้จนหมด ซึ่งดิฉันไปสัมภาษณ์มาแล้ว ในสัปดาห์แรก มารอคิววันพุธ เพื่อจะได้บัตรเข้าชมการแข่งขันในวันศุกร์ ส่วนคนที่อยากได้บัตรผ่านเข้างาน ส่วนใหญ่ต้องไปคอยอย่างน้อยหนึ่งคืน
เขาจึงต้องจัดที่ให้นอนคอย ต้องเอาเต้นท์มานอนรอเลยค่ะ โดยจะมีเจ้าหน้าที่มาแจกคิวในตอนเย็น แต่ละครั้งห้ามออกจากคิวเกินกว่า 30 นาที เพื่อไปทำธุระเข้าห้องน้ำ ไปซื้ออาหารมารับประทาน ฯลฯ พอถึงเวลาหกโมงเช้าก็จะมีเจ้าหน้าที่มาปลุกให้ตื่นเพื่อมายืนเข้าคิว โดยต้องจัดเก็บเต้นท์และข้าวของต่างๆใส่กระเป๋าให้เรียบร้อยและนำไปฝาก เสียค่ารับฝากด้วยค่ะ พอถึง 9.30 น.ก็จะเปิดประตูกั้นและแจกสายรัดข้อมือเพื่อให้เริ่มซื้อบัตรของสามสนาม โดยจะเปิดให้เข้าในบริเวณได้ในเวลา 10.30 น. ของทุกวันที่มีการแข่งขัน
เขามีคู่มือของคนเข้าคิวแจกเป็นเล่มเลยค่ะ บอกกฎ กติกา มารยาท และแจ้งด้วยว่าหากมีการแซงคิว จะตัดสิทธิ์ในทันที
สองกลุ่มแรกที่มีการจับสลาก และเข้าคิวนี้ จ่ายเงินค่าบัตรในอัตราปกติคือ คอร์ตกลาง ตั้งแต่ 56-190 ปอนด์ คอร์ตที่หนึ่ง ราคา 45-98 ปอนด์ คอร์ตที่สองและสาม ราคาเท่ากันคือ 41-68 ปอนด์ และ บัตรผ่านเข้างาน ราคา 25 ปอนด์ในสัปดาห์แรก ซึ่งมีนักกีฬาดังๆแข่งในสนามด้านนอกให้ดูได้ด้วย แต่พอเข้าสัปดาห์ที่สองราคาบัตรผ่านเข้างานก็จะลดลง เพราะคอร์ตด้านนอกไม่มีการแข่งขันแล้ว จนกระทั่งเหลือ 8 ปอนด์ในวันชิงชนะเลิศของนักกีฬาชาย
กลุ่มที่สามเรียกว่าตั๋วสนับสนุน คือช่วยซื้อในราคาแพงเพื่อสนับสนุนการจัดการแข่งขัน โดยมีหลายแพคเกจ ตั้งแต่ธรรมดาหน่อยเริ่มต้นที่ที่นั่งละ 480 ปอนด์ (ประมาณ 21,600 บาท) ไปจนถึง 840 ปอนด์ และแบบหรู 1,495 ถึง 5,195 ปอนด์ (ประมาณ 233,775 บาท) ที่นั่งจะเป็นห้องส่วนตัวติดแอร์ มีรถรับส่งจากสถานีรถไฟไปกลับสนามแข่งขัน มีหนังสือโปรแกรมการแข่งขันให้ มี WiFi ให้ใช้ฟรี และมีเชฟชื่อดังมาทำอาหารให้ มีทั้งอาหารกลางวัน เครื่องดื่ม และขนมกับน้ำชาแบบอังกฤษ
กลุ่มที่สี่ ซื้อบัตรออนไลน์ ซึ่งจะขายให้สมาคมเทนนิสในสหรัฐและยุโรปที่เป็นพันธมิตรกัน โดยจะขายเป็นแพคเกจ มีโรงแรมที่พัก ฯลฯ
หากไม่ต้องการยุ่งยากซื้อบัตรผ่านทั้งสี่วิธีที่กล่าวมา ก็มีอีกวิธีหนึ่งคือการจ่ายล่วงหน้า (Debenture) ซึ่งทางชมรมลอว์นเทนนิสของอังกฤษออกตราสารมาเพื่อหาเงินไปสร้างหลังคาคอร์ตกลางในปีที่แล้ว ขายใบละ 50,000 ปอนด์ (ประมาณ 2.25 ล้านบาท) ผู้ถือตราสารมีสิทธิ์เข้าชมการแข่งขันในคอร์ตกลาง ตลอดการแข่งขัน เป็นเวลา 5 ปี (เฉลี่ยวันละ 34,600 บาท) รวมถึงมีห้องพักผ่อน ได้รับประทานอาหารและน้ำชา ฯลฯ ตราสารและบัตรเข้าชมการแข่งขันประเภทนี้สามารถขายต่อได้
ปีนี้มีการออกตราสารอีกล็อตหนึ่ง ใบละ 13,700 ปอนด์ (616,500 บาท) เพื่อนำไปสร้างหลังคาของคอร์ตที่หนึ่ง โดยให้สิทธิ์เข้าชมการแข่งขันในคอร์ตที่หนึ่ง ในช่วง 10 วันแรก เป็นเวลา 5 ปี (เท่ากับวันละประมาณ 12,330 บาท)
ถามว่าเงินรางวัลของนักกีฬาสูงไหม ตอบว่า เดิมในปี 2511 ที่เริ่มแข่งขันในลักษณะเปิดกว้าง แชมป์ชายเดี่ยวได้รับรางวัล 6,000 ปอนด์ ในขณะที่แชมป์หญิงเดี่ยว ได้รับรางวัล 500 ปอนด์ และเงินรางวัลรวม 26,150 ปอนด์ (ประมาณ 1.3 ล้านบาท ค่าเงินปี 2511) ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา รางวัลของนักกีฬาหญิงถูกปรับให้เท่านักกีฬาชาย และในปีนี้ เงินรางวัลของแชมป์ชายและหญิงเดี่ยว เท่ากับ 2.2 ล้านปอนด์ (ประมาณ 99 – 100 ล้านบาท) ชายหรือหญิงคู่ เท่ากับ 4 แสนปอนด์ และคู่ผสมเท่ากับ 1 แสนปอนด์ และเงินรางวัลรวมทั้งหมด 31.6 ล้านปอนด์
นักกีฬามีช่วงเวลาการทำงานที่ไม่ยาว และหากเป็นกีฬาบางประเภท เช่น มวย อาจส่งผลต่อสุขภาพของร่างกายในระยะยาว ดังนั้น ในช่วงที่สามารถหาเงินรางวัลได้ ต้องเก็บออมและลงทุน เพื่อให้งอกเงย กลายเป็นก้อนใหญ่ขึ้นที่จะสามารถเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวในยามสูงวัยได้ การวางแผนการเงินจึงมีความสำคัญมากเป็นพิเศษสำหรับอาชีพนักกีฬาค่ะ